บทที่ 8

1583 Words
       “น้องพลอยกลับมาแล้วค่ะคุณแม่ คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ” พลอยลดาร้องบอกเสียงหวานก่อนจะโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง แก้มป่องๆ ยิ่งเพิ่มความน่ารักเข้าไปอีกยามเมื่อมันออกสีแดงระเรื่อให้ได้เห็น            “แม่ก็คิดถึงน้องพลอยค่ะ สวัสดีคุณพ่อด้วยสิคะลูก” เด็กหญิงทำตามคำบอกกล่าวของแม่ทันทีโดยการหันหน้าเข้าหาห้องกระจกก่อนจะยกมืออวบๆ ของตัวเองขึ้นไหว้คนที่กำลังนั่งปั้นหน้าเรียบเฉยตามนิสัยอย่างนอบน้อม รอยยิ้มหวานละมุนจากลูกสาวทำให้ทัดเทพต้องรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพราะกลัวใจตัวเองว่ามันจะทนทำเย็นชาไม่ได้เหมือนอย่างที่แล้วๆ มา เขารู้สึกเกลียดตัวเองทุกครั้งที่ต้องทำตัวแบบนี้กับลูก! ทำในสิ่งที่มันตรงข้ามกับหัวใจไปโดยสิ้นเชิง!            “ไหนคะวันนี้มีการบ้านไหม เดี๋ยวน้องพลอยรอคุณแม่ช่วยคุณพ่อทำงานเสร็จก่อนนะคะแล้วเราค่อยกลับบ้านกัน ตกลงไหมคะคนเก่ง” มิ่งขวัญจำต้องรีบพาลูกเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้พลอยลดารู้สึกไม่ดีต่อท่าทีเย็นชาที่พ่อแท้ๆ มีให้เหมือนอย่างทุกที ความสุขของลูกคือสิ่งที่เธอพยายามทำมาตลอด และต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรเธอก็ยอมทั้งนั้นขอเพียงแค่พลอยลดามีความสุขแค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วจริงๆ            “ตกลงค่า” เด็กน้อยตอบกลับอย่างไม่คิดดื้อดึงก่อนมิ่งขวัญจะพาตัวลูกสาวไปนั่งข้างๆ และปล่อยให้เด็กน้อยทำการบ้านของตัวเองไป แต่ไม่นานก็ต้องขมวดคิ้วหม่นเมื่อเห็นลูกสาวยกมือขึ้นปาดเหงื่อออกจากขมับเบาๆ เพราะความร้อนอบอ้าวจากสถานที่ที่ต้องทนอยู่            “หนูร้อนเหรอคะลูก”            “ร้อนนิดหน่อยค่ะ แต่น้องพลอยทนได้ค่ะ” มิ่งขวัญส่งยิ้มให้ลูกสาวอย่างขอบคุณที่อีกฝ่ายเป็นเด็กดีเสมอมา พลอยลดาไม่เคยเรียกร้องหรือทำตัวเกเรให้เธอได้เหนื่อยใจเลยสักครั้ง และนั่นมันยิ่งจะทำให้เธอรู้สึกสงสารลูกสาวจับหัวใจที่ต้องมาพลอยรับชะตากรรมเดียวกันกับตัวเองไปด้วยแบบนี้            ในขณะที่ทัดเทพเองกลับเริ่มทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียเฉยๆ ยามเมื่อเห็นสองแม่ลูกนั่งเหงื่อไหลอยู่ด้านนอกในขณะที่ตัวเขาเองนั้นกลับกำลังนั่งสบายในห้องแอร์เพียงลำพัง แต่ความสะดวกสบายเหล่านั้นมันกลับไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มซาบซึ้งถึงความสุขสบายรอบข้างเลยแม้แต่น้อยนิด            กลับกันยิ่งพอได้เห็นใบหน้าของลูกสาวที่แดงจัดเพราะคงจะร้อนหัวใจมันก็ยิ่งร้อนรุ่มและรู้สึกร้อนรนจนแทบจะทำงานต่อไปไม่ได้ จนเมื่อความอดทนเดิมทางมาถึงสุดปลายทางร่างสูงใหญ่จึงเหยียดกายลุกขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีเย็นชาเหมือนกับทุกทีที่ต้องเผชิญหน้ากัน            “วันนี้พอแค่นี้ก่อน! เธอพาลูกกลับบ้านไปได้แล้วมิ่งขวัญ” เสียงเข้มของคนตรงหน้าทำให้มิ่งขวัญและลูกสาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ            “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวี อีกนิดก็จะเสร็จแล้วค่ะ ขวัญว่าทำให้เสร็จแล้วค่อย...”            “ฉันสั่งให้พอก็ต้องพอสิ! รีบๆ พากันกลับไปได้แล้ว!!” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยอมพยักหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี แม้ใจอยากจะทำงานตรงหน้าให้เสร็จแต่ในเมื่อเขาอยากให้เธอกลับไปมันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างไม่มีเงื่อนไข หญิงสาวหันไปพยักหน้าให้กับลูกสาวตัวน้อยก่อนทั้งคู่จะช่วยกันเก็บข้าวของให้เข้าที่จนทุกอย่างเสร็จสิ้นลงในเวลาต่อมาโดยมีสายตาคมเข้มจากทัดเทพจ้องจับผิดกันอยู่ไม่ไกล            “ถ้าอย่างนั้นขวัญกับลูกขอตัวกลับก่อนนะคะ” มิ่งขวัญเอ่ยบอกคนที่เอาแต่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเขาเลือกที่จะนิ่งเงียบจึงค่อยๆ จูงมือลูกสาวให้เดินออกมา            “เดี๋ยวก่อน...” แต่แล้วเสียงเข้มที่จู่ๆ ก็ร้องเรียกขึ้นทำให้สองแม่ลูกหยุดชะงักและหันกลับไปมองเจ้าของเสียงที่ดังขึ้นนั้นอีกครั้งพร้อมกัน ไม่นานที่หันกลับมาทั้งสองก็ต้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อทัดเทพเดินตรงเข้ามาหาลูกสาวพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ในมือ            “พอดีลูกสาวของลูกค้าที่มาวันนี้เขาลืมไว้...เอาไปสิ ฉันให้” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นส่งตุ๊กตาไปให้พลอยลดาลูกสาวเมื่อพูดจบ ซึ่งเด็กน้อยก็เอื้อมมือไปรับไว้ก่อนจะคว้าเอาตุ๊กตาตัวแรกที่ได้รับจากผู้เป็นพ่อมากอดเอาไว้อย่างหวงแหนและรู้สึกรักทันทีที่ได้มันมาอยู่ในอ้อมกอด            “ขอบคุณนะคะคุณพ่อ...เอ้ย! คุณวี น้องพลอยจะดูแลมันอย่างดีเลยค่ะ” รอยยิ้มกว้างที่เห็นซี่ฟันเล็กๆ น่ารักทำเอาคนเป็นพ่อรู้สึกอยากจะยิ้มตามเสียให้ได้แต่ก็ต้องทำท่าทีเย็นชาใส่พร้อมกับพยักหน้ารับคำสัญญาของลูกสาวที่บอกว่าจะดูแลตุ๊กตาที่ตนเองเพิ่งจะให้ไปเป็นอย่างดีส่งๆ       ระหว่างทางกลับบ้านนั้นพลอยลดาเอาแต่กอดตุ๊กตาตัวแรกที่ได้รับจากผู้เป็นพ่อเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ใบหน้าที่ดูดีใจมากกว่าครั้งไหนๆ ของลูกสาวทำให้มิ่งขวัญอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามยามเมื่อเห็นลูกมีความสุข แม้ว่าเหตุผลที่ได้รับของขวัญจากพ่อแท้ๆ จะเป็นเช่นไรก็ช่างมันเถอะ ขอแค่เพียงมันสามารถทำให้ลูกสาวของเธอยิ้มได้และมีความสุขมันก็น่าจะเพียงพอแล้ว จะไปคาดหวังอะไรที่มันมากกว่านี้ก็คงไม่ได้            “น้าชัยคะๆ ดูสิคะน้องพลอยได้ตุ๊กตาตัวใหม่ด้วย สวยไหมค่า” เสียงหวานใสดังขึ้นเมื่อเห็นหน้าชัย คุณน่าใจดีที่มักจะชอบแวะเวียนมาเล่นและซื้อขนมมาฝากตนเองอยู่บ่อยๆ ซึ่งฝ่ายนั้นก็ไม่รีรอที่จะวางมือจากงานและเดินตรงเข้ามาหาคุณหนูตัวน้อยของไร่พร้อมรอยยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของอีกฝ่าย            “ไหนครับๆ ว้าวสวยจังเลย แต่เอ๊ะ...น้าชัยว่าตุ๊กตาตัวนี้มันคุ้นๆ อยู่นะครับเนี่ย น้องพลอยไปได้มันมาจากที่ไหนเหรอครับ”             “คุณพ่อให้มาค่า...เป็นของขวัญที่น้องพลอยเป็นเด็กดี” เด็กน้อยพูดสรุปเอาเองตามที่ต้องการก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้เมื่อพูดจบ ซึ่งคำตอบนั้นก็ทำเอาชัยถึงกลับต้องแสยะยิ้มตามเมื่อได้ยินมัน            “มีอะไรรึเปล่าคะพี่ชัย”            “ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่ตกใจน่ะ พอดีเมื่อเช้านายสั่งให้พี่พาเข้าไปในเมืองกะทันหัน พี่แอบเห็นนายยืนมองตุ๊กตาตัวนี้อยู่ตั้งนานสองนานแน่ะ ตอนแรกคิดว่าจะซื้อไปให้หนูหยกฟ้าเสียอีก ที่ไหนได้แอบซื้อมาให้ลูกสาวตัวเองนี่เอง” คำบอกเล่าจากปากของชัยทำเอามิ่งขวัญรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยิน เธอทำท่าเหมือนจะถามต่อแต่ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจจึงได้ชิงพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้ทันเอ่ยปากถาม            “นายไม่ได้ใจร้ายเสมอไปหรอกนะน้องขวัญ แต่ก็คงจะกลัวเสียฟอร์มตามนิสัยนั่นแหละ นี่อย่าเที่ยวเผลอไปบอกเชียวนะว่ารู้เรื่องนี้มาจากพี่ ไม่งั้นพี่ถูกหักเงินเดือนทั้งเดือนแน่ๆ” มิ่งขวัญยิ้มรับก่อนจะสัญญาว่าจะไม่มีวันบอกใครเรื่องนี้ เธอเองก็สงสัยตั้งแต่ที่เขายื่นตุ๊กตาให้กับลูกอยู่แล้วเพราะมาตลอดทั้งวันนี้แทบจะไม่มีลูกค้าคนไหนเข้ามาที่ออฟฟิตเลยแม้แต่คนเดียว  เพราะฉะนั้นเหตุผลที่เขาบอกว่ามีลูกค้าลืมมันเอาไว้นั้นคงจะไม่ใช่เรื่องจริง             มิ่งขวัญเก็บงำความดีใจเอาไว้ก่อนจะบอกลาชัยและพาตัวลูกสาวที่ดูเหมือนว่าตอนนี้นั้นจะไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกเสียจากของขวัญชิ้นแรกในชีวิตที่ได้รับจากผู้เป็นพ่อ จนเมื่อมาถึงบ้านพลอยลดาก็ยังคงอุ้มตุ๊กตาหมีสีขาวที่ดูจะกลายเป็นตุ๊กตาตัวโปรดไปแล้วเอาไว้ไม่ยอมปล่อยให้ห่างตัว แม้กระทั่งถึงเวลาเข้านอนก็ยังนอนกอดตุ๊กตาเอาไว้แน่นราวกับว่ามันคือตัวแทนของใครบางคนที่อยากกอดสักครั้งในชีวิตแต่ก็ทำไม่ได้...            เมื่อพาลูกสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้วมิ่งขวัญก็พาตัวเองออกมานั่งรับลมเย็นๆ ที่หน้าบ้าน หญิงสาวรู้สึกมีความสุขมากกว่าวันไหนๆ ที่ได้เห็นทัดเทพแสดงความรักต่อลูกสาว แม้เพียงน้อยนิดแต่ความดีใจที่เกิดขึ้นนั้นกลับมากมายมหาศาลจนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะหันไปมองบ้านหลังใหญ่แต่ไม่นานก็ต้องตกใจเพราะเห็นสายตาดุดันของคนที่เธอกำลังคิดถึงที่ตอนนี้นั้นกำลังจ้องมองลงมาจากชั้นสองของตัวบ้านอยู่เช่นกัน            เร็วกว่าความคิดหญิงสาวหมุนตัวและรีบเดินหายเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกว่าเอาอีก!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD