งานเลี้ยง

1472 Words
-เช้าวันใหม่ ณ.สิงคโปร์- "ตื่นได้แล้ว..." เสียงทุ้มของธนินกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของภรรยาสาว มินดาค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาผ้าม่านของห้องถูกเปิดออกรับแสงแดดอ่อนๆ ของเช้าวันใหม่เข้ามา อาธนินที่ดูเหมือนจะอาบน้ำแต่งตัวใหม่อยู่ในชุดลำลองแล้ว มินดายิ้มให้เขาอย่างสดใสและเบิกบาน ทำให้ธนินพลอยยิ้มไปกับรอยยิ้มนั้นด้วยแต่ไม่ได้ยิ้มออกมาจริงๆ ต่อหน้าของมินดาความคีฟลุคของเขายังคงที่ไม่มากและไม่เยอะเกินไป "วันนี้มีงานตอนค่ำ..ตอนกลางวันวันนี้อยากจะไปช้อปปิ้งที่ไหนบ้าง?" อาธนินถามมินดาออกมาเบาๆ มุมปากถูกยกขึ้นนิดหน่อยดูเหมือนว่ายิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มกว้างและก็เป็นเวลาครู่เดียวเท่านั้น "อยากนอนนิ่งๆ อยู่แบบนี้มากกว่าค่ะ" มินดาตอบอาธนินเบาๆ ในขณะที่ตายังหลับอยู่และไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมา "ถ้ายังไม่ลุกเดี๋ยวอาจะปลุกด้วยวิธีอื่นดีมั้ย?" อาธนินพูดขู่ออกมาแต่เหมือนกับว่าจะทำจริงๆ เพราะสายตาร้อนระอุของอาธนินที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความเสน่หาแก้มของมินดาเปลี่ยนสีทันทีที่ถูกจ้องอย่างตั้งใจแบบนั้น "จะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ" ร่างบางลุกขึ้นมานั่งอย่างงัวเงียและอ้อยอิ่งดั่งกับเด็กน้อยที่ถูกปลุกให้ไปโรงเรียนยามเช้าตรู่ "เดี๋ยวอาไปรอที่โต๊ะอาหารนะ..ถ้าช้าจะไปตามถึงห้องน้ำ" "ไม่นะคะ!" ร่างเพรียวรีบวิ่งพรวดเข้าห้องน้ำไปทันที มุมปากของธนินประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างเอ็นดูเมื่อลับตามินดาแล้ว เขาผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่ไม่เคยเจอใครที่ไร้เดียงสาขนาดนี้มาก่อน 'เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะมินดา..ถึงทำให้คนอย่างชั้นเผลอยิ้มออกมาได้บ่อยๆ ขนาดนี้...แต่อดีตมันเจ็บปวดเกินกว่าที่ชั้นจะให้ใจใครได้อีกแล้ว ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาพวกเธอจะเป็นได้แค่คู่นอนหรือเธอที่เป็นเมียก็เป็นได้แค่เมีย..ชั้นจะไม่มีวันให้ใจใครอีก' 14:00 อาธนินพามินดาออกไปเที่ยวและช้อปปิ้งไปทั่วในสถานที่ขึ้นชื่อของสิงคโปร์ไม่ว่าจะไปถ่ายรูปที่รูปปั้นเมอร์ไลอ้อน ไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสิงคโปร์ฟลายเออร์ ถึงจะรำคาญที่มีผู้ติดตามเพื่อรักษาความปลอดภัยของอาธนินในสิงคโปร์เยอะแยะไปหมดแต่ก็คงเว้นระยะห่างเอาไว้ ส่วนอาธนินก็ทำตัวอบอุ่นมาก 'แบบนี้มั้ยนร้าา ที่เค้าเรียกว่าแดดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ' มินดายิ้มเขินออกมาเมื่อนึกขึ้นมาแบบนั้น ตอนนี้เธอรู้สึกว่าจะหลงสามีเอามากๆ ความอบอุ่นแบบนี้ที่เธอกำลังตามหา "อยากได้อะไรเพิ่มอีกมั้ย?" "ไม่ค่ะ..ไม่ได้อยากได้อะไร..มินดาซื้อของฝากให้ต้นข้าวเรียบร้อยแล้วค่ะ" "ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นของอาคงจะดีใจที่อาถามแบบนี้..แต่เธอกลับไม่ได้อยากได้อะไร..แปลกคน" มินดาถึงกับหุบยิ้มที่ได้ยินอาธนินพูดออกมาแบบนั้น "ผู้หญิงคนอื่น.." มินดาถามย้ำออกมาเบาๆ อีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ "ตอนไม่แต่งงานอาก็ต้องพาผู้หญิงมาออกงานทุกครั้งนั้นล่ะ..ไม่มีก็ไม่ได้..มันเป็นปกติของนักธุรกิจที่จะควงผู้หญิงมา" "คุณอาคงจะดูแลเทคแคร์พวกเธอเหล่านั้นดีทุกคนเหมือนทำกับมินดาใช่มั้ยคะ?" "ถูกแล้ว..ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของอาทุกคนจะได้ไปจากอาไม่น้อยอยู่แล้ว" มินดาถึงกับน้ำตาซึมที่ได้ยินอาธนินพูดออกมาแบบนั้นความเจ็บจี๊ดมันผุดขึ้นมากลางใจ ดอกรักที่ปักอยู่กลางอกเริ่มสั่นเอนไปตามอารมณ์ของความหวั่นไหวทันที "ถ้าไม่อยากได้อะไรแล้วกลับกันเถอะ...คืนนี้ต้องเตรียมตัวไปงานเลี้ยง" "ค่ะ" มินดาเงียบงันลงจนธนินนึกแปลกใจที่ความสดใสเมื่อสักครู่ของเธอหายไปราวกับเป็นคนล่ะคน 'เป็นอะไรขึ้นมาอีก..ผู้หญิงเอาใจยากจริงๆ ..หรือยังอยากได้อย่างอื่นอีก' 19:00 มินดาในชุดราตรีสีแดงเลือดนกทรงหางปลาปักเหลื่อม ผมถูกม้วนลอนและเกล้าต่ำให้อยู่บริเวณท้ายทอยไม่เน้นเครื่องประดับ ลำคอระหงของมินดาประดับไปด้วยเครื่องเพชรราคาแพงที่ธนินเตรียมไว้ให้ เขามองมินดาอย่างตกตะลึงในความสวยหวานดั่งดุจเจ้าหญิงของเธอด้วยฝีมือการแต่งหน้าของช่างแต่งหน้าทำผมชื่อดังที่ธนินจ้างมาในราคาแพง "คุณค่ะ..สามีของคุณมองคุณตาค้างเลยนะคะ" ช่างแต่งหน้าแต่งตัวของมินดาแซวขึ้นมาหลังจากที่พามินดาออกมาจากห้องแต่งตัวเพื่ออวดโฉมให้กับธนินเห็น ซึ่งธนินนั้นคงสวมสูทตามปกติแต่วันนี้การเซทผมและสีของสูทจะดูเป็นทางการมากกว่าวันปกติ "ไปกันเถอะ...สายแล้ว" งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูห้าดาวแห่งหนึ่งในห้องBallroomที่รองรับนักธุรกิจนับพัน ธนินเดินเคียงคู่เข้ามากับมินดาที่ตอนนี้กำลังเดินคล้องแขนเขาอยู่ ทันทีที่เข้ามาถึงก็มีนักข่าวในแวดวงของธุรกิจมารุมถ่ายรูปเพราะวันนี้เหมือนธนินจะมาเปิดตัวภรรยาครั้งแรกด้วย จึงเป็นที่สนใจต่อสื่อมวลชนมากกว่าทุกครั้ง ซึ่งมินดาก็วางตัวได้ดีในการเข้าสังคมทั้งภาษาเธอก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร เรื่องนี้คงต้องยกความดีความชอบให้บิดาของมินดาที่เข้มงวดกับเรื่องนี้เป็นอย่างดีเพราะเกรงว่ามินดาจะทำให้ตัวเองขายหน้า บิดาของเธอมักจะสนใจหน้าตาทางสังคมเป็นอันดับหนึ่งอยู่เสมอมา "เหนื่อยมั้ย?" คำพูดที่แฝงไปด้วยความห่วงใยของธนินเอ่ยออกมาเบาๆ แต่มินดากลับคิดว่าเขาคงจะพูดแบบนี้กับทุกคนหน้าของเธอเลยยังบึ้งตึงอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นมากนัก เวลาล่วงเลยผ่านไปสักพักซึ่งตอนนี้ก็คงจะประมาน4ทุ่มแล้วทั้งคู่ยังเดินยืนควงคู่กันอยู่ อาธนินยังคงถูกทักทายจากเหล่าบรรดานักธุรกิจด้วยกันซึ่งมินดาก็ฉีกยิ้มให้พวกเขาเหล่านั้นตามมารยาทจนตอนนี้แขกเหรื่อก็ต่างๆก็เริ่มซาลง เวลาในการทำหน้าที่ภรรยาออกหน้าออกตาของเธอในงานเลี้ยงก็ใกล้จะจบลงแล้วเหมือนกัน "นิดหน่อยค่ะ" "ธนิน!" เสียงเรียกของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้ทั้งคู่หันหน้าไปตามเสียงเรียกทันที "ทีน่า..." ผู้หญิงสวยในชุดราตรีสีดำปักเหลื่อมประกายระยิบระยับ แต่แววตาที่มองอาธนินดั่งกับว่าอาธนินคือคนพิเศษของเธอพร้อมกันนั้นเธอก็เข้าไปโอบกอดอาธนินทันที มินดามองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่ชอบใจมากนักที่มีผู้หญิงคนอื่นมาถึงเนื้อถึงตัวกับสามีของเธอ..แต่มินดาจะมีสิทธิ์ไปว่าอะไรเขาได้ก็รู้ๆกันอยู่ว่า..สัญญาการแต่งงานมันเป็นยังไง "คุณหายไปไหนมาคะ..ทีน่าคิดถึงคุณเหลือเกิน" ทีน่ากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหวานออดอ้อน "ผมคิดว่าเราไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกันอีกแล้วนะทีน่า..วันนี้ผมมากับภรรยา" ธนินกระซิบตอบทีน่าเบาๆเพราะไม่อยากให้มินดาได้ยินถึงบทสนทนา "ถ้าคุณไม่มาเคลียร์กับทีน่าดีๆทีน่าจะไปพูดกับภรรยาของคุณให้หมดว่าเราเป็นอะไรกัน" ธนินหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อโดนขู่แบบนั้น เห็นทีวันนี้เขาคงต้องเคลียร์กับทีน่าให้จบไปจริงๆสักที "ชาลี" ชาลีที่ยืนอยู่ใกล้ๆตรงนั้นอยู่แล้วเดินเข้ามาตามเสียงเรียกของผู้เป็นนายทันที "ครับนาย" "พาคุณผู้หญิงไปส่งโรงแรมก่อน" "ครับนาย" ชาลีเดินมาหามินดา ซึ่งตอนนี้มินดาทำหน้าสงสัยมากที่ได้ยินอาธนินบอกให้เธอกลับไปก่อนเพื่อที่เขาจะไปกับผู้หญิงคนอื่นอย่างนั้นเหรอ? "คุณผู้หญิงครับ" "อืม...ฉันได้ยินแล้ว..งั้นไปกันเถอะ" "งั้นเชิญทางนี้ครับ" ชาลีผายมือให้ผู้เป็นนายผู้หญิงเดินออกไปก่อน ก่อนที่เขาจะเดินตามออกมาติดๆเพื่อขับรถไปส่งมินดาที่โรงแรมตามคำสั่งของเจ้านายทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD