ตอนที่ 1/1 อาวรณ์

1294 Words
คำพูดของเขาไม่ผิดแม้แต่เพียงครึ่งคำ นางเป็นเสมือนรอยด่างพร้อยของวงตระกูล เพื่ออำนาจ นางเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อเสริมความมั่นคงให้บิดา แต่เมื่อยามหมดประโยชน์ นางก็ไม่ต่างจากกาฝากไร้ค่า เจียงจวิน* สามีของนางก็เห็นนางเป็นเพียงเครื่องมืออุ่นเตียง หลังจากที่นางแต่งให้เขาได้สามปีแต่กลับไร้บุตร บุรุษมักมากเช่นเขาก็หาข้ออ้างเขียนใบหย่ายัดเยียดข้อหาให้จนนางอับอายไร้ที่ยืนในเมืองหลวง บิดาที่รักหน้าตาของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจมีหรือจะยอมให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลด่างพร้อย ที่เมืองอู๋ซีแห่งนี้จึงเป็นที่พักพิงที่สุดท้ายของนาง เกรงว่าจวบจนบั้นปลายของชีวิต นางก็คงไม่อาจกลับไปเหยียบย่างที่เมืองหลวงได้อีกแล้ว… เมื่อเห็นขอบตาแดงก่ำของเหยาเยว่เล่อ พ่อบ้านหนุ่มเช่นมู่หลิ่งอินก็รู้สึกผิดลึกๆ ที่พลั้งปากพูดออกไป “ข้า…” “สาแกใจเจ้าแล้วสินะ ใช่! ข้ามันเป็นสตรีไร้ค่า จะมีผู้ใดมาต้องการเหลียวแลกัน แม้แต่บิดา…” ร่างบอบบางถึงกับตัวสั่นเทาในอ้อมอกแกร่งพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ที่นางทนกักเก็บมันมานานแสนนาน “หึ! คุณหนูปากเก่งเช่นท่านทำได้เพียงแค่ร้องห่มร้องไห้สินะ” คำพูดที่จะขอโทษของมู่หลิ่งอินกลับแปรเปลี่ยนเป็นการกระตุ้นให้นางโกรธเสียได้ ร่างอรชรอ้อนแอ้นถูกมือแกร่งอุ้มขึ้นพาดบ่าเสียดื้อๆ “นี่เจ้า! เจ้าจะทำอะไรข้า?” หยาดน้ำใสๆ ยังคงคลอหน่วยตาคู่งามทั้งสองข้าง แต่เหยาเยว่เล่อจำเป็นต้องหยุดอาการร่ำไห้ไปชั่วขณะ เพราะคนหน้าไม่อายเช่นเขากำลังกระทำการไม่ให้เกียรตินางจนถึงขีดสุด “เดี๋ยวคุณหนูก็รู้เองนั่นแหละ” เสียงทุ้มต่ำพูดลอยๆ ขณะแบกร่างแน่งน้อยที่ดิ้นรนขัดขืนพร้อมกับใช้กำปั้นกระหน่ำทุบตีแผ่นหลังของเขาอย่างไม่ลดละ “ปล่อยนะ! ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น เจ้าคนสารเลว ปล่อยข้า!” ไม่รู้ว่าอารมณ์หม่นเศร้าของเหยาเยว่เล่อพัดหายไปตั้งแต่เมื่อใด ในตอนนี้สาวเจ้ามีเพียงแต่อารมณ์เกรี้ยวกราดอยากจะฆ่าบุรุษเช่นมู่หลิ่งอินนัก! เวลาหนึ่งถ้วยชา*ต่อมา ณ เรือนหยกงาม ร่างอรชรถูกพ่อบ้านหนุ่มโยนนางลงบนเตียงไม้เต็มแรง โดยไม่มีท่าทีอ่อนโยนต่อผู้ที่เรียกว่าคุณหนูเช่นนางเลยสักนิด “นี่เจ้า! กล้าดีอย่างไรมาโยนข้าแบบนี้” เหยาเยว่เล่อถลึงตาใส่พ่อบ้านหนุ่มอย่างฉุนเฉียว “หึๆ แล้วท่านกล้าดีอย่างมากระหน่ำทุบตีข้าเล่า” ร่างแกร่งของผู้ฝึกยุทธเช่นมู่หลิ่งอินค่อยๆ เดินมาประชิดที่ริมขอบเตียงอย่างคุกคาม “บ่าวจองหองอวดดีเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรมาทำกับคุณหนูเช่นข้า!” เหยาเยว่เล่อเริ่มรับรู้ได้ถึงรังสีแห่งความกดดันที่อีกฝ่ายแผ่ออกมาจากร่างกาย ร่างแน่งน้อยๆ ค่อยๆ เขยิบกายถดถอยหนีการมาของเขาจนไปชิดกับหัวเตียง ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเยาะ “กลัวเป็นด้วยรึ?” เมื่อถูกใบหน้าที่แสนเกลียดชังยิ้มเยาะ ความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมที่นางถูกคนผู้นี้คอยกลั่นแกล้งก็พลันประทุออกมา เหยาเยว่เล่อโต้ตอบเขาทันควัน “ผู้ใดกลัวสุนัขปากเปราะเช่นเจ้ากัน หึๆ คนเช่นข้ามีอันใดที่ต้องกลัวบ่าวชั่วเช่นเจ้าด้วย!” “งั้นก็ลองดู” เมื่อถูกท้าทาย พ่อบ้านมู่ก็เริ่มอยากจะปราบพยศคุณหนูของเขาเสียเหมือนกัน คราแรกเขาคิดเพียงอยากจะกลั่นแกล้งนางเพียงเท่านั้น แต่ตอนนี้ถ้านางอยากจะท้าทายเขาอีก หึๆ เขาก็ไม่อยากที่จะทนมันอีกต่อไป! ข้อเท้างามถูกมือหนาดึงกระชากอย่างดิบเถื่อน ในขณะนั้นเองที่เหยาเยว่เล่อเกิดอารามตกใจกลัว ริมฝีปากงดงามดุจผลอิงเถาเผยอปากอ้าจะพ่นคำผรุสวาท แต่หญิงสาวกลับต้องพ่ายแพ้กับริมฝีปากของพ่อบ้านที่นางเกลียดแสนเกลียดคนนี้ เขาได้ประทับมันลงมาที่นางอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “อื้อ…” เสียงอู้อี้ๆ ของเหยาเยว่เล่อดังอื้ออึงในลำคอ ขณะที่ปลายลิ้นร้ายดุจมัจฉากำลังพวยพุ่งทะยานสู่โพรงปากฉ่ำชื้นของนาง ก่อนจะค่อยๆ ชำแรกสำรวจตรวจตราไปทั่วความฉ่ำเสียทุกซอกทุกมุม มือเล็กของคุณหนูผู้ถูกทอดทิ้งเริ่มกระหน่ำทุบตีแผงอกกล้าด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ในขณะที่คุณหนูเยว่เล่อกำลังต่อสู้ดิ้นรนขัดขืนอยู่นั้น ร่างของนางก็ถูกชายหนุ่มคร่อมพันธนาการเสียแล้ว มู่หลิ่งอินไม่ปล่อยให้คุณหนูของเขารู้สึกตื่นเต้นเพียงแค่ถูกปลายลิ้นของตนพัดรัดจนนางเจียนคลั่งแต่เพียงอย่างเดียว นิ้วมือแกร่งของชายหนุ่มรีบเคลื่อนไปใต้กระโปรงลายดอกเหมยรวดเร็วพลัน เพียงชั่วอึดใจกางเกงตัวในของนางก็หลุดลุ่ยถูกฉุดกระชากออกมา แต่ทว่ามู่หลิ่งอินไม่ยอมหยุดมือแต่เพียงเท่านี้ นิ้วมือหยาบพลันพุ่งพรวดเข้าไปในดงดอกเหมยของคุณหนูเหยาเสียอย่างนั้น “นี่เจ้า…เจ้าจะทำอะไรข้า!” เหยาเยว่เล่อถามเสียงสั่นหลังจากที่ริมฝีปากของนางได้รับอิสรภาพ “ก็ในเมื่อท่านไม่กลัวบ่าวเช่นข้า ข้าทำเช่นนี้คงไม่ผิดต่อคุณหนูกระมัง…” นิ้วมือหยาบชำแรกกลีบบุปผาบานฉ่ำชื้น ปลายนิ้วหนาบดคลึงเม็ดทับทิมนุ่มนิ่มพลางชำแรกสำรวจตรวจตราอย่างละเอียดถี่ถ้วน “นี่เจ้า…จะ…มากไปแล้วนะ…อ่า…” เหยาเยว่เล่อเริ่มพูดติดๆ ขัดๆ เมื่อนิ้วมือของเขาเริ่มบดขยี้ความนุ่มนิ่มของนางอย่างร้ายกาจนัก มิหนำซ้ำใบหน้าของเขาก็กำลังก้มต่ำมาที่ตัวนางอีกครั้ง “ชอบไหมขอรับ…” เสียงทุ้มต่ำกระซิบเบาๆ ใกล้ใบหน้านวล ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดทั่วใบหน้าสะคราญจนเผยสีแดงระเรื่อ เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ! เมื่อได้สติ มือเล็กก็จัดการตวัดฟาดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของพ่อบ้านหนุ่มหลายที “บ่าวชั้นต่ำเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรมาจองหองอวดดีกับคุณหนูเช่นข้า!” เหยาเยว่เล่อถึงกับร่างกายสั่นเทา เพราะสัมผัสของนิ้วมือของมู่หลิ่งอินช่างร้ายกาจกว่าบรรดาบุรุษที่นางเคยพานพบนัก เพียงแค่เสี้ยววินาที บ่าวสารเลวผู้นี้กล้าทำให้นางใจสั่นได้อย่างไร หลังจากโดนตบ มู่หลิ่งอินก็พลันหยุดชะงักแต่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มเพิ่งจะได้สติว่าเขาได้ล้ำเส้นคุณหนูมากไปแล้วจริงๆ แม้ว่าลึกๆ เขาจะเฝ้าคะนึงถึงนางมาเนิ่นนาน แต่ในตอนนี้เขาควรหยุดมันเสีย! ร่างแกร่งของพ่อบ้านมู่พลันผุดลุกขึ้นทันที ดวงตาสีนิลจ้องมองเรือนร่างงดงามที่สั่นระริกแล้วขบกรามแน่น เพียงกระพริบตาเจ้าขอร่างแกร่งก็พลันจ้ำอ้าวเดินออกจากห้องไปในทันที “เฮ้อ! เกือบไปแล้ว…” มือเล็กยกขึ้นมาทาบกับอกที่กระเพื่อมไหว ความวาบหวามเมื่อครู่ช่างสร้างความหวาดหวั่นระคนรัญจวนใจให้คุณหนูเยว่เล่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนสารเลวแซ่มู่ เจ้าคิดจะทำอะไรของเจ้ากันแน่! * เจียงจวิน (**) หรือแม่ทัพ สูงกว่านั้นเป็นต้าเจียงจวิน (***) หรือแม่ทัพใหญ่ คล้ายผู้บัญชาการทหารสูงสุด * คำว่า'หนึ่งถ้วยชา' ใช้เปรียบเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก ประมาณ 10 นาที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD