สิ่งที่รินะคุยกับอนาคินมาโดยตลอดทางคือเรื่องอาหาร ชายหนุ่มฟังและก็ตอบบ้างโดยที่ไม่ได้เบื่อเพราะหญิงสาวกำลังปรึกษาเขาเรื่องหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นและเสิร์จหาร้านอร่อยในโทรศัพท์ไปด้วย และเขากำลังเปิดแผนที่เพื่อหาร้านที่เธออ่านรีวิวอยู่...
"โอย รินะเริ่มหิวแล้วแต่ร้านนั้นอยู่ตรงไหนนะทำไมไม่เจอ ในแมพหลอกแน่ๆ เลย แม่กับป้าเมตหิวไหมคะ" หญิงสาวหันกลับไปถามสมาชิก แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
"อ้าว แม่กับป้าเมตหาย"
"แวะร้านไหนหรือเปล่า" สว. ที่แปลว่าสูงวัยทั้งคู่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือเป็นขาชอป เวลาไปเที่ยวอย่าได้มีใครเอาอะไรมาขาย พากันซื้อหมดจนล้นบ้านทุกครั้ง
แต่ทั้งสองยืนรอครู่หนึ่งก็ยังไม่เห็นมารดา รินะเลยกดโทรหามารดาผ่านไลน์ เพราะพวกเธอซื้อซิมการ์ดเกาหลีแบบมีอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด ส่วนป้าเมตเปิดโรมมิ่งให้หมายเลขโทรศัพท์ที่ไทยมาใช้ที่นี่ได้เพราะรอรับสายง้อจากสามี
"แม่ขา แม่กับป้าอยู่ไหน"
[ป้าเมตแวะซื้อขนมช็อกโกพาย เดี๋ยวตามไปนะ หาร้านได้แล้วปักหมุดไว้แม่จะเดินตามไปเอง]
"โอเคค่ะ แม่ซื้อของเสร็จกันแล้วตามมานะ"
หญิงสาวหันมาพยักหน้าให้อนาคินเดินหาร้านที่มีรีวิวน่ากินด้วยกัน... หญิงสาวมีแผนสำหรับอาหารของเมืองนี้แล้ว แต่ที่โม้ให้อนาคินฟังมาตลอดทางคืออาหารทะเลสดๆ ที่โพฮัง ไส้หมูย่างที่แดกู และยังเพ้อหาเกี๊ยวซ่าร้านอร่อยที่อินชอนอยู่ อนาคินเป็นคนชอบกินอาหารอร่อยเหมือนกันเพราะโตมากับกิจการร้านอาหารของครอบครัว แต่เขาไม่ค่อยคลั่งในของอร่อยเท่าเธอ
แต่พอฟังรินะละเมอเพ้อพกถึงอาหารอร่อย เขาก็หิวขึ้นมาเหมือนกัน
"อ๊ะ นี่มันร้านที่เราตามหากันอยู่นี่" หญิงสาวชี้แผ่นป้ายหินที่สลักภาษาเกาหลี
"ไม่น่าจะใช่ร้านอาหาร" อนาคินบอกหลังจากมองอาคารที่ด้านในที่ไม่มีโต๊ะอาหารสักโต๊ะ
รินะเดินไปดูหลังป้าย ก็ไม่เจอร้านอาหาร หญิงสาวลองสะกดคำตามป้าย แล้วก็มาดูในรีวิวที่เขียนชื่อร้านเป็นภาษาไทย
"นี่คือชื่อร้านที่เราตามหา แต่ทำไมมีแค่ป้ายล่ะคะ" คนหิวทำเสียงเหมือนหมดแรง...
"อ่านภาษาเกาหลีออกเหรอ"
"ใช่ค่ะ รินะเรียนในยูทูปเค้าสอนอ่าน แล้วศัพท์หลายๆ คำก็จำได้จากซีรีส์เกาหลี ป้าเมตกับแม่ก็พูดได้เหมือนกันค่ะ แต่รินะอ่านออกเขียนได้ด้วย"
หญิงสาวอวด ในขณะที่อนาคินนิ่งเงียบไป เจ้าตัวก็เดินไปถามคู่รักที่เดินผ่านมาเกี่ยวกับร้าน แต่สองคนนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เธอก็ถามด้วยภาษาเกาหลี ผสมกับอังกฤษ แล้วก็โค้งขอบคุณอีกฝ่าย แต่อนาคินฟังไม่ออกว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
"ร้านปิดปรับปรุงค่ะ ก่อนหน้านี้ก็อยู่ตรงตึกนี้แหละ"
"หาร้านสำรองดีกว่า"
"งั้นเดินเล่นไปแล้วเจอร้านไหนน่ากินก็เข้าไปกินเลยดีไหมคะ"
"อืม" อนาคินพยักหน้า... รินะเลยเดินไปพร้อมเขา หญิงสาวเห็นหลายคนใส่ชุดฮันบกซึ่งเป็นชุดประจำชาติของเกาหลีเดินเป็นคู่กันน่ารักมาก บรรยากาศมันโรแมนติกจนใจเจ็บ
"พี่คิน..."
"อะไร"
"ขอเดินจับมือหน่อยสิคะ"
เขาจ้องหน้าเธอแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินนำไป
รินะไหล่ห่อ
"ก็ใช่สินะ ไม่ใช่แฟนควงแขนก็ไม่ได้"
"..." อนาคินไม่พูดอะไรเขามองหาร้านอาหารมากกว่าจะสนใจคนตัวเล็กที่กำลังโวยวายตามเขามา รินะก็เป็นอย่างนี้ พูดเข้าใจทุกอย่าง แต่ขอให้ได้โวยวาย
"แล้วจะสัญญากับรินะว่าจะแต่งงานกันทำไม"
คำโวยวายของเธอทำให้อนาคินหันขวับกลับมามองหน้าเธอด้วยแววตาที่จริงจังขึ้น...
"รินะ เล่นจนล้ำเส้นแล้วนะ"
เสียงเรียบๆ ของอนาคินพร้อมด้วยสีหน้าที่จริงจังติดจะเย็นชาทำให้คนที่อยากจะโวยวายเพราะไม่ได้ดั่งใจเริ่มนิ่ง แล้วกลับมาอยู่กับความเป็นจริงว่าเธอจะล้ำเส้นไม่ได้เพราะตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มชวนเขาเป็น Friend with benefit และบอกเองว่าจะเก็บเรื่องระหว่างเราเป็นความลับไม่มีวันแสดงตัวให้ใครรู้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจะไม่เรียกร้องอะไร ทุกอย่างเธอสัญญาเอาไว้เองทั้งนั้น