Ep.01
เสียงประตูอัลลอยที่เคลื่อนออกพร้อมกับเสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาภายในอาณาบริเวณคฤหาสน์ทำให้ ‘ปลายรุ้ง’ รีบลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ระเบียงโดยเร็ว หล่อนแย้มผ้าม่านออกดูแม้จะรู้ว่าเจ้าของรถที่เบิ้ลเครื่องเสียงดังนี้เป็นใคร แต่ก็ยังอยากจะมองให้แน่ใจอีกครั้ง มองเพื่อให้รู้ว่าเขาอยู่ในสถานะที่หล่อนจะคุยด้วยได้หรือไม่
สภาพง่อนแง่นของเจ้าของร่างสูงที่ก้าวลงจากรถพร้อมโบกมือโบกไม้ไม่ให้ลุงเชิดคนสวนเข้ามายุ่งทำนองว่าเขาเดินเองได้ทำให้ปลายรุ้งตัดสินใจ หล่อนคว้าเสื้อคลุมสวมทับชุดนอนที่มิดชิดมากพออยู่แล้วเพราะเป็นเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาว แต่หล่อนก็อยากให้มิดชิดมากกว่านี้ ไม่อยากให้เขาเข้าใจว่าหล่อน ‘อ่อย’
“ไม่ต้องมาประคองผม ผมเดินเองได้ ลุงเชิด... ผมบอกว่าผมเดินเองได้”
“ให้ผมช่วยเถอะครับคุณอาร์ต เดี๋ยวตกบันไดไปจะยุ่ง”
“ยุ่งที่ไหน ไม่ยุ่ง... ไม่ต้องช่วย ผมบอกแล้วไงว่าผมเดินเองได้ แค่นี้ไม่เมาหรอกน่า”
“แต่กลิ่นหึ่งเลยนะครับ”
“นี่ลุงไม่เชื่อผมเหรอ ผมน่ะเมาไม่ขับนะครับ ถ้าขับก็แปลว่าไม่เมา ไปๆ ลุงเชิดไปนอนเถอะ แก่แล้วนอนพักผ่อนให้มันเยอะๆ ไป... ผมเดินเองได้”
‘อนวัทย์’ ที่โบกไม้โบกมือไม่ให้ลุงเชิดเข้าใกล้ทั้งที่เขาก็แทบจะเกาะบันไดไม่อยู่นั่นทำให้ปลายรุ้งรีบเดินลงมาทันที หล่อนตรงเข้าไปประคอง ก่อนจะหันไปบอกลุงเชิด
“ลุงเชิดไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวรุ้งดูแลเอง”
ลุงเชิดพยักหน้าเมื่อเห็นปลายรุ้งเข้ามาประคองเจ้านายรุ่นเยาว์ที่บัดนี้เติบโตเป็นหนุ่มและแต่งงานมีครอบครัวเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังนึกห่วงทำให้ละล้าละลังที่จะรีบเดินออกไป เพราะปลายรุ้งเป็นน้องสาวของ ‘ขวัญนภา’ อดีตคู่รักของอนวัทย์ แต่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นเจ้าสาวแทนขวัญนภา
เรื่องที่ว่าขวัญนภาหายตัวไปจากงานแต่งงาน จนคุณผู้หญิงต้องขอให้ปลายรุ้งมาเป็นเจ้าสาวแทน กลายเป็นเรื่องซุบซิบในกลุ่มคนรับใช้ที่เขาไม่ได้อยากมีส่วนร่วมแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้ไม่เห็น ในเมื่อวันงานเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ตั้งแต่วันแต่งงานจนผ่านมาได้เกือบ 1 เดือนแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นว่าคู่ผัวหนุ่มเมียสาวนี้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะแทบทุกค่ำคืนที่อนวัทย์ไปดื่มแล้วกลับมาในสภาพนี้ ปลายรุ้งก็จะลงมาประคองขึ้นไปชั้นบนและทุกครั้งก็จะมีคำด่าทอให้ได้ยินตามมาเสมอ แต่เพราะเขาเป็นคนรับใช้ก็คงจะไปเสนอแนะอะไรไม่ได้ หรือแม้แต่เอาเรื่องนี้ไปเล่าสู่กันฟังในหมู่คนรับใช้ เขาก็ไม่กล้าทำเช่นกัน เพราะเรื่องเจ้านายก็ควรให้เป็นเรื่องของเจ้านาย
“อย่ามายุ่งกับฉัน! ปล่อย!”
“แต่พี่อาร์ตเมามากแล้วนะคะ มาค่ะ รุ้งพาขึ้นห้อง”
“เฮอะ! จะพาขึ้นห้อง หรือพาเข้าห้องกันแน่ นึกว่าไม่รู้เหรอ นี่เธอคิดว่าฉันเมามากจนจะเอาเธอมั่วๆ ได้ใช่ไหม เสียใจ! เพราะต่อให้อ่อยมากกว่านี้ ฉันก็ไม่มีทางเอาเธอหรอก อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร”
ปลายรุ้งหายใจเข้าลึกๆ สายตาดูถูกกับริมฝีปากที่เหยียดยิ้มของเขาทำไมหล่อนจะไม่รู้ล่ะ มันก็คือคำด่าซ้ำๆ กันทุกคืนไม่ใช่เหรอ
“ไม่อยากรู้ค่ะ รุ้งก็แค่ทำหน้าที่ของรุ้ง”
“หน้าที่อะไรของเธอ ถึงต้องมาเสนอหน้าทุกคืน เฮอะ!”
ใบหน้าหล่อแค่นยิ้มกับดวงตาหยามเหยียดของเขาที่มองมาเรียกความร้อนวูบขึ้นที่ใบหน้า เพราะหล่อนไม่มีสิทธิ์ที่จะทำตามหน้าที่นั้นด้วยซ้ำ แต่คำพูดต่อมาของเขากลับทำให้ความร้อนราวจะพุ่งวาบไปทั่วร่าง
“หน้าที่คนรับใช้ที่มารอเจ้านายกลับบ้าน หรือว่าหน้าที่ ‘หมา’ ที่ต้องกระดิกหางรอเจ้านาย”
“พี่อาร์ต!”
“ทำไม! กล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอ”
“ไม่... ไม่ใช่ค่ะ พี่อาร์ตเมามากแล้ว รุ้งจะถือว่ารุ้งไม่ได้ยินสิ่งที่พี่อาร์ตพูด”
“จะไม่ได้ยินได้ไง! หูหนวกเหรอ หรือว่าโง่อย่างเดียวไม่พอ สมองยังทึบด้วย ฟังไม่เข้าใจหรือไง อ๋อ... ลืมไป ก็เป็นหมานี่ หรือว่าไม่ใช่หมา แต่เธอเป็น ‘ควาย’ ที่ต้องรอคนจูงจมูกไปจูงจมูกมา เธอถึงจะทำตามงั้นเหรอ”
ปลายรุ้งอ้าปากค้างกับคำเปรียบเปรียบของเขา เพราะไม่ว่าเขากับหล่อนจะเป็นอะไรกัน เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาด่าว่าหล่อนแบบนี้ “พี่อาร์ต... มันจะมากไปแล้วนะคะ”
“มากไปคืออะไร! น้อยไปคืออะไร! ผู้หญิงอย่างเธอขึ้นชื่อว่าเป็นเมียฉันน่ะ บุญหัวแค่ไหนแล้ว ถ้าไม่ใช้เล่ห์กล เธอคิดเหรอว่าจะมีใครเอาเธอทำเมีย บ้องตื้น”