[ไงแก ทำอะไรอยู่ ว้าย! ผู้ชาย!]
เสียงของแกรตตี้ดังขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นหนุ่มนักท่องเที่ยวตาฟ้ากำลังเดินสวนไปมาอยู่ด้านหลังของเพื่อนสนิท
อันดาหัวเราะออกมาเบา ๆ ขณะชูมือขึ้นเพื่อหาสัญญาณวิดีโอคอลกับเพื่อน โดยมีฉากหลังเป็นหนุ่มตาน้ำข้าวที่แวะเวียนเข้ามาทักทายคนในจอราวกับรู้จักกัน
“ฉันมาฟูลมูนปาร์ตี้! คนโคตรเยอะเลยแก!” อันดาตอบกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่ต่างจากเพื่อนสนิท ก่อนจะเดินไปนั่งที่ร้านเหล้าปั่นเพื่อจะได้คุยสะดวกมากขึ้น
[น่าไปมากกกก รู้อย่างนี้ฉันน่าจะไปกับแกด้วยดีกว่า โคตรเสียดายเลย]
“ครั้งหน้าก็มาสิ อาหารตาโคตรเยอะ”
[เป็นฉันนี่จะตกให้ได้สักคนแล้วลากไปกินที่ห้อง]
“ฮ่า ๆ ๆ”
อันดาคุยกับแกรตตี้ไปเรื่อยเปื่อยเพราะความเหงา จนกระทั่งเสียงเพลงรอบข้างดังขึ้น เธอจึงวางสายและเดินเล่นไปตามซุ้มต่าง ๆ และเมื่อเห็นซุ้มของคนไทยที่รับเพนท์ตัว เธอจึงเดินเข้าไปต่อแถวทันที
การมาคนเดียวมันก็จะเหงาแบบนี้แหละ เอาไว้ค่อยไปเนียนกับชาวบ้านเขาก็แล้วกัน
“พี่คะ! ลายผีเสื้อเท่าไหร่คะ” เสียงหวานเอ่ยถามพี่สาวเจ้าของร้านด้วยสายตาตื่นเต้น เพราะเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน
“สองร้อยค่ะน้อง เอาลายนี้เลยไหม”
หญิงสาวพยักหน้าตาเป็นประกาย จากนั้นยื่นแขนให้เจ้าของร้านทันที
“เอาค่ะ!”
หลังจากจ่ายเงินค่าเพนท์ตัวเสร็จแล้ว ดวงตากลมจึงกวาดมองบรรยากาศรอบข้างอันเต็มไปด้วยความคึกครึ้นอย่างตื่นเต้น แต่พอเห็นนักท่องเที่ยวมากับกลุ่มเพื่อนแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ เพราะเธอมันตัวคนเดียว พอคิดจะเมกเฟรนด์กับใครเขาก็ดันเกิดอาการเขินอีก
หรือว่าจริง ๆ แล้วเธอจะไม่เหมาะกับการอยู่ท่ามกลางผู้คน
เห้อ...ช่างมันเถอะ อย่างนี้ก็สนุกดี
และเพราะคำว่าช่างมันนั่นแหละ ถึงทำให้อันดากลายเป็นส่วนหนึ่งของงานไปจนได้ นอกจากมือข้างหนึ่งจะถือโทรศัพท์เพื่อถ่ายรูปกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว มืออีกข้างก็ยังถือขวดเหล้าแล้วชนขวดกับคนอื่นเขาไปทั่ว จนกระทั่งรู้ตัวอีกเธอก็กลายเป็นดอกไม้กลางดงผึ้งไปเสียแล้ว
ซึ่งคนที่กำลังเมาได้ที่แบบเธอ ก็ไม่ได้ปฏิเสธการเข้ามานัวเนียของชายหนุ่มแต่อย่างใด เรียกได้ว่ากำลังอ่อยเหยื่อเต็มที่ แต่จะเป็นอารมณ์แบบถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะผู้คนส่วนใหญ่ก็เข้ามาทักทายแล้วก็จากไปหาความสนุกใหม่ และเธอก็กำลังทำแบบพวกเขาเหล่านั้นเช่นกัน
เสียงเพลงในซุ้มต่าง ๆ ดังกระหึ่มราวกับกำลังแข่งกันแย่งลูกค้า แต่ผู้คนมากมายล้นหาดกลับไม่ได้สนใจการเรียกร้องความสนใจสักเท่าใดนัก พวกเขาเต้นได้ตลอดเวลา สนุกกับงานและการแสดงต่าง ๆ ไปอย่างสุดเหวี่ยง
เธอเองก็ตั้งใจปล่อยความทุกข์ออกไปให้หมดในวันนี้เช่นกัน รวมทั้งชื่อของผู้ชายเลว ๆ ที่ทำให้แผนชีวิตของเธอต้องพังพินาศ!
“เฮ้! วันนี้เรามาสนุกกันเถอะ ผมเลี้ยงคุณเอง!”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ เลี้ยงฉันเหรอ คุณต้องจ่ายเยอะหน่อยนะ” เสียงหวานตอบกลับผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามากอดเอว ซึ่งถ้าหากไม่เมาเธอก็คงไม่ใจกล้าขนาดนี้ และคนที่เข้ามาหาเธอแบบนี้ก็คงคิดว่าเธอง่ายละมั้ง
แต่ก็ง่ายจริง เพราะหลังจากถูกฝ่ามือร้อน ๆ ของเขาลูบไล้ไปทั่วก็ทำเอาเคลิ้มไปเลย
ทว่าระหว่างที่อันดากำลังเคลิ้ม กลับมีผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงใหญ่ เข้ามาขัด
“ที่รัก...คุณเมาแล้วนะครับ”
ที่รัก? ให้ตายสิ... นี่เธอมีผัวใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย
อันดาเหลือบมองคนอ้างตัวด้วยความสงสัย
แต่เพราะการเข้ามาของเขา ทำให้ผู้ชายคนที่เข้ามาจีบเธอก่อนถึงกับถอยหลังและจากไปทันที
อา...เหยื่อของเธอ หลุดลอยไปแล้ว
“เฮ้! อีวาน นายอย่าแย่งเหยื่อของฉันสิ ฉันเห็นก่อนนะ” ผู้ชายผมสีน้ำตาลอ่อนอีกคนเดินเข้ามากระชากแขนของคนที่เรียกเธอว่าที่รัก
ดวงตากลมฉ่ำหวานเงยขึ้นมองพวกเขาอีกครั้งด้วยสายตามึนงง
เหยื่อเหรอ พวกเขาพูดเรื่องอะไรกันอยู่ เธอไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด แต่พอเห็นใบหน้าของผู้ชายผมสีน้ำตาลอ่อนใกล้ ๆ แล้ว ก็ทำให้เธอรู้สึกดีจนเคลิ้มเลย
ผู้ชายอะไร หล่อน่ากินชะมัด
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงสับสนในสถานการณ์วุ่นวายตอนนี้อยู่ เพราะกำลังเมาด้วย ก็เลยประคองสติไม่ค่อยได้
“อึก...” อันดาพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนของคนที่กอดอยู่ข้างหลังเพราะรู้สึกเวียนหัว ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่ได้ดื่มจนเมาแบบนี้มานานแล้วแน่ ๆ ถ้าหากโดนใครลากไปก็คงช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว...
อา...แย่แล้ว