ตอนที่ 2 : เจอครั้งแรก ก็ปล้นจูบซะแล้ว

2244 Words
ตอนที่ 2 : เจอครั้งแรก ก็ปล้นจูบซะแล้ว ร่างอรชรในชุดเสื้อมัดย้อมสายเดี่ยวอวดผิวขาวอมชมพูน่าสัมผัส พร้อมกระโปรงผ่าข้างตัวยาวถึงข้อเท้า สีสันสดใส พร้อมรองเท้าส้นสูงเรียบหรูดูแพงราวกับนางแบบ เดินลากกระเป๋าตรงมาหาเพื่อนสาวที่มายืนรออยู่ทางประตูทางออกของสนามบินด้วยอาการตื่นเต้น “ไฮ…เพื่อนรัก คิดถึงจังเลย” เขมนิจทักท้ายเพื่อนสาวพร้อมวิ่งมาสวมกอดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ ซึ่งมุกดาก็กอดตอบด้วยความคิดถึงไม่แพ้กัน “ฉันก็คิดถึงแกมากเขม แล้วนี่…ทานอะไรมาหรือยัง นี่ก็จะสองทุ่มแล้ว” มุกดาบอกพร้อมเอ่ยถามเพื่อนสาว ที่ไม่ได้เจอกันนาน ซึ่งตอนนี้ดูผอมบางกว่าครั้งล่าสุดที่เจอกันมาก “อืม…เมื่อเช้าก็ทานกาแฟมาแก้วหนึ่งแล้ว” “ตายแล้ว ตั้งแต่เช้าทานกาแฟแค่แก้วเดียวเนี่ยนะ ครอบครัวก็ใช่ยากจนเสียเมื่อไหร่ ทำไมไม่ทานข้าวเยอะๆ รู้ตัวไหมว่าตอนนี้ผอมตัวจะปลิวอยู่แล้วเนี่ย!” มุกดาต่อว่าเพื่อนสาว ส่งผลให้คนถูกต่อว่าระบายยิ้มอ่อน เพราะรู้ว่าในคำพูดเจ็บแสบของเพื่อนนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย “พักนี้ฉันไม่ค่อยหิว…กาแฟแก้วเดียวก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว” “กาแฟแก้วเดียวจะอิ่มได้ยังไงละเพื่อน มาถึงภาคใต้ทั้งทีขอให้ฉันพาไปเลี้ยงอาหารอร่อยๆ ก่อนดีกว่า” “เอาไว้ไปเก็บของเสร็จก่อนดีกว่าไหม ฉันยังไม่เข้าที่พักก็จะพาไปกินแล้วเหรอ” “เอางั้นก็ได้ ตอนนี้ไปที่รีสอร์ทก่อน ฉันเตรียมที่พักให้แกเรียบร้อยแล้ว หลบมาพักกายพักใจที่นี่สักพักรับรองแกจะลืมกรุงเทพไปเลย” มุกดาบอกพร้อมกับคว้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเพื่อนมาช่วยลากไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ที่ลาดจอดรถของสนามบิน เมื่อมาถึงรีสอร์ทหรูติดทะเลของเพื่อนสาว มุกดาก็แนะนำแฟนหนุ่มตาน้ำข้าวให้กับเขมนิจได้รู้จัก “นี่ลูคัสแฟนของฉัน ที่เล่าให้แกฟังบ่อยๆ” มุกดาเอ่ยแนะนำคนรักกับเพื่อนสาวด้วยเสียงใส ซึ่งเธอได้คบหาดูใจกันเกือบถึงปีแล้ว มุกดาเป็นผู้หญิงที่มีความคิดแบบคนยุคใหม่ เลยไม่ยึดติกับความสัมพันธ์ที่ต้องฝืนทนกันเท่าไหร่ เธอมองว่าหากรักไปกันไม่ได้ก็ควรจะแยกทาง และเธอก็มักจะเปลี่ยนแฟนอยู่บ่อยๆ กระทั่งมาเจอกับหนุ่มตาน้ำข้าวคนล่าสุดที่ชื่อ ลูคัส ที่ดูเหมือนว่าจะคบนานกว่าคนอื่นๆ เพราะใกล้จะครบปีแล้วนั่นเอง “ลูคัสคะ นี่เขมเพื่อนรักของมุกค่ะ” เมื่อได้รับการแนะนำ ลูกคัสก็พยักหน้าทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร “ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเขม” ลูคัสที่มีหน้าตาเป็นฝรั่งแต่เอ่ยทักท้ายเป็นภาษาไทยราวกับเจ้าของภาษา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนสอน ก็จะใครซะอีกถ้าไม่ใช่แม่เสือสาวที่ยืนเกาะแขนแฟนตั้งแต่ที่กลับมาถึงจนกระทั่งตอนนี้ ราวกับอยู่ห่างกันไม่ได้ เห็นแล้วเขมนิจยังอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณลูคัส” เขมนิจทักทายตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน ก่อนจะหันมาเอ่ยกับเพื่อนต่อ “ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะมุก” เขมนิจขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพราะเธอรู้สึกตัวเหนียวเหนอะหนะ อยากชำระร่างกายให้สะอาดสดชื่นเต็มที และอีกอย่างเธอก็ไม่อยากยืนที่นี่นานๆ เกรงจะเป็นตากุ้งยิง เพราะแม่เพื่อนสาวเล่นประกบปากแลกลิ้นกับแฟนหนุ่มเป็นพักๆ อย่างไม่คิดจะอายเธอ “รีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวสวยๆ นะ คืนนี้จะพาไปนั่งดริ้งในคลับหรู เผื่อแกจะได้เจอเจ้าชายของตัวเองสักที” มุกดาตะโกนตามหลังของเพื่อนสาว ก่อนจะหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ …………………………………… ทัศนัย…หนุ่มหล่อคมเข้ม ร้อยยิ้มของเขานั้นแฝงไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายยากที่ใครเห็นแล้วจะถอนสายตาออกไปได้ เขาเป็นเจ้าของเกาะรังนกหลายแห่งทางตอนใต้ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นซีอีโอธุรกิจเรือยอร์ชขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ นั่งเอนหลังกับโซฟาตัวใหญ่ในท่าสบายๆ โดยมีสาวสวยอกสะบึ้มนั่งประกบซ้ายขาวอยู่มุมหนึ่งของไนท์คลับหรู มือใหญ่ละจากเอวคอดของสาวงามมาคว้าแก้วเหล้าหมายจะกระดกเข้าปาก แต่แล้วก็ต้องชะงักมือนิ่งเมื่อนัยน์ตาคู่คมสะดุดเข้ากับหญิงงามนางหนึ่งในชุดเสื้อสายเดี่ยวผ้ามัดย้อมรับกับกระโปรงตัวยาวผ่ากลางสีสดใสที่แสนจะธรรมดา แต่เธอกลับโดดเด่นสะดุดตาอย่างไม่น่าเชื่อ ใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโต จมูกเชิดรั้นนิดๆ ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อน่าสัมผัส ผมยาวสีดำขลับยาวสลวยปล่อยทิ้งลงกลางแผ่นหลัง ทุกทวงท่าของการก้าวเดินดูสง่าสามารถสะกดสายตาให้ตรึงอยู่ที่เธอจนยากที่จะละออกไปได้ เป็นครั้งแรกที่ทัศนัยรู้สึกใจสั่นรัวจนแทบจะนั่งไม่ติด “คุณทัศนัยเป็นอะไรคะ” หญิงสาวอกสะบึ้มที่นั่งเบียดอยู่ข้างกายเอ่ยถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าต้นเหตุที่นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเป็นแบบนี้เพราะสาวสวยที่เดินผ่านหน้าไปเมื่อครู่ นัยน์ตาคมกริบที่ทอดมองอย่างให้ความสนใจทำให้สองสาวที่คอยนั่งเทคแคร์อยู่ข้างๆ รู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะตัวเองรู้สึกเหมือนกลายเป็นฝุ่นไร้ตัวตนขึ้นมาทันที “ผมขอตัวก่อน” ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่กลับพยุงร่างสูงสง่าลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วก้าวยาวๆ ตรงไปหาร่างอรชรที่หมายไว้ทันที ท่ามกลางสองสาวที่มองตามด้วยความไม่พอใจ “สนใจชนกับผมสักแก้วไหมครับ คุณผู้หญิง” เสียงทุ้มนุ่มที่ดังอยู่ชิดใบหูเล็ก ทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีคนมายืนซ้อนหลังแนบชิดขนาดนี้ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเว้นระยะห่างก่อนจะหันมามองเจ้าของเสียงด้วยความรู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องชะงักไปนิดเมื่อพบกับใบหน้าหล่อเหลา ที่ประกอบไปด้วยดวงตาคมกริบสีดำสนิท คิ้วดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูป กรอบหน้ามีไรนวดเคราบางๆ เพิ่มเสน่ห์เหลือร้ายให้เขาอย่างที่เธอไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิต ‘โลกนี้มีคนหล่อ สมบูรณ์แบบๆ นี้ด้วยเหรอ’ เขมนิจพึมพำถามตัวเองในใจ ขณะที่หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบปฏิเสธออกไปเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าเธอกำลังมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นกับเขา “ไม่ค่ะ ขอบคุณ” พูดจบหญิงสาวก็รีบหมุนตัวเพื่อเดินจากไป แต่ร่างสูงสง่าก็เดินมาขวางไว้ทำให้เธอต้องชะงักเท้ายืนอยู่กับที่ “ขอโทษนะคะ กรุณาหลีกทางหน่อยค่ะ เพื่อนของฉันกำลังรออยู่” เสียงหวานเข้มขึ้นเล็กน้อย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจทำตาม ซ้ำร้ายยังกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าไว้ใจ ทัศนัยไม่อยากจะเชื่อว่าชาตินี้เขาจะถูกปฏิเสธจากผู้หญิงตรงๆ แบบนี้ เพราะตั้งแต่เกิดมามีแต่จะมีผู้หญิงวิ่งเข้าหา โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องลดตัวเองลงไปตามตื้อจีบเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงตรงหน้าคือคนแรกและคนเดียวที่เขาเกิดความคิดอยากจะเป็นฝ่ายรุกหาเธอ แต่ผลที่ได้กลับมาคือคำปฏิเสธเสียอย่างนั้น “เดี๋ยวก่อนสิครับ ผมอยากรู้จักคุณจริงๆ นะ ผมชื่อทัศนัย แล้วคุณละครับชื่ออะไร” ชายหนุ่มไม่ละความพยายาม เขาเอ่ยแนะนำตัวเองก่อนจะถามเธอบ้าง “เขมนิจค่ะ” หญิงสาวรีบแนะนำตัวเองเพราะหวังว่าหลังจากเขารู้จักเธอแล้วจะยอมหลีกทางให้ แต่ที่ไหนได้นอกจากเขาจะไม่ยอมหลีกทางให้แล้วยังถามต่ออย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร “ชื่อเพราะดีนะครับ ว่าแต่คุณเขมไม่สนใจที่จะชนแก้วกับผมจริงๆ เหรอครับ” ชายหนุมถือวิสาสะเรียกชื่อเธออย่างสนิทสนมทั้งที่เธอไม่ได้บอกชื่อเล่นกับเขาเลยด้วยซ้ำ “ปกติคุณตื้อผู้หญิงแบบนี้เหรอคะ” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ถามเขาด้วยความไม่ค่อยพอใจเมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่เข้าใจความต้องการของเธอ ทั้งที่เธอบอกเขาตั้งแต่แรกแล้ว “ปกติผมไม่ตื้อผู้หญิงหรอกครับ มีแต่ผู้หญิงที่จะเป็นฝ่ายมาตื้อมากกว่า คุณเป็นคนแรกที่ผมอยากจะตื้อ” ชายหนุ่มบอกก่อนที่จะย้ำประโยคท้ายเพื่อให้เธอรับรู้ไว้ แต่หญิงสาวไม่รู้สึกดีใจหรือภูมิใจเลยสักนิดที่ได้เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาตื้อ เพราะเธอคิดว่าผู้ชายหล่อร้ายอย่างเขาก็คงใช้มุกเดิมแบบนี้กับผู้หญิงไปทั่ว หากเธอเป็นสาวแรกรุ่นก็คงตกหลุมพรางอารมณ์ของเขา แต่เสียใจ เพราะเธอเคยผ่านโลกมามาก แถมยังเคยผ่านชีวิตแต่งงานมาแล้ว จึงไม่ตกหลุมพรางเขาง่ายๆ เมื่อรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเขา เขมนิจก็ขยับหมายจะเดินเบี่ยงไปอีกทาง แต่มือใหญ่ก็ยื่นมายันผนังไว้พร้อมต้อนเธอให้ก้าวถอยหลังจนชิดติดผนัง ดวงตาคมกริบจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตนิ่ง พลังงานบางอย่างดึงดูดให้เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาประทับจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อนลงบนกลีบปากอวบอิ่มอย่างรวดเร็ว ขณะที่มือใหญ่เลื่อนมาตรึงท้ายทอยเล็กไม่ให้เธอเบี่ยงใบหน้าหลบไปไหนได้ เขมนิจเบิกตาโตด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำกับเธอแบบนี้ มือเล็กพยายามดันอกกว้างออกห่าง แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหรือจะสู้แรงของผู้ชายหุ่นล่ำอย่างเขาได้ ยิ่งเธอดิ้นขัดขืน ลิ้นร้อนๆ ก็ยิ่งสอดแทรกเข้ามาตักตวงเอาความหอมหวานในโพรงปากของเธอรุนแรงเท่านั้น จนในที่สุดคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์จูบกับใครมาก่อนต้องอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งรนไฟ ทัศนัยครางในลำคออย่างพอใจเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายหยุดต่อต้าน และเริ่มตอบสนอง แต่กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าจูบที่ตอบสนองมานั้นชั่งไร้เดียงสาราวกับคนอ่อนประสบการณ์ ทั้งที่คนสวยระดับนี้ไม่น่าจะรอดจากเรื่องพวกนี้ไปได้ “จูบไร้เดียงสานี้ ผมจะเก็บเอาไปฝันถึงนะครับ ผมจะคิดเสียว่าคุณเสียจูบแรกให้กับผมก็แล้วกัน” ทัศนัยบอกชิดติดริมฝีปากอวบอิ่ม หลังจากที่ตัดใจถอดถอนจุมพิตออกด้วยความแสนเสียดาย เพราะเกรงว่าหญิงสาวที่ถูกจู่โจมจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน เขมนิจหายใจหอบถี่ ใบหน้าขาวเนียนตอนนี้ร้อนซ่านไปถึงหูและลำคอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก เมื่อตั้งสติได้ก็รีบผลักอกกว้างออกเต็มแรง ก่อนจะก้าวฉับๆ ตรงไปยังโต๊ะที่มุกดาและแฟนหนุ่มกำลังนั่งอยู่ “เป็นอะไรเขม ไม่สนุกเหรอทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้นละ” มุกดาเอ่ยถามเพื่อนเมื่อเห็นใบหน้างดงามของเพื่อนสาวบูดสนิทหลังจากที่กลับมาจากการขอตัวไปเข้าห้องน้ำ “ฉันหมดอารมณ์แล้ว อยากกลับบ้าน” เขมนิจไม่อยากจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอให้เพื่อนสาวฟัง เพราะกลัวเพื่อนสาวจะรู้สึกตกใจไปด้วย “เดี๋ยวก่อนสิ เรามายังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ” “ถ้าแกอยากอยู่ต่อก็ตามสบายนะ แต่ฉันขอตัวกลับก่อน รู้สึกปวดหัวยังไงไม่รู้” หญิงสาวเลือกที่จะปดคำโต เพราะเธอไม่อยากอยู่ต่ออีกแล้วแม้แต่วินาทีเดียว “ตายจริง! นี่แกไม่สบายเหรอ งั้นกลับๆ ฉันจะพาแกกลับเดี๋ยวนี้และ” มุกดาอุทานออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาว จากนั้นก็หันมาบอกกับคนรักที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม “ลูคัสคะ เขมไม่สบายเรากลับกันก่อนเถอะ ไว้วันหลังค่อยมาสนุกกันใหม่นะคะ” “ครับ” ลูคัสรับคำอย่างว่าง่าย เพราะตั้งแต่ได้รู้จักกับมุกดาเขาก็มักจะเชื่อฟังและไม่ขัดใจเธอ อาจเป็นเพราะเขารักและแคร์เธอมากนั่นเอง ไม่ว่าหญิงสาวจะต้องการ หรือขออะไรเขาก็ทำให้ได้ทั้งนั้น .................................................... //คุณทัศนัยของเรานี่ร้ายจริงๆ เห็นคนสวยเป็นไม่ได้// ++ 5555 ฝากติดตามต่อนะคะ อ่านเพลินแล้วอย่างลืมกดไลค์ให้ไรท์ด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจปั่นต่อ ++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD