บทที่ 6

1065 Words
“ได้! ในเมื่อเธอเสนอมาถึงขนาดนี้ฉันก็จะสนองให้เธอเอง! เตรียมตัวรับมันไปได้เลยมิ่งขวัญความเกลียดชังที่ฉันมี!!” ทัดเทพสบถตอบอย่างหัวเสียก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายหมุนตัวและเดินจากไปอย่างรวดเร็วทิ้งไว้แต่เพียงมิ่งขวัญที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เฝ้ามองเขาที่ค่อยๆ เดินหายเข้าไปในตัวบ้านและลับสายตาไปในที่สุดท่ามกลางความรู้สึกปวดร้าวในใจ หญิงสาวเริ่มต้นออกเดินหาตัวลูกสาวทันทีที่ช่วยนวลกับสาลี่สาวใช้ในบ้านเก็บจานชามไปล้างเรียบร้อยแล้วก่อนจะมาพบพลอยลดาที่กำลังนั่งเล่นชิงช้ารออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมกับแววดาวที่ได้แต่ลูบหัวคุณหนูตัวน้อยที่ผู้เป็นพ่อไม่ต้องการอย่างอดสงสารไม่ไหว ใครเลยจะรู้ว่าทุกๆ คนต่างก็รักเด็กหญิงพลอยลดาแค่ไหนแต่เพราะคำสั่งจากผู้เป็นนายทุกคนจึงจำต้องทำเหมือนไม่สนใจทั้งๆ ที่ใจจริงนั้นทั้งรักและสงสารเด็กน้อยมากกว่าอะไรทั้งหมด            “น้องพลอยคะ” เสียงเรียกจากผู้เป็นแม่ส่งผลให้พลอยลดาผละตัวออกห่างจากชิงช้าที่ผู้เป็นแม่นั้นมักจะพาตนเองแอบมานั่งเล่นอยู่บ่อยๆ ตอนที่เจ้าของมันเข้าไปทำงานในไร่แทบจะทันที            “ง่วงรึยังคะคนเก่งของแม่ เรากลับบ้านกันเถอะจ๊ะ ขอบคุณมากนะคะพี่แววที่ช่วยอยู่เป็นเพื่อนน้องพลอยให้ขวัญ” มิ่งขวัญเอ่ยบอกลูกสาวในอ้อมแขนและไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณแววดาที่คอยช่วยเหลือเธอกับลูกอยู่เสมอไม่เคยเกี่ยงงอน            “เรื่องเล็กน้อยน่า สองคนแม่ลูกพากันเดินกลับกันดีๆ ล่ะ ฝันดีนะคะคุณหนูคนสวยของพี่แวว” มิ่งขวัญพยักหน้ารับก่อนจะย่อตัวลงไปอุ้มลูกสาวขึ้นแนบอกและออกตัวเดินมุ่งหน้ากลับไปยังที่ที่เดียวที่ทัดเทพยกให้มันเป็นกรรมสิทธิ์ของเธอและลูก ที่ที่เดียวที่พอจะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองพอจะมีจุดยืนอยู่บ้าง            “เฮ้อ น่าสงสารจริงๆ คุณหนูของนังแวว คุณวีนะคุณวี เมื่อไหร่จะเลิกใจร้ายกับลูกกับเมียเสียทีก็ไม่รู้” แววดาวได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาเบาๆ ยามยิ่งได้เห็นมิ่งขวัญและลูกได้รับความลำบากก็ยิ่งรู้สึกสงสารเห็นใจอีกฝ่ายมากขึ้น หนำซ้ำยังรู้สึกชื่นชมในความเข้มแข็งที่เธอนั้นกัดฟันทนมาตลอดหลายปี ซึ่งถ้าลองเธอได้เจออย่างที่มิ่งขวัญเจอบ้างคงจะอกแตกตายไปตั้งแต่ที่ทัดเทพควงผู้หญิงอื่นมาเยาะเย้ยกันไม่ซ้ำวันนั่นไปแล้ว แต่นี่อะไรกลับยอมทนแถมยังไม่ปริปากทวงสิทธิ์อันชอบธรรมให้กับตัวเองและลูกเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าแบบนี้ควรจะเรียกว่าโง่หรือรักมากกันแน่… แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าเรียกความสดใสแก่มิ่งขวัญได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก หลังจากออกไปส่งลูกสาวขึ้นรถไปโรงเรียนเหมือนปกติที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกวันเสร็จดีแล้วเธอก็รีบกลับมาช่วยงานในครัวต่ออย่างขยันขันแข็งจนเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นหญิงสาวก็วกกลับไปเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงยีนส์ขายาวพร้อมกับเสื้อลายสก็อตแขนขาวสีแดงเพื่อสำหรับเข้าไร่ไปเก็บยอดใบชาพร้อมกันกับคนอื่นๆ ที่ต่างก็มีหน้าที่ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป            “อ้าวน้องขวัญ! นี่กำลังจะเข้าไร่เหรอครับ” เสียงจากชัยที่คุ้นเคยกันดีทักทายขึ้นเมื่อพบหน้ากันทำให้หญิงสาวหยุดชะงักก่อนจะตอบกลับชายหนุ่มไปด้วยน้ำเสียงและท่าทีเป็นกันเอง            “จ๊ะพี่ แล้วนี่พวกพี่ชัยกำลังจะไปไหนกันจ๊ะ” หญิงสาวขานตอบพร้อมทั้งเอ่ยถามเมื่อเห็นเขาและคนงานชายในไร่อีกคนทำท่าเหมือนกำลังจะพากันไปที่ไหนสักแห่ง ซึ่งดูจากจำนวนของคนและอุปกรณ์มากมายในมือแล้วนั้นคงไม่น่าจะพากันเข้าไปในไร่อย่างแน่นอน            “พอดีที่ไร่ของคุณรุ้งมณีเขาขาดคนงานน่ะ นายแกก็เลยสั่งให้พวกพี่เข้าไปช่วยเธอหน่อย” คำบอกเล่าที่ได้ยินทำเอาหญิงสาวถึงกลับนิ่งเงียบไปพักใหญ่ นี่ถึงขั้นต้องส่งคนงานในไร่ของตัวเองไปช่วยงานไร่ข้างๆ แบบนี้เห็นทีว่าทัดเทพคงอยากจะรวมเป็นครอบครัวเดียวกันกับรุ้งมณีเหมือนอย่างที่พวกคนงานชอบพูดไว้ไม่ผิดแน่            และถึงมันจะเป็นเช่นนั้นเธอก็คงไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขาอยู่ดี เพราะไม่ว่าเขาจะรักใครชอบใครอย่างไรเสียคนๆ นั้นก็คงไม่มีวันเป็นเธออยู่ดี หากเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังล่ะก็ว่าไปอย่าง            มิ่งขวัญพาตัวเองเดินมาไกลกว่าทุกวันที่เลยผ่านแต่แล้วฝีเท้าของหญิงสาวกลับต้องชะงักลงไปเมื่อได้ยินเสียงบีบแตรจากรถจิ๊บคันใหญ่ที่กำลังขับไล่หลังมาอย่างกระชั้นชิดเข้า เป็นทัดเทพนั่นเองที่บีบแตรเรียกให้เธอหยุดก่อนที่เขาจะก้าวอาดๆ เดินลงมาจากรถจิ๊บคันโปรดและมาหยุดอยู่ตรงหน้ากันในชั่วอึดใจ            “กำลังจะไปไหน!” เสียงเข้มเอ่ยถามด้วยพร้อมๆ กับจ้องมองหญิงสาวอย่างคนจับผิด “ขวัญกำลังจะเข้าไปช่วยคนงานเก็บยอดใบชาในไร่ค่ะ คุณวีมีอะไรจะใช้ขวัญรึเปล่าคะ” มิ่งขวัญตอบกลับไปตามความจริงก่อนจะเงยหน้าสบสายตาดุดันคู่สวยที่เอาแต่จ้องมองกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก็ไม่ปาน สายตาที่มันจะถูกส่งมาให้เธอกับลูกสาวแค่เพียงสองคนเท่านั้น ในขณะที่กับคนอื่นเขากลับใช้สายตาอีกแบบให้ไปพร้อมกับคำพูดสุภาพและท่าทีอ่อนโยน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเธอกับลูกคงไม่มีวันได้สัมผัสตราบใดที่ในหัวใจของเขามันยังคงมีแต่ความเกลียดชังกันอยู่อย่างนี้เรื่อยไป  ความเกลียดชังที่เขาเป็นคนริเริ่มและเธอคือคนที่ต้องชดใช้!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD