BELOVED 10

1939 Words
BELOVED 10 โมโหจนไม่รู้จะโมโหยังไงที่ฉันกลับไม่รู้ว่าแฟนตัวเองมีคู่หมั้นแล้ว นี่ฉันเป็นชู้คนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัวงั้นเหรอ โมโหไม่เท่ายัยเด็กผีนั่นมันบอกว่าชื่อฉันเหมือนหมา!! ยัยบ้า ชื่อเหมือนขนมก็ได้มั้ง เห็นหน้าแล้วไม่ถูกชะตา อยาก จะยกฝ่าเท้าลูบหน้าดูสักทีสองที “มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกกี้ ดูทำหน้าเข้า” “รู้เหรอว่าฉันคิดอะไร รีบๆขับไปถึงห้องค่อยคุยกัน” “ฉันมีพ่อแม่เป็นพยาน เรื่องมันมีที่มาที่ไป” แต่ฉันสังเกตดูสโนว์ก็ไม่ได้ว่าแคร์ยัยเด็กนั่นอะไรนะ ไม่งั้นคงไม่กล้าบอกหรอกว่ามีฉันเป็นแฟน เด็กนั่นก็มั่นหน้ามั่นโหนกเหลือเกินจนฉันหมั่นไส้ ก็คอยดูสิถ้าสโนว์เลือกฉันหล่อนก็หมาหัวเน่าดีๆนี่เอง ฉันว่าเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่ๆ สงสัยใคร่รู้จนแทบจะอดทนรอไม่ไหว ตอนนี้เรามาอยู่ที่ห้องฉัน เราพากันมานั่งอยู่ที่โซฟา ฉันพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงและพร้อมจะรับฟังในทุกๆเรื่องที่สโนว์กำลังจะบอก ไม่อยากหนีปัญหาแบบไม่ฟังอะไรเหมือนตอนเรื่องสปาเก็ตตี้นั่น ฉันว่ามีอะไรต้องคุยกันเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา “ไหนว่ามาสิ อยากอธิบายอะไรก็ว่ามาฉันรอฟังอยู่” “คืออย่างนี้ เรื่องหมั้นนี่มันเป็นสัญญาตั้งแต่สมัยปู่ฉันน่ะ ปู่ฉันกับ ปู่ไอซ์สัญญากันว่าถ้ามีหลานคู่ชายหญิงจะเอามาดองกันเพื่อเชื่อมสองตระกูลเราไว้ ปู่ไอซ์ช่วยชีวิตปู่ฉันจนต้องพิการอะปู่ฉันเลยดูแลครอบครัวนั้นมาตลอดเพราะเป็นหนี้บุญคุณ” “แล้วทำไมถึงเป็นนาย ไม่เป็นพี่เรนหรอกเหรอ?” “ก็ไอซ์เลือกฉันไง บอกว่าชอบฉันก็เลยกลายมาเป็นฉันที่ต้องเป็นคู่หมั้นตามสัญญาของปู่ ไม่ใช่ว่าชอบอะไรไอซ์นะฉันก็ปฏิเสธแล้วแต่ไอซ์ขี้โรคเกินไป พอปฏิเสธก็ร้องไห้จนล้ม บางทีก็เครียดจนเข้าโรงพยาบาล ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่ทำดีด้วย” “ดูเกิดมามีกรรมจังนะยัยเด็กนั่น สรุปคือโดนคลุมถุงชน?” “ก็อะไรประมาณนั้นแหละ ทุกวันนี้ครอบครัวเราก็ไม่ได้ดูแลอะไรกันแล้วนะตั้งแต่คุณปู่เสีย ต่างฝ่ายต่างมีฐานะหน้าที่การงานเป็นของตัวเองไม่ต้องรับความช่วยเหลือของกันอีกแล้ว” “พ่อแม่นายคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้” “ก็ไม่ได้ชอบไอซ์นะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวฉันมากกว่าว่าจะเอายังไงกับชีวิต ที่แน่ๆฉันไม่หมั้นกับไอซ์แน่ๆเพราะฉันไม่ได้รักน้องเขา คนหนึ่งอยากหมั้นอีกคนไม่ยอมหมั้นมันก็จบมั้ง” “นายคบฉันไว้กันคู่หมั้นหรือเปล่า?” “เอ่อ..คือ...ทีแรกก็ใช่แหละแต่ตอนนี้ฉันชอบเธอจริงๆนะเว้ย” “ฉันก็ชอบนายและคิดว่าเรากำลังพัฒนากันไปในทางที่ดีขึ้นทุกวัน พอมีมารมาขัดเลยคิดจะแผ่เมตตาให้สักหน่อย ตกลงนี่นายเลือกฉันใช่ไหม ขอได้ยินให้ชัดๆอีกสักรอบ” “อืม ฉันเลือกเธอ โคตรชอบเธอเลยและคิดว่าอีกไม่นานต้องรักเธอแน่ๆ ยังยืนยันคำเดิมว่ายังไงก็จะไม่หมั้นกับไอซ์” สโนว์เอนหน้ามาซบกับไหล่ฉันเป็นเชิงอ้อน ว่าไปฉันจะบาปไหมเนี่ย มันเหมือนกับการที่แย่งคนรักของใครหรือเปล่านะ แต่ฉันกับสโนว์เราก็คบกันมาด้วยดี สโนว์ไม่ได้คิดอะไรกับยัยเด็กนั่น ทุกอย่างมันเป็นการคลุมถุงชนไม่ได้เกิดจากการเต็มใจของทั้งสองฝ่ายเพราะฉะนั้นฉันไม่ผิด ไม่ได้พรากคนรักจากอกใครทั้งนั้น “ฉันจะจัดการกับคู่หมั้นนายยังไงดี หมั่นไส้อยู่เหมือนกัน ว่าแต่นายให้สิทธิฉันจัดการได้แค่ไหนกัน แตะต้องได้รึเปล่าคู่หมั้นนายน่ะ” “เต็มที่เลย แต่อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือให้ต้องเลือดตกยางออกก็พอ ไอซ์เป็นเด็กขี้โรค อะไรนิดหน่อยก็เข้าแต่โรงพยาบาล” “ฉันไม่ทำรุนแรงหรอกถ้าไม่โดนกระทำก่อน ถ้าเราไม่เลิกกันซะก่อน ยัยเด็กไอซ์นั่นก็คงถอยเองแหละมั้ง” “ดีใจนะที่เธอเข้าใจฉัน เธอแม่งชอบทำให้ฉันหลงอยู่เรื่อยเลย” หน้าหล่อโน้มมาหอมซอกคอฉันอย่างอ้อยอิ่งซึ่งฉันก็เอียงคอให้เขาหอมดีๆนั่นแหละ ชอบนะไม่ใช่ไม่ชอบกับสัมผัสต่างๆที่สโนว์ทำกับร่างกายฉันแต่มันยังไม่ถึงขั้นพลีกายให้เขามีเซ็กส์ด้วย “โอ๊ะ กัดคอฉันอีกแล้วนะ!” “มันหมั่นเขี้ยวอะ” ถ้าวันใดวันหนึ่งเรามีเซ็กส์กันฉันว่าสโนว์ต้องมีรสนิยมซาดิสม์อยู่บ้างล่ะ ชอบมากัดมางับตามเนื้อตัวของฉันอยู่เรื่อย ถ้ามีเซ็กส์กันหวังว่าจะไม่กัด หูฉันขาดนะ บ้าจริง เป็นสาวเป็นนางคิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่าย แต่ถ้าถูกใจก็ได้ไม่ยาก... หนึ่งเดือนที่ผ่านมาทำให้ฉันรู้จักผู้ชายคนนี้มากพอสมควรรวมถึงเพื่อนของเขาด้วย ทุกคนเป็นมิตรกับฉันหมด เราเข้ากันได้ดีจนเป็นแก๊งเดียวกันเลยก็ว่าได้ สโนว์ บอส ท็อป วิน เหมย ฉัน เหมือนเป็นแก๊งที่มีสี่ จตุรเทพบวกกับกล้วยหอมจอมซนอีกสองคน Rrrrrrrr “ครับพ่อ อ้าว อะไรวะโทรมาพูดไม่กี่คำก็วางเลยพ่อนะพ่อ” “มีอะไรเหรอสโนว์” “พ่อบอกว่าพี่เรนกลับมาถึงคืนนี้ พรุ่งนี้ให้พาเธอไปที่บ้านด้วย” “พี่เรนเหรอ? ไม่ได้เจอกันนานต้องหล่อมากแน่ๆอะ” “กระดี๊กระด๊าให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ แฟนเธอยืนอยู่นี่!” พี่เรนน่ะมีเค้าโครงหล่อมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันเล่นกับพี่เรนบ่อยเลยสนิทกับพี่เรน ส่วนสโนว์ฉันรู้นะว่าพี่เรนมีน้องชายแต่ฉันจำไม่ค่อยได้ว่าเคยเล่นกับสโนว์หรือเปล่า เวลาไปบ้านอาปกรณ์แต่ละทีก็จะเจอแต่พี่เรนพอฉันถามหาน้องเขาก็ตอบว่าอยู่ในห้อง คือไปกี่ทีเท่าที่จำได้สโนว์ก็อยู่แต่ในห้องไม่ออกมาเล่นข้างนอกเลย ฉันเลยไร้ความทรงจำสมัยเด็กกับสโนว์ไปโดยปริยาย เหมือนรู้ว่ามีตัวตนอยู่แต่ไม่เคยได้เจอกันมั้ง “พรุ่งนี้จะเข้าไปกี่โมงล่ะ” “สายๆเที่ยงๆแหละ แต่คืนนี้ขอนอนห้องเธอนะง่วงมากเลย” “เดี๋ยวก่อน จะมาหลอกปล้ำฉันใช่ไหมเนี่ย” “ถ้าฉันคิดจะทำเธอคงไม่รอดมาถึงทุกวันนี้หรอกกี้ เธอก็ไม่ใช่ ไม่น่าเอา มันน่าเอาจนฉันข่มอารมณ์ตัวเองตลอดนั่นแหละ คืนนี้ขอนอนกอดนะสัญญาว่าจะไม่เกินเลยถ้าเธอไม่ยอม โอเค้” “เอ่อ งั้นก็ได้ แต่ตอนนี้นายไปอาบน้ำก่อนเลยเดี๋ยวฉันไปเอาชุดนอนที่ห้องนายให้ หรือจะกลับไปอาบที่ห้อง?” “อาบที่นี่แหละ” ไม่ใช่ว่าฉันกลัวโดนสโนว์ปล้ำอย่างเดียวนะ ฉันก็กลัวตัวเองจะปล้ำ สโนว์เหมือนกัน แพ้ผู้ชายผิวขาวๆหน้าสวยๆแบบนี้ ชอบทำท่าทางกวนประสาทน่ารักๆแบบนี้ แต่ถึงจะหน้าสวยก็เถอะพอได้รู้จักนิสัยกลับเป็น คนแมนๆแถมยังทะลึ่งมากๆซึ่งฉันเองก็เป็นผู้หญิงทะลึ่งเหมือนกัน ฉันเลือกชุดนอนสีเทามาให้สโนว์ หลังจากเราคบกันเป็นแฟนจริงๆจังๆก็ได้ทำการเพิ่มลายนิ้วมือเพื่อสแกนเข้าห้องของกันและกัน ฉันเข้ามาในห้องสโนว์ได้ตลอดเวลาเหมือนกับที่สโนว์เข้าห้องฉันเมื่อไรก็ได้ “สโนว์ ฉันเอาชุดนอนพาดไว้ข้างนอกนะ” “เอามาให้หน่อยสิ” ร่างสูงแง้มประตูแล้วโผล่หน้ามาบอก ฉันเลยหยิบทั้งชุดนอนและผ้าเช็ดตัวยื่นไปให้แต่ไม่ทันที่จะยื่นไปสุดแขนประตูกลับเปิดออกซะก่อน ปราการที่บังร่างเปล่าเปลือยเปิดออกทำให้ไม่มีอะไรบดบังอีกเลย “แท้แด่นนนนนนน” “กรี๊ดดดดดด สโนว์ ไอ้บ้า!!” “ฮ่าๆๆๆๆ ดูเอาไว้สิจะได้ชินตา นี่ๆๆดูลูกชายฉันสิ” อกอีแป้นจะแตก... มือไม้อ่อนแรงลงกะทันหันพาให้ผ้าร่วงหล่นกองกับพื้น ร่างสมส่วนของสโนว์ที่เปลือยเปล่าสะท้อนอยู่เบื้องหน้า ผิวขาวอย่างคนสุขภาพดีมี หยดน้ำเกาะอยู่ทั่วบริเวณ เส้นผมที่เปียกลู่ลงรับใบหน้าสวย หน้าอกกว้าง สมส่วนตามแบบผู้ชายทั่วไป ซิกแพ็คเรียงตัวกันอย่างพอดี แล้ว...ขนดำขลับที่เปียกน้ำทำให้หูฉันอื้อเหมือนคนสติหลุด ท่อนเอ็นขนาดกำลังดีกำลังขยายตัวต่อหน้าต่อตาฉันอาจจะเป็นเพราะฉันยืนจ้องมันอยู่มันเลยสู้ฉันก็เป็นได้ ไม่ใช่ว่าอยากจะจ้องนักหนาแต่สติกับแข้งขามันพากันค่อยๆหายไปจากฉันทีละนิดๆ “กี้!!!” นี่คือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนทุกอย่างจะดับวูบไป... SNOW TALK ผมแค่จะแกล้งเธอเฉยๆไม่คิดว่าเธอจะเลือดกำเดาไหลแล้วเป็นลมล้มไปแบบนี้ ก็แค่อยากอ่อยเก็บแต้มเฉยๆหรอก ผมจัดการอุ้มคนตัวเล็กมานอนที่เตียงภายในห้องนอนโดยที่ตัวผมเองก็ยังไม่ได้เอาผ้าห่อตัวไว้สักชิ้น เดินเป็นชีเปือยอยู่ในห้องนี่แหละตัวผมน่ะช่างมันก่อน จะเป็นห่วงก็แต่เธอที่เป็นลมนี่แหละ เลือดกำเดาเธอไม่ได้ไหลออกมามากจนน่ากลัว ผมหาผ้าขนหนูมาพันเอวไว้ลวกๆแล้วเดินไปเอาน้ำแข็งในช่องฟรีซมาห่อผ้าจากนั้นก็นำมาโปะไว้ที่จมูกเพื่อให้เลือดแข็งตัวจะได้หยุดไหล น่ารัก... ใบหน้าที่ดูเหมือนเด็กกว่าวัยหลับสนิท ผมเกลี่ยปอยผมที่ปิดหน้าไปทัดหูให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะก้มใช้จมูกสำรวจผิวแก้มเนียนอย่างเนิบนาบ ผมไล้จูบคนตัวเล็กเบาๆจนมาถึงริมฝีปากบางสวยได้รูป มันอดใจ ไม่ไหวที่จะแค่แตะกันแล้วผ่านไปได้แต่พรมจูบกับกลีบปากสวยย้ำที่เดิมซ้ำๆโดยที่เธอไม่รู้ตัวถึงอย่างนั้นผมก็อยากจะทำอยู่ดี บางทีผมก็คิดอยากจะเปิดซิงกับเธอ… ผมเป็นคนอ่อนโยนนะแต่สำหรับรสนิยมด้านเซ็กส์นั้นมันแตกต่างจากภายนอกที่ผมเป็นโดยสิ้นเชิง มันไม่ได้อ่อนโยนเหมือนที่เธอได้สัมผัสจากผมหรอก ขนาดแค่อยู่ใกล้ๆผมยังต้องกัดเธอเพื่อระบายอารมณ์เลยอะคิดดู กับแค่กัดมันยังนับไม่ได้กับรสนิยมที่ผมชอบหรอกนะ ถึงเวลาก็จะรู้เอง.. ว่าคนอ่อนโยนคนนี้มันจะระห่ำเซ็กส์ได้แค่ไหนกัน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD