“คุณพ่อขา คุณแม่ขา ช่วยติ๊บด้วยค่า” เจ้าของเสียงสดใสวิ่งเร็วเข้ามาในห้องโถงของบ้าน พอเห็นบิดามารดานั่งคุยกันอยู่ก็รีบเข้าไปนั่งแทรกกลาง โอบกอดบิดาไว้แน่นแล้วซุกหน้ากับอกท่านอย่างต้องการที่พึ่งพาและปกป้อง
“กระติ๊บ!” เสียงเข้มของพี่ชายที่ไล่หลังมาทำให้คนเป็นน้องสะดุ้งโหยง
เพชรนิลเดินตามน้องสาวเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เมื่อเห็นยายตัวเล็กซุกตัวอยู่กับอกบิดาก็ถอนหายใจแรง ส่ายหน้าระอาใจ
“ก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วเมื่อไรจะโต จะรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองสักที” เพชรนิลว่าพลางเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้กัน ทว่าสายตาดุยังจับจ้องมองน้องสาวที่อยู่ในอ้อมอกบิดาตลอด
“มีอะไรหรือต่าย น้องทำอะไรผิดหรือลูก ทำไมทำหน้าดุแบบนั้น” แม่กระแตถามบุตรชายคนโต แต่สายตาเอ็นดูกลับมองไปยังบุตรสาวคนเล็กที่ซุกอยู่กับอกบิดา ท่านยื่นมือไปลูบเรือนผมสลวยเบาๆ ท่าทางโอ๋เอาอกเอาใจน้องสาวคนเล็กทำให้เพชรนิลถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็ทั้งโอ๋ทั้งตามใจกันแบบนี้ไง ยายแสบเล็กถึงเอาแต่ใจ ไม่ตั้งใจทำงาน แถมยังกล้าหนีงานไปเที่ยวเล่นอีกด้วย นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องอารมณ์เสีย ให้บริหารคนทั้งองค์กร ยังง่ายกว่าสอนงานยายติ๊บคนเดียวเสียอีก
“ติ๊บไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” คนทำผิดอุบอิบเถียงกับอกบิดา
“เหรอ...ไม่ผิดเหรอ หนีงานที่พี่มอบหมายให้ทำ ไปเตร็ดเตร่เที่ยวเล่นนี่นะไม่ผิด” เพชรนิลอยากจะเขกหัวน้องสาวแรงๆสักที ทั้งที่เรียนจบปริญญาโทมาเกือบหกเดือนแล้ว ยายกระติ๊บก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาช่วยแบ่งเบาภาระเขาได้เลย มิหนำซ้ำยังมีแต่เรื่องน่าปวดหัวมาให้เขาวุ่นวายอยู่เรื่อย
“จริงหรือ แอบหนีเที่ยวอีกแล้วเหรอลูก” พ่อเพชรก้มถามลูกสาวในอ้อมแขน
พลอยชมพูเงยหน้าขึ้น ยิ้มเศร้าน่าสงสาร ก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ
“ก็ติ๊บเคยบอกพี่ต่ายแล้วว่าติ๊บยังไม่พร้อมจะทำงานที่บริษัท พี่ต่ายก็เอาแต่บังคับจะให้ติ๊บไปทำงานช่วยให้ได้ ติ๊บไม่ผิดนะคะคุณพ่อ”
เพชรนิลหลับตาลง สูดลมหายใจลึก พยายามข่มความโมโห บอกตัวเองว่าให้ใจเย็นๆ นี่น้องสาว...ยายตัวแสบนี่คือน้องสาว น้องสาววัยยี่สิบสี่ที่โตแต่ตัว แต่นิสัยอย่างกับเด็กวัยอนุบาล อ้อนพ่ออ้อนแม่ เอาแต่ใจ ติดเที่ยว และที่สำคัญไม่มีความรับผิดชอบสักนิด
“น้องยังเด็กอยู่นะ ต่ายมอบหมายงานที่ยากเกินไปให้น้องทำหรือเปล่า” พ่อเพชรถามลูกชายคนโต แล้วก้มลงหอมกระหม่อมลูกสาวคนเล็กเบาๆ
เพชรนิลแทบจะมองค้อนบิดาเมื่อได้ยินท่านพูดว่าน้องสาวยังเป็นเด็ก ก็เพราะใครๆเอาแต่ให้ท้ายตามใจแบบนี้ไงล่ะ ยายตัวดีถึงไม่โตสักที นี่เขาก็เริ่มเหนื่อยที่จะต้องมาตามบอกตามสอนแล้วนะ
“ไม่มีอะไรยากเลยครับคุณพ่อ มันเป็นงานที่ง่ายมาก เด็กอมมือยังทำได้เลย เว้นแต่คนไม่มีความรับผิดชอบเท่านั้นแหละ ถึงจะทำงานไม่สำเร็จ” เพชรนิลเหล่ตามมองน้องสาวอย่างหมั่นไส้ คนที่อยู่ในอ้อมอกบิดาเหลือบตามองเขาแล้วทำปากยื่นใส่
“ติ๊บก็อยากทำงาน อยากช่วยพี่ต่ายนะคะ แต่ติ๊บเคยบอกไปแล้วว่าติ๊บเพิ่งเรียนจบเอง ติ๊บอยากลองทำงานอย่างอื่นดูก่อนสักพัก ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับงานของเรา แล้วค่อยกลับมาทำงานช่วยพี่ต่าย พอถึงตอนนั้นติ๊บก็คงจะมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ดี เพราะได้ไปเจอปัญหา ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยที่ไม่มีพี่ต่ายมาคอยประคับประคองดูแลตลอดเวลาแบบนี้”
“จะหนีเที่ยว ว่างั้น” เพชรนิลว่า พร้อมกับมองน้องสาวด้วยสายตารู้ทัน
“ไม่ใช่ซะหน่อย” พลอยชมพูผละออกจากอ้อมอกบิดา นั่งตัวตรง หญิงสาวขึงตาใส่พี่ชาย ปากจิ้มลิ้มยื่นออกมาจนน่าขำ แสดงถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง
“ไม่เชื่อ จะหนีเที่ยวก็บอกมาตรงๆเถอะ” คนเป็นพี่หรี่ตามองน้องสาวอย่างไม่เชื่อถือ
“ติ๊บไม่ได้จะหนีเที่ยวนะ”
“น่าเชื่อตายล่ะ”
“พี่ต่าย!” พลอยชมพูน้ำตาคลอ จ้องมองหน้าพี่ชายด้วยความน้อยใจ พี่ต่ายชอบมองว่าเธอยังเป็นเด็กไม่รู้จักโต เธอพูดอะไรก็ไม่เคยเชื่อถือ คราวนี้เธออุตส่าห์อธิบายถึงสิ่งที่ตั้งใจทำให้ฟังดีๆแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชื่ออีก ด้วยความอัดอั้นตันใจ ทำนบน้ำตาจึงพังทลาย พลอยชมพูใช้สองมือปาดน้ำตาบนพวงแก้มเนียน เบะปาก สะอื้นเบาๆ
“ต่ายอย่าว่าน้อง” แม่กระแตเอ็ดลูกชาย แล้วหันไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามากอดปลอบ พ่อเพชรเองก็ขยับเข้าใกล้ลูบหลังหัวปลอบโยน
“กระติ๊บอยากไปทำอะไรที่ไหนหรือลูก ไหนบอกแม่ซิ” แม่กระแตมองลูกชายด้วยสายตาตำหนิค่าที่ทำให้ลูกสาวคนเล็กของท่านต้องมีน้ำตา เพชรนิลถอนหายใจเบาๆ แม้จะหงุดหงิดที่เห็นพ่อกับแม่โอ๋น้อง แต่ก็ใจเสียไม่น้อยที่เห็นน้องร้องไห้
“ติ๊บอยากไปทำงานที่อื่น ที่ไกลๆสักหน่อย เป็นงานที่ไม่ใช่งานของครอบครัวเรา ติ๊บไม่อยากให้ทุกคนมองว่าติ๊บมีเส้นสายเลยได้ทำงานง่ายๆสบายๆ”
“ลองไปช่วยงานพี่โยดูไหมลูก”
พ่อเพชรเสนอทางเลือกให้ แม้อยากตามใจลูกสาว แต่เพราะรู้ดีว่าลูกสาวคนเล็กถูกโอ๋มาแต่อ้อนแต่ออก ท่านจึงไม่อยากปล่อยให้ไปไหนไกลตา อย่างน้อยถ้าไปช่วยงานที่บริษัทของวาโยซึ่งเป็นพี่เขย ก็ยังอยู่ในเขตกรุงเทพ อยู่ใกล้ๆ ไปเช้าเย็นกลับได้ ไม่น่าห่วง