[3]
สาวใช้ของนายยักษ์
เรือนไม้หอม
ละอองดาวตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายแก่ๆ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหนักหนาจนเธออยากจะเฉือนมันทิ้ง สมองหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยก้อนศิลาหนาหนัก มิหนำซ้ำอาการไอโขลกๆ ยังทำให้ท้องไส้โยกคลอนจนเจ็บร้าวชายโครง มันทรมานสุดๆ หรือว่าเธอใกล้จะตายแล้วใช่ไหม ทำไมมันถึงทรมานอย่างนี้
“ตื่นแล้วเหรอ ฉันว่าเธอควรกินข้าวเสียหน่อย จะได้กินยา”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มของสามีเอ่ยบอกภรรยาสาว ละอองดาวหันหน้าไปตามเสียงนั้น ทันได้เห็นมือหนาสอดสมาร์ตโฟนลงกระเป๋ากางเกง ถ้าเขาจะคิดถึงคนรักมากขนาดนั้น ทำไมไม่ไปอยู่ด้วยกันให้จบๆ จะมาทรมานด้วยการขังเธอไว้อย่างนี้ทำไม
“คุณโยคะ ดาว...ขอหย่าได้ไหม” เธอถามอย่างประหม่า หยดน้ำตาเริ่มขังคลอในหน่วยตาแสนเศร้า
“เธอไม่สบาย ฉันจะไม่คุยเรื่องนี้”
เขาบอกสั้นๆ แล้วก้าวขาพาร่างสูงใหญ่ตรงไปที่ประตู
“พอตอนดาวดีๆ คุณก็ไม่เคยโผล่มานี่นา ดาวไม่กล้าไปหาคุณที่บ้านโน้น คุณก็รู้” เธอบอกในสิ่งที่เขารู้ดี อยากคุยเรื่องหย่าแทบตลอดเวลา แต่เขาไม่เปิดโอกาสเลย
“ดีแล้ว เธอไม่ควรไปที่บ้านของนุต อย่าเข้าใกล้คนรักของฉัน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นอย่างที่สุด
ละอองดาวยันกายลุกขึ้นนั่ง เธอดึงลิ้นชักข้างเตียงออกมาแล้วโยนบางอย่างให้สามี
วาโยหยิบรูปถ่ายสองใบขึ้นมาพิจารณาด้วยมือที่สั่นระริก เสียงคำรามในลำคอยังไม่เท่าสายตาที่ทอดมองภรรยา เพราะมันดุดัน เครียดขมึงด้วยแรงดึงทึ้งของโทสะ ละอองดาวให้คนสะกดรอยตามถ่ายรูปเขา แต่สายสืบของหล่อนคงเข้าใจผิด ถึงได้ถ่ายแต่รูปของเขากับน้องสาวของวีนุตตรามาให้ และแน่นอนว่าละอองดาวคงเข้าใจว่า นิลอร เป็นคนรักของเขาอย่างแน่แท้ แต่ที่แน่ที่สุดในตอนนี้ก็คือ หล่อนไม่ควรกระทำ
“เธอกล้าดียังไง ถึงให้คนสะกดรอยตามฉัน!” วาโยถลาขึ้นไปบนเตียง เขากระชากหัวไหล่ของภรรยามาเขย่าจนศีรษะหล่อนโยกคลอน
“ดาวทำเพื่อตัวเอง คุณผิดสัญญาก่อน ความจริงมันครบตามสัญญาที่เราทำกันไว้นานแล้ว แต่คุณไม่ยอมหย่าให้ดาวเอง คุณกักขังดาวไว้ด้วยคำว่าบุญคุณและทะเบียนสมรส เมื่อไหร่จะปล่อยดาวไปซะที ดาวเหนื่อยนะคุณโย...”
หญิงสาวน้ำตาซึมเอ่อ อาการเจ็บป่วยทางกายทำให้หัวใจพลันอ่อนแรงตามไปด้วย วันนี้เธอจึงกล้าเฉลยความจริงให้เขารู้ หวังเพียงว่าจะข่มขู่ให้เขาเซ็นใบหย่าให้โดยง่าย
วาโยปล่อยมือจากร่างบาง เมื่อเห็นหยดน้ำตาไหลเป็นทางบนใบหน้าซีดเซียว
“ถ้าถึงวันนั้น ฉันจะพาเธอไปหย่าแน่นอน แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ว่าง”
เขาให้เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแม้แต่น้อย ละอองดาวขบเม้มริมฝีปากล่าง ตัดสินใจบอกเขาในเรื่องที่วางแผนไว้
“ดาวให้เวลาคุณหาวันว่างอีกสามเดือน ถ้าสามเดือนคุณไม่ยอมทำตามที่พูด ดาวจะฟ้องหย่า ดาวมีหลักฐานคือรูปพวกนี้ ศาลจะต้องเห็นใจเมียหลวงอย่างดาว และถ้าคุณไม่อยากเสียเงินทองของคุณละก็ กรุณานัดวันมาเถอะค่ะ อย่ารีรออะไรอีกเลย”
“แล้วเธอคิดว่าฉันรออะไรฮะ!”
“ไม่รู้สิคะ ไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมพวกคุณต้องทำอะไรให้มันยุ่งยาก รักกันชอบกันก็แต่งงานอยู่กินกันเสียก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาสองบ้านให้มันเหนื่อย ที่สำคัญกว่านั้น...ไม่รู้จะดึงดาวมาทรมานทำไม!” ถามเขาอย่างไม่เข้าใจ หยดน้ำตาเริ่มเหือดหาย เฉกเช่นหัวใจที่แห้งจนแตกระแหงไปแล้ว
“ฉันมีเหตุผลของฉัน สักวันเธอจะรู้เอง” เขาตอบภรรยาอย่างที่เคยบอกทุกครั้ง มันเผยพิรุธชัดเจน หากละอองดาวจะลองสังเกต
“ดาวไม่อยากรู้! ดาวอยากหย่าอยากไปให้พ้นๆ จากคุณได้ยินไหม! อุ๊บ!”
ละอองดาวเอามือปิดปาก เพราะลำไส้อันว่างเปล่ากำลังตีวนเอามื้อเช้าออกมาทางเก่า
วาโยรีบเอาถังขยะใบน้อยไปรองอาเจียนให้คนป่วย หล่อนโก่งคออาเจียนจนตัวโก่ง ร่างสั่นสะท้านยามต้องออกแรงขย้อนของเสีย หล่อนอาเจียนจนไม่มีอะไรจะออกมาแล้ว
“ไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันว่าเธออาการหนักแล้วนะ”
“ไม่!” คำตอบสั้นๆ แต่กระด้างและหนักแน่นจนวาโยยังสะดุ้ง
สามีที่นานๆ ทีจะได้ปรนนิบัติภรรยา กำลังทำหน้าที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นเพราะสาวใช้ที่แวบไปแวบมาได้พาร่างกายของเจ้าหล่อนหลบซ่อนจากสายตาเขาเสียแล้ว เขาจำต้องพาละอองดาวไปเช็ดเนื้อเช็ดตัวในห้องน้ำ ก่อนจะเอาถังขยะใบดังกล่าวไปวางไว้ด้านนอกเพื่อที่กลิ่นของมันจะได้ไม่รบกวนพวกเขา
“ถ้าเธอไม่อยากไปโรงพยาบาลก็นอนพักเถอะ ฉันจะให้เด็กเอาข้าวต้มมาให้ กินแล้วก็กินยาด้วยล่ะ ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้เธอหายดีแล้ว...ค่อยคุยกันอีกที ฉันพูดจริงๆ”
เขาย้ำให้หล่อนมั่นใจ ละอองดาวคงหมดความเชื่อมั่นในตัวเขาตั้งแต่วันที่เขาผิดวาจา เงื่อนไขในการแต่งงานระหว่างเขาและหล่อน จะมีระยะเวลาเพียงสามปีเท่านั้น แต่เขากลับบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบมาได้จนตอนนี้ก็เลยสามปีมาหลายเดือนแล้ว เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ย้ำกับตัวเองอยู่ทุกคืนวันว่าสตรีที่รักมีเพียงวีนุตตรา แต่ทว่า พอถึงเวลาที่ละอองดาวต้องไปจากกัน เขากลับทำใจไม่ได้ มันเหมือนว่าเขากำลังจะสูญเสียบางอย่างที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ประหนึ่งว่าถ้าหากหล่อนไปจริงๆ เขาจะไร้ซึ่งอากาศที่ใช้หล่อเลี้ยงลมหายใจ
“ขอบคุณ” เธอตอบสั้นๆ ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย