ตอนที่ 3

1218 Words
ตอนที่ 3 “มึงมองหน้ากูทำไมไอ้เทพ กูบอกให้ไปตามน้องมึงมา” พลออกคำสั่งเสียงห้วนจัด ยื่นมือผลักอกของตรีเทพอย่างแรงเพื่อให้เพื่อนออกไปตามหาตัวน้องสาว “ก็แล้วใครใช้ให้มึงปล่อยยัยเพชรหนีไป” “ไอ้เทพ! มึงไม่ต้องเถียงกู รีบไปตามน้องมึงมา” “มึงปล่อยยัยเพชรหนีไปเองก็ไปตามเองสิว่ะ! ส่วนกู เหนื่อยแล้ว อยากนอน!” ตรีเทพตะโกนใส่หน้าก่อนผลักพลจนล้ม จากนั้นสองหนุ่มที่มีความมึนเมาไม่ต่างกันก็ลงไม้ลงมือใส่กันจนคนละแวกนั้นชินชา และต่างก็พากันสงสารแต่กิ่งเพชร หญิงสาวที่น่าจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ แต่กลับต้องคอยหาเงินมาประเคนให้พี่ชายไม่เอาไหน ที่พอได้เงินมาเท่าไรก็จมไปกับขวดเหล้า “หยุดกัดกันได้แล้ว รำคาญโว้ย!” บ้านใกล้ๆ ตะโกนออกมา แต่คนถูกห้ามยังชกต่อยกันไม่หยุด กระทั่งผ่านไปราวสิบนาทีจึงได้ถอยห่างจากกัน แล้วต่างฝ่ายต่างก็จ้องกัน ปานเป็นคู่แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน “มึงจะเอายังไง ไอ้พล” ตรีเทพเอ่ยถามเสียงห้วนๆ ตั้งท่าจะซัดฝ่ายตรงข้ามด้วยการง้างหมัดขึ้นสูง “จะเอาน้องมึงเป็นเมียให้ได้ไง แล้วถ้ามึงอยากได้เงินจากกู มึงก็ต้องออกไปตามหาน้องมึง แล้วถ้าเจอน้องมึงเมื่อไหร่ ก็เอาไปให้กูที่บ้าน แล้วกูจะให้เงิน” บอกกล่าวจบพลก็ผลักมือของอีกฝ่ายออก แววตาดุกระด้างมองว่าที่เมียอย่างเป็นต่อ “กูไปตามหาให้ก็ได้ ส่วนมึงก็อย่าคิดตุกติกกับกูก็แล้วกัน ไม่งั้นกูจะเอายัยเพชรไปให้คนอื่น” ตรีเทพพูดขึ้นก่อนจะเดินหนีเพื่อนไปตามหาตัวน้องสาว ที่ไม่รู้หนีหายไปไหน ทั้งที่ทุกครั้งกิ่งเพชรจะต้องหนีขึ้นไปขังตัวเองอยู่บนห้องพัก ทางด้านกิ่งเพชรยังคงวิ่งสลับเดินต่อไปตามถนนที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย เพราะยังไม่รู้จะไปทางไหน ทุกย่างก้าวมันดูมืดมนเหลือเกินในเวลานี้ ใจดวงน้อยก็ยังหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิด น้ำตาที่ไหลราวกับสายฝนก็ยังหลั่งรินไม่หยุด เธอเหนื่อย เธอท้อแท้เหลือเกิน ‘พ่อจ๋าแม่จ๋า ช่วยเพชรด้วย’ เจ้าของร่างเล็กเดินโซซัดโซเซจากอาการเหนื่อยหอบ สายตาก็เริ่มพร่ามัวลงเรื่อยๆ ขณะนั้นก็มีรถคันหนึ่งแล่นมาด้วยความสูงและต้องเบรกกะทันหัน เอี๊ยด!! “สุทิน! เกิดอะไรขึ้น” ผู้เป็นนายเอ่ยถามคนขับรถทันที เมื่อรถที่นั่งมาหยุดกะทันหัน “ผมยังไม่แน่ใจครับ แต่เดี๋ยวผมขอลงไปดูก่อนนะครับ แล้วจะรีบมาบอกคุณท่าน” สุทิน คนขับรถของคุณพฤกษ์ อดีตประธานบริษัท ภโวทัย เอ็นเตอร์เทนเมนต์ หันมาบอกก่อนเปิดประตูรถออกไปดูสิ่งที่ตัวเองยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร “สุทิน! แกระวังตัวหน่อยแล้วกัน สมัยนี้คนไว้ใจยากขึ้นทุกวัน” สิ้นคำเตือนของเจ้านาย สุทินก็เดินไปยังหน้ารถด้วยท่าทีระมัดระวังตัว “ผู้หญิงครับคุณท่าน” เมื่อลงมาเห็นว่าเป็นผู้หญิง สุทินก็เดินมารายงานเจ้านายด้วยเสียงตื่นตระหนก “แล้วแกได้ขับรถชนเขาหรือเปล่า” “ไม่ได้ชนครับ” “แกแน่ใจ” “ผมแน่ใจครับ แต่ผู้หญิงคงตกใจเลยสลบไป คุณท่านจะให้ผมทำยังไงต่อครับ” สุทินอธิบายพร้อมกับเอ่ยถามเสียงยังตื่นตระหนกเช่นเดิม “ก็เอาขึ้นรถ แล้วรีบพาไปส่งโรงพยาบาล” “ครับๆ” “เร็วเลยสุทิน” สิ้นเสียงเจ้านายสุทินก็เดินไปอุ้มหญิงสาวที่นอนสลบอยู่บนถนนเข้าไปนั่งในรถ แล้วพาไปส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางไปโรงพยาบาล คุณพฤกษ์ ชายวัยกลางคนก็เฝ้าเพ่งพิศหญิงสาวที่นอนหนุนตักตนด้วยความสงสารระคนเอ็นดู ที่ตัวท่านเองก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ไปเจอะเจออะไรมาบ้างถึงได้มานอนสลบอยู่กลางถนน “หน้าตาน่าเอ็นดูดีนะครับคุณท่าน แต่ผมว่าพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วก็ให้ทางโรงพยาบาลตามหาญาติดีไหมครับ เพราะตอนนี้ดึกแล้ว คุณท่านจะได้กลับไปพักผ่อน” หลังมองผ่านกระจกแล้วเห็นเจ้านายที่ตนรับใช้มานานเอาแต่มองหญิงสาวคราวลูกเพียงอย่างเดียว ทำให้สุทินพูดขัดขึ้นด้วยความหวังดี เพราะไม่อยากให้เจ้านายต้องทะเลาะกับลูกชาย “แกอย่ามาสั่งสอนฉันเลยสุทิน ฉันรู้ว่าตัวฉันกำลังทำอะไร แล้วฉันก็รู้ว่าใจแกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าฉันจะรับแม่หนูคนนี้เข้าบ้าน เพื่อให้แม่หนูอยู่ดูแลฉัน มันก็ไม่ผิดไม่ใช่หรือสุทิน ในเมื่อเจ้าภัทรไม่เคยมาดูแลฉันเลยตั้งแต่กลับจากต่างประเทศ แกยังจำได้ไหมว่าฉันได้เห็นหน้าเจ้าภัทรครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” คุณพฤกษ์เอ่ยเสียงสั่นเครือ หากย้อนเวลากลับไปได้ ท่านจะไม่ทำตัวเหลวไหลจนเป็นสาเหตุทำให้ภรรยาประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ซ้ำร้ายลูกชายเพียงคนเดียวยังตะโกนใส่หน้าปาวๆ ว่าฆ่าแม่ ตนยอมรับว่าทำผิดอย่างมหันต์และก็ยอมรับผิดมาตลอด แต่ลูกชายก็ยังไม่ให้อภัย หนำซ้ำพบหน้ากันครั้งใดก็ทะเลาะกันทุกครั้ง “ผมขอโทษครับ ผมแค่หวังดีกับคุณท่าน เพราะถ้า คุณภัทรรู้เรื่อง ผมเกรงว่าคุณท่านกับคุณภัทรจะทะเลาะกันอีกครับ” สุทินกล่าวเสียงนอบน้อม ซ้ำยังอดสงสารเจ้านายของตนไม่ได้ ที่มีลูกชายอยู่คนเดียวแต่ลูกชายไม่เคยกลับมาดูแล และยังจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุณภัทรมาพบคุณพฤกษ์ก็เมื่อครั้งที่คุณพฤกษ์จะรับคุณมธุรสมาเป็นภรรยา แต่สุดท้ายคุณพฤกษ์ก็ไม่ได้รับคุณมธุรสเป็นภรรยา เพราะฝ่ายหญิงหันไปหาลูกชายคุณพฤกษ์แทน ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้ข่าวว่าคุณภัทรก็เลิกรากับ คุณมธุรสไปแล้วจากคนสนิทของคุณภัทร แต่พวกนักข่าวก็ยังลงข่าวกันอยู่ว่าทั้งสองจะแต่งงานกัน เร็วๆ นี้ “ฉันทะเลาะกับเจ้าภัทรจนชินแล้ว แต่สำหรับเรื่องแม่หนูคนนี้ เอาไว้ให้แม่หนูฟื้นขึ้นมาก่อน แล้วมาคิดกันอีกทีว่าจะทำยังไง ส่วนแก รีบขับรถไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันเป็นห่วงแม่หนูคนนี้เหลือเกิน” สุทินได้แต่ถอนใจเบาๆ และหันไปสนใจขับรถตามคำสั่ง แต่ใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าถ้าหากหญิงสาวหน้าตาน่าเอ็นดูคนนี้ฟื้นขึ้นมา แล้วไม่มีที่ไป คุณพฤกษ์คงจะรับหญิงสาวเข้าไปอยู่ในบ้าน คราวนี้บ้านคงได้ลุกเป็นไฟอีกครั้งแน่ แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะทำให้ไฟในบ้านลุกนอกจากลูกชายเจ้าของบ้าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD