บทที่ 4

1115 Words
ขณะกำลังจะขับรถออกจากบริเวณผับ ก็นึกโมโหบรรดาเพื่อนๆ ของเมฆี ที่ไม่มีใครสักคนที่เป็นห่วงเมฆี ออกตามหาเมฆีที่หายไปนานสองนานแล้ว และนอกจากจะโมโหบรรดาเพื่อนของเมฆีแล้ว พยศก็ถอนหายใจลึกอย่างปลงๆ กับชีวิตของตัวเอง กำลังจะเริ่มต้นได้สวย มีงานทำ มีเงินประทังชีวิต แต่ก็คงจบเห่! แล้ว เพราะการ์ดทั้งสามคนที่ถูกเขาเล่นงานจนหมอบคาตีน คงไม่ต้อนรับให้เขาทำงานในผับแห่งนี้อีกต่อไป “ช่างมันเถอะวะไอ้พยศ ตกงานก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว เดี๋ยวค่อยหางานใหม่ก็ได้” พยศปลอบใจตัวเอง นาทีนี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการปลอบใจและให้กำลังใจตัวเองให้มีพลังที่จะเผชิญกับโลกอันโหดร้ายที่รออยู่ในวันข้างหน้า และสิ่งที่เขาต้องทำในขณะนี้คือการพาร่างที่ถูกยำจนเกือบเละของเมฆีไปให้ถึงโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่เมฆีจะหมดลมหายใจเพราะช้ำในตาย... จากที่ตั้งใจว่าส่งเมฆีถึงมือหมอแล้ว จะปลีกตัวกลับไปนอนพักในห้องพักแคบๆ ราคาถูกๆ แค่พอมีที่ซุกหัวนอนในทุกค่ำคืน กลับกลายว่าต้องติดร่างแห ถูกหมอและพยาบาลซักถามข้อมูลถึงที่มาที่ไปของอาการหน้าแตกยับของคนเจ็บ รวมทั้งสอบถามถึงญาติของเมฆี ซึ่งเขาได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะไม่ได้รู้จักเมฆีมากมาย และเมื่อไม่อาจกลับได้ ก็จำต้องนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉินระหว่างที่หมอกำลังให้การรักษาเมฆีเป็นการเร่งด่วน “เฮ้อ...เอาวะ ไหนๆ ก็แหย่ขาเข้าไปช่วยไอ้หนุ่มคนนี้แล้ว ก็ช่วยให้ถึงที่สุด นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินนี่แหละจนกว่าจะรู้ว่าไอ้หนุ่มเมฆีปลอดภัยดีแล้ว” พยศพึมพำบอกตัวเอง ดวงตาคมมองไปยังประตูห้องฉุกเฉินที่ปิดไว้ ซึ่งอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะทีมแพทย์ พยาบาล ส่วนญาติของคนเจ็บได้รับอนุญาตให้เข้าก็ตอนที่ทางพยาบาลหรือหมอต้องการพบตัวญาติคนเจ็บคนป่วยเท่านั้น เมื่อทีมแพทย์กำลังให้การรักษาเมฆีอยู่ และไม่รู้ว่าจะไปไหนดี พยศจึงลุกขึ้นช้าๆ เดินตรงไปยังตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ กดกาแฟมาดื่มให้คาเฟอีนช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวรอจนกว่าจะมีญาติพี่น้องของเมฆีมารับช่วงต่อ จากนั้นเขาคงได้กลับห้องเช่าเล็กๆ และเริ่มต้นหางานใหม่ทำในต่อไป แต่...ยกกาแฟดื่มไม่ทันได้ครึ่งกระป๋อง ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูทางเข้าอาคารฉุกเฉินของโรงพยาบาล เมื่อรู้สึกได้ว่ามีสายตาทรงอำนาจของใครคนหนึ่งได้เพ่งสายตาจ้องมองมายังตัวเขาเขม็ง และเมื่อมองตามทิศทางที่มาของสายตาคู่นั้น ก็เห็นชายร่างใหญ่พร้อมด้วยลูกน้องอีกสองคนเดินตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉิน พยศยังไม่รู้ว่าชายผู้นี้คือใคร แต่ที่เขารู้คือ...สายตาของชายผู้นี้น่ากลัว น่าเกรงขาม และจากประสบการณ์บอกให้รู้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่ไม่ยอมคน พร้อมลุย พร้อมปะทะฉะดะในทุกนาที ไม่ต้องถูกความสงสัยเล่นงานนานเกินควรว่าชายผู้ทรงอำนาจคนนี้คือใคร เมื่ออีกฝ่ายเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา พร้อมกับเค้นถามเสียงทรงอำนาจด้วยสายตาถมึงทึง “คุณคือคนที่พาลูกชายของผมมาโรงพยาบาลใช่ไหม” แม้หวั่นเกรงกับสายตาและน้ำเสียงที่เค้นถามห้วนๆ จากอีกฝ่าย แต่พยศก็ไม่ได้หวาด กลัวมากมายกระทั่งไม่กล้าตอบคำถามของชายผู้นี้ อดีตชายผู้เป็นขี้คุกลุกขึ้นยืนพร้อมกับตอบเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีหวั่นเกรง “ใช่ครับ ผมเป็นคนช่วยคุณเมฆีไม่ให้ถูกพวกการ์ดของผับรุมกระทืบตาย และผมก็เป็นคนพาเขามาหาหมอด้วยครับ” เอ่ยบอกเสร็จแล้ว ก็ล้วงหยิบกุญแจรถสปอร์ตคันละหลายสิบล้านของเมฆีที่เขาได้ขับพาคนเจ็บมาส่งโรงพยาบาลยื่นให้กับคนที่ประกาศตัวว่าเป็นบิดาของเมฆี “กุญแจรถของคุณเมฆีครับ ผมจอดรถไว้ด้านหน้าโรงพยาบาล เมื่อมีญาติของคุณเมฆีมาแล้ว เห็นทีว่าผมต้องขอตัวกลับก่อนครับ” ผู้ที่ประกาศตัวว่าเป็นบิดาของเมฆีได้เอื้อมมือรับกุญแจรถจากคนตรงหน้า แต่หาได้ปล่อยให้คนที่ช่วยเหลือลูกชายของตัวเองให้รอดพ้นจากความตายได้กลับง่ายๆ ไม่ เขาเรียกพยศไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวเท้าเดิน “ถ้าคุณว่าง และไม่ง่วงนอนสักเท่าไร นั่งลงคุยกันก่อนไหมคุณ...” “ผม...พยศครับ...” “อืม...สวัสดีคุณพยศ...” บิดาของเมฆียื่นมือมาข้างหน้ารอให้อีกฝ่ายจับทักทายแบบสากล ก่อนจะแนะนำตัวกลับคืน “ผมเมฆา เป็นพ่อของเมฆีครับ” “สวัสดีครับคุณเมฆา ยินดีที่ได้รู้จักครับ” พยศจับมือทักทายเมฆา อดชื่นชมอีกฝ่ายในใจไม่ได้ว่าแม้ดูมีอายุมากแล้ว ผมสีเทาขึ้นแซมเกือบทั้งศีรษะ แต่เมฆาก็ดูภูมิฐานและทรงอำนาจน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เมฆาคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับพยศ พลางทวงหาคำตอบในก่อนหน้านี้ “หวังว่าคุณยังไม่ง่วงนอนและมีเวลาคุยผมสักสิบนาที” “ผมยังไม่ง่วงครับ และก็มีเวลาทั้งวันทั้งคืนตามประสาคนตกงานครับ” พยศเอ่ยติดตลก ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเพื่อรอพูดคุยกับเมฆา ซึ่งอีกฝ่ายต้องการรู้เรื่อง ราวที่เกิดขึ้นกับลูกชายของเขา “โอเค...รอผมสักครู่ ผมอยากคุยกับหมอก่อนว่าเมฆีเป็นยังไงบ้าง” เอ่ยบอกพยศแล้ว เมฆาก็หันไปสั่งลูกน้องอีกสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “หากาแฟร้อนๆ มาให้คุณพยศสักแก้ว” “ครับเจ้านาย” ผู้เป็นลูกน้องรับคำสั่ง ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหากาแฟร้อนสักแก้วสองแก้วมาให้แขกของผู้เป็นเจ้านายในตอนตีสามกว่า ไม่ว่าเจ้านายสั่งการอย่างไร พวกเขาก็สามารถจัดการให้ได้เสมอ เมฆาจ้องมองพยศอีกชั่วครู่ ก่อนจะเข้าไปภายในห้องฉุกเฉินเพื่อแจ้งให้ทางแพทย์พยาบาลทราบว่าเขาคือบิดาของเมฆีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังได้รับการช่วยชีวิตจากนักรบเสื้อขาว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD