ตอนที่ 4
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
สุทินได้แต่เฝ้ามองเจ้านายของตัวเองเดินวนไปวนมาหลายสิบรอบ นับตั้งแต่ส่งหญิงสาวหน้าตาน่าเอ็นดูถึงมือหมอ
“คุณท่านครับ หยุดเดินก่อนเถอะครับ ผมเวียนหัวไปหมดแล้วครับ” สุทินบอกเสียงเรียบๆ ก่อนจะรีบหดตัวหนี เมื่อคุณพฤกษ์ยกไม้เท้าขึ้นสูง
“นี่แกกล้าสั่งฉันหรือไง สุทิน!”
“ใครจะไปกล้าสั่งคุณท่านล่ะครับ ผมแค่บอกเฉยๆ เองครับ” สุทินตอบเสียงอ่อยๆ
“ก็แล้วมันต่างกันตรงไหน! แล้วไอ้ที่ฉันเดินไปเดินมาอยู่นี่ ก็เพราะฉันเป็นห่วงแม่หนู ว่าแต่ทำไมแม่หนูยังไม่ออกมาสักที แกลองไปดูทีสิสุทิน แล้วรีบมาบอกฉัน” ออกคำสั่งจบแล้วก็เดินไปหาที่นั่ง ส่วนสุทินก็จำต้องเดินไปด้อมๆ มองๆ หน้าห้องฉุกเฉิน รอไม่นานสุทินก็เดินมายืนสงบเสงี่ยมอยู่ใกล้เจ้านายของตนเช่นเดิม ฝ่ายคุณพฤกษ์ก็ได้แต่นั่งถอนใจทิ้งไปพลางๆ ระหว่างรอฟังข่าวอาการของหญิงสาวคราวลูก ที่ตนจะรับไปดูแลแน่ๆ หากหญิงสาวไม่มีที่ไป แต่ก็ต้องถอนใจอย่างหนัก เมื่อคิดว่าจะพาหญิงสาวคราวลูกเข้าบ้าน แล้วลูกชายรู้เรื่องเข้า ภานุภัทรคงไม่มีทางยอมและคงขัดขวางจนถึงที่สุดเป็นแน่
“คุณท่านครับ!”
เสียงขานเรียกจากสุทินทำให้คนตกอยู่ในภวังค์สะดุ้ง ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่กำลังกังวล “ได้ความว่ายังไงบ้างสุทิน”
“คุณหมอยังไม่ออกมาแจ้งอาการเลยครับ แต่ผมว่าคุณท่านใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะออกมาแล้วละครับ” สุทินรายงานแล้วรีบเอนตัวหนีไม้เท้าที่ถูกยกขึ้นสูง
“แกนี่มันชักจะเอาใหญ่แล้วนะสุทิน ชอบสั่งฉันอยู่เรื่อย”
“ผมขอโทษครับ”
“จะมามัวขอโทษทำไม ไปรอฟังข่าวหมอสิ”
“ครับๆ” สุทินไม่ทันได้เดินไปไหนคุณหมอก็เดินออกมา คุณพฤกษ์จึงรีบเข้าไปสอบถามอาการและได้รู้ว่าหญิงสาวคราวลูกอาการปลอดภัยแล้ว แต่หมอแนะนำให้นอนดูอาการหนึ่งคืน เนื่องจากคนป่วยร่างกายอ่อนเพลียมาก
“จะเอายังไงต่อครับคุณท่าน” สุทินเอ่ยถามผู้เป็นนายทันทีหลังจากคุณหมอที่ออกมาแจ้งอาการไปดูแลคนไข้รายอื่น
“แกโทรไปตามแม่อิ่มให้มาเฝ้าแม่หนูไว้ แล้วพรุ่งนี้เช้าฉันจะมารับแม่หนูไปที่บ้าน ส่วนแกก็ไปเตือนทุกคนเอาไว้ว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้เจ้าภัทรรู้” หลังครุ่นคิดอยู่สักพักคุณพฤกษ์จึงออกคำสั่งกับสุทินเสียงเรียบ แต่กลับสร้างความหนักใจให้กับคนรับคำสั่งไม่น้อย เพราะการจะปิดบังคุณภัทรไม่ใช่เรื่องง่าย
“สุทิน! มายืนบื้ออยู่ได้ รีบไปจัดการสิ หรือแกจะรอให้ฉันเอาไม้เท้าฟาดกลางกบาลแกเสียก่อน แกถึงจะรีบจัดการ แล้วอย่าลืมย้ำแม่อิ่มด้วยว่าอย่าป่าวประกาศให้คนในบ้านรู้” คุณพฤกษ์บอกเสียงแข็งเมื่อคนขับรถยังยืนนิ่ง
“แล้วมันจะดีหรือครับคุณท่าน ผมว่าคุณท่านน่าจะให้ทางโรงพยาบาลติดต่อหาญาติของแม่หนูเองนะครับ คือผมไม่อยากให้คุณท่านมีเรื่องทะเลาะกับคุณภัทรจริงๆ นะครับ” สุทินกล่าวเตือนอีกครั้ง แม้จะรู้ดีว่าไม่สมควร
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เองถ้าเจ้าภัทรรู้เรื่อง ส่วนแก รีบไปทำตามที่ฉันสั่ง ก่อนจะโดนไม้เท้าฉันฟาดกบาล” ขาดคำของคุณพฤกษ์ที่มีสีหน้าหนักใจพอสมควร สุทินก็ไปจัดตามคำสั่งโดยโทรไปยังคฤหาสน์ของคุณพฤกษ์พร้อมกำชับไม่ให้ใครบอกกล่าวเรื่องนี้ให้ใครรับรู้
กระทั่งจัดการตามคำสั่งเรียบร้อยแล้วสุทินก็เดินกลับไปหาเจ้านาย เพื่อรอให้แม่อิ่ม แม่บ้านประจำคฤหาสน์มาถึงโรงพยาบาลและอยู่เฝ้าหญิงสาวจนกว่าคุณพฤกษ์จะมารับเข้าไปอยู่ในบ้าน
ที่บ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ตรีเทพเดินกลับมาจากการออกตามหาน้องสาวด้วยอาการหงุดหงิดไม่ต่างจากพล ที่เดินย้อนกลับมารับฟังข่าวที่บ้านของเพื่อนด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หลังกลับไปถึงบ้านก็ถูกผู้เป็นแม่ดุด่า ซ้ำยังสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิ่งเพชร เพราะผู้เป็นแม่ไม่อยากได้เป็นลูกสะใภ้
“ไอ้พล ไหนมึงบอกจะรออยู่บ้าน” ตรีเทพเปิดฉากถามทันทีเข้าบ้านมาแล้วเจอเพื่อน
“ไม่อยากรอที่บ้าน แล้วนี่น้องมึงอยู่ไหน” พลย้อนถามด้วยน้ำเสียงไม่ต่างจากเพื่อน
“ไม่รู้โว้ย!” ตรีเทพบอกแล้วก็เดินเข้าบ้านแต่พลมารั้งไหล่ไว้
สองหนุ่มหันมาประจันหน้ากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อฝ่ายหนึ่งอยากได้น้องเพื่อนเป็นเมียแทบขาดใจ แต่อีกฝ่ายก็ตามหาตัวน้องสาวไม่พบเลยทำให้ชวดเงิน
“ตอบแบบนี้ แสดงว่ามึงไม่อยากได้เงินใช่ไหมวะ” พลถามกลับเสียงกร้าว
“อยากได้! แต่กูไม่รู้ว่ายัยเพชรหายไปไหน แล้ววันนี้กูก็เหนื่อยแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้มึงค่อยมารับน้องกูแล้วกัน กูว่าเดี๋ยว ยัยเพชรก็กลับมาเอง แล้วถ้าน้องกูมาแล้ว กูจะขังเอาไว้ให้!” พูดจบ ตรีเทพก็ปัดมือเพื่อนออกจากไหล่แล้วตัวเดินเข้าบ้าน แต่พลก็ตามมากระชากตัวให้หันมาคุยกัน
“มีอะไร!” ตรีเทพถามกลับสีหน้าหงุดหงิด
“กูไม่เชื่อว่าน้องมึงจะกลับมา”
“ยัยเพชรมันกลับมาแน่ๆ”
“เงินสามหมื่นมึงไม่อยากได้หรือไง” พลเอาเงินมาล่อ แล้วมองเพื่อนอย่างเป็นต่อ เพราะรู้จักนิสัยตรีเทพดี แม้แต่ก่อนตรีเทพจะไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน แต่หลังจากที่มันอกหักจากผู้หญิงคนหนึ่ง นิสัยของมันก็เปลี่ยนไปจนแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ!
“เออๆ กูจะไปตามให้ แล้วถ้ามึงเบี้ยวกูแม้แต่บาทเดียว มึงตายแน่ไอ้พล แล้วก็กลับบ้านมึงไปได้แล้ว รอให้กูเจอตัว ยัยเพชรก่อน แล้วกูจะเอามันมาขังไว้บนห้อง แล้วไปตามมึงมาพร้อมเงินสามหมื่นของกู แต่ถ้ามึงไม่มีเงิน มึงก็อดได้น้องกูเป็นเมีย!” ตรีเทพขู่กลับบ้างแล้วจำใจเดินออกจากบ้านไปตามหาตัวน้องสาวอีกครั้ง เพื่อเงินก้อนโต โดยไม่คิดห่วงใยผู้เป็นน้องสาว
“แล้วกูจะรอ!” พลพูดทิ้งท้ายแล้วเดินกลับบ้านพักของตนที่อยู่ถัดไปอีกซอย โดยไม่ทันนึกเอะใจว่าตรีเทพไม่ได้ออกไปตามหาตัวน้องสาวอย่างที่รับปากไว้
ฝ่ายตรีเทพเมื่อแน่ใจว่าเพื่อนกลับบ้านไปแล้ว จึงเดินออกมาจากมุมมืดแล้วเดินเข้าบ้าน จากนั้นก็ไปค้นหาน้องสาวภายในบ้านอีกครั้ง ด้วยความหวังว่ากิ่งเพชรอาจจะกลับมาที่บ้านและขังตัวเองอยู่ในห้อง แต่ก็ไร้เงาน้องสาวเช่นเดิม เมื่อ ตรีเทพเปิดประตูห้องของผู้เป็นน้องสาวเข้าไป