เพราะโดนเจ้าสัวพีโทรมาตามให้รีบกลับบ้าน ทำให้สองวันต่อมาสองสามีภรรยาจึงปรากฏตัวอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลพิพัฒนพงศ์
เฟรียารีบเดินตามสาวใช้เข้าไปในบ้านโดยมีโลแกนเดินตามหลังมาติด ๆ แต่ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจะเดินเข้าลิฟต์กลับต้องหยุดชะงักเมื่อปารวีและปารดาโผล่หน้ามาทักทาย
“อ้าว จะรีบไปไหนคะคุณโลแกน คุณหนูเฟรี่” ปารวี แม่เลี้ยงของเฟรียาเอ่ยทักโลแกนด้วยรอยยิ้มและหันไปทักทายลูกเลี้ยงตามมารยาท
ปารดาที่เดินตามแม่ของตนเองมาจึงเอ่ยถามด้วยคน แต่ดวงตาหล่อนกลับจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าโลแกนซึ่งเป็นพี่เขยแทนที่จะเป็นพี่สาวอย่างเฟรียา
“นั่นน่ะสิคะ คุณโลแกนกับพี่เฟรี่จะไปไหนเหรอคะ” จ้องไม่พอยังยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ทำให้โลแกนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาชอบกล
“เรื่องของเราสองคน พวกคุณสองแม่ลูกไม่เกี่ยว”
คนไม่ชอบขี้หน้าสองแม่ลูกตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพลางปรายตามองด้วยหางตา ทำเหมือนไม่อยากเสวนาด้วย
ปารวีเห็นดังนั้นก็ได้แต่สะกดจิตตัวเองไม่ให้แสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ต่อหน้าโลแกนเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นแผนที่จะให้ลูกสาวแย่งสามีเฟรียาคงไม่สำเร็จ
“พูดแบบนี้ได้ยังไงคะคุณหนูเฟรี่ น้าถามดี ๆ นะคะ”
“ใช่ค่ะ เราสองแม่ลูกถามพี่ดี ๆ ทำไมพี่เฟรี่ต้องตอบเราแบบนี้ด้วย”
“เรื่องของฉัน อย่ายุ่ง”
เฟรียาสะบัดหน้าใส่สองแม่ลูกที่ตนเองเกลียดเข้ากระดูกแล้วหันไปคว้ามือสามีก่อนจะลากเข้าไปในลิฟต์
โลแกนตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้พบเจอ เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของภรรยาเลยยกเว้นเรื่องสถานะทางการเงิน ชายหนุ่มจึงหันมามองหน้าหญิงสาวด้วยความสงสัยพร้อมกับตั้งคำถามขึ้นในใจ ทำไมเธอถึงได้ดูเกลียดสองคนนั้น
เขารู้มาว่าเจ้าสัวพีตอนหนุ่ม ๆ ค่อนข้างจะเจ้าชู้พอสมควร เมื่อมารดาของหญิงสาวจากไปก็มีผู้หญิงใหม่เรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็ลงเอยกับ
ปารวีด้วยเหตุผลว่าเธอท้อง และมันก็เป็นเรื่องแปลกมากที่บิดาเฟรียาพลาดทำผู้หญิงท้องได้
“ดูท่าคุณจะเข้าไม่ได้กับแม่เลี้ยงและน้องสาวนะครับ”
“ฉันไม่เคยนับญาติกับพวกมัน ผู้หญิงแก่แดดแบบนั้นก็ไม่ใช่น้องฉันด้วย”
“อ้าว จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นลูกของพ่อคุณเหมือนกัน”
“ฉันไม่รับ ฉันเป็นลูกคนเดียว”
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและโทสะทำให้โลแกนเลือกที่จะเงียบเพื่อไม่กระตุ้นความโกรธของภรรยาอีก
เป็นจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์เคลื่อนมายังชั้นสองของบ้านซึ่งบิดาของหญิงสาวอาศัยอยู่ เฟรียาจึงก้าวเท้าฉับ ๆ ตรงไปยังห้องนอนเจ้าสัวพีที่รอลูกสาวและลูกเขยมาพบตนเอง
โลแกนจึงไม่รอช้ารีบเดินตามหญิงสาวเข้าไปในห้องพ่อตาติด ๆ พร้อมกับข้อสงสัยในเรื่องความสัมพันธ์ของคนในบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะเฟรียา ปารวี และปารดา
ภายในห้องนอนใหญ่ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง ชายวัยกลางคนยิ้มด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนที่ตนเองรอคอยมาถึงเสียที
ก่อนจะไอโขลก ๆ หน้าดำหน้าแดงเพราะอาการป่วยกำเริบ เฟรียาจึงรีบวิ่งไปดูพ่อด้วยความห่วงใย สร้างความประทับใจให้แก่โลแกนไม่น้อยที่ได้เห็นมุมอ่อนโยนของภรรยา
“คุณป๋าขาเป็นยังไงบ้างคะ อาการดีขึ้นบ้างไหม”
“ก็ตามประสาคนป่วย ดีบ้าง แย่บ้าง หนูไม่ต้องห่วงหรอก ดูแลสามีบ้างสิ”
เจ้าสัวพีเอ่ยกับลูกสาวตามความจริงพลางหันไปยิ้มให้ลูกเขยที่ยืนมองสองพ่อลูกเงียบ ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้ทำความเคารพตามธรรมเนียมของไทยอย่างที่มารดาสอนมา ด้วยความเป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซียทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างจะรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศไทยไม่น้อย
“สวัสดีครับเจ้าสัว”
“สวัสดีครับคุณโลแกน เรียกผมว่า คุณป๋า เหมือนเฟรี่จะดีกว่านะครับ เชิญนั่งครับ”
“ได้ครับ ขอบคุณครับคุณป๋า ว่าแต่คุณป๋าเป็นอะไรเหรอครับ ทำไมดูเหมือนคนป่วยแบบนี้ วันแต่งงานผมเห็นคุณป๋ายังแข็งแรงอยู่เลย”
“ป๋าป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด คงอยู่ได้อีกไม่นาน”
“ไม่นะคะคุณป๋า หมอกำลังรักษาคุณป๋าอยู่ อีกไม่นานคุณป๋าก็จะหายดี”
“ผมรู้จักหมอเก่ง ๆ เดี๋ยวผมติดต่อให้ครับคุณป๋า”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณโลแกน ป๋ารู้ตัวเองดี ที่ป๋าเรียกคุณกับเฟรี่มาวันนี้เพราะมีเรื่องจะขอร้อง”
“เรื่องอะไรครับ/เรื่องอะไรคะคุณป๋า”
“มีหลานให้ป๋าอุ้มก่อนที่ป๋าจะตายได้ไหม”
“คุณป๋า/คุณป๋า!”
“ป๋าอยากเห็นหลานก่อนตาย มีหลานให้ป๋าสักคนสองคนได้ไหมลูก”
“เรื่องนี้ผมว่า/ได้ค่ะ หนูจะมีหลานให้คุณป๋าอุ้ม แต่คุณป๋าต้องยอมรักษาตัวเอง ยอมทำตามคำแนะนำของหมอนะคะ ถ้าคุณป๋าตกลง หนูก็ตกลงค่ะ”
เธอกลัวว่าเขาจะปฏิเสธแล้วทำให้บิดาเสียความรู้สึกจึงรีบพูดแทรกตอบตกลง แต่ไม่วายจะตั้งเงื่อนไขเพื่อให้เจ้าสัวพีดูแลตัวเอง เพราะหมอบอกว่าท่านอยู่อีกได้หลายปีถ้าดูแลสุขภาพดี ๆ
“ได้สิลูก ถ้าเราสองคนตกลง ป๋าก็ตกลง ป๋าขอมากไปเหรอครับ
คุณโลแกนถึงได้หน้าซีดขนาดนั้น”
“ไม่เลยครับ ผมยินดีมีลูกกับเฟรี่”
เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของภรรยาที่กำลังมองบิดา คำปฏิเสธที่เขาตั้งใจจะพูดกลับเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เจ้าสัวพีผู้อยากมีหลานสีหน้าดีขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับปล่อยเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามประสาคนป่วย
“ฮ่า ๆ ได้ยินแบบนี้ป๋าก็ดีใจ เฟรี่ลูก ป๋าหิวผลไม้ หนูลงไปเอาให้ป๋าหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ คุณป๋าอยากกินอะไรคะ”
“อะไรก็ได้ลูก ป๋ากินได้หมด”
“ค่ะ หนูจะลงไปเอามาให้ คุณป๋าคุยกับคุณโลแกนไปก่อนนะคะ”
ลูกสาวคนสวยกระตือรือร้นกับคำขอของบิดาจึงมองไม่เห็นความผิดปกติในคำขอร้อง แล้วเดินออกจากห้องนอนใหญ่ปล่อยให้โลแกนนั่งคุยกับพ่อตาตามลำพัง