บทที่ 2 ความจริง

1212 Words
         บทที่ 2 ความจริง             “ขวัญต้องขอโทษแทนลูกด้วยนะคะ น้องพลอยคะ รีบขอโทษคุณวีสิคะลูก” เธอเอ่ยขอโทษพร้อมก้มลงกำชับลูกสาวในอ้อมกอดอีกที ซึ่งเด็กหญิงพลอยลดาที่พร้อมที่จะทำตามคำบอกกล่าวของผู้เป็นแม่แต่โดยดีเพราะไม่อยากเป็นเด็กดื้อกลัวว่าพ่อจะไม่รักตน             “น้องพลอยขอโทษค่ะคุณพะ...คุณวี” เด็กสาวทำท่าจะเอ่ยเรียกคนใจร้ายตรงหน้าว่าพ่ออีกครั้งแต่พอได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของอีกฝ่ายที่กำลังมองมาก็ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยออกไปตามที่ใจต้องการ ทัดเทพเองก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรสองแม่ลูกออกไปอีกเลยนอกจากมองทั้งสองคนตรงหน้าด้วยหางตาก่อนจะหมุนตัวเดินจากออกไปไกลทิ้งไว้แต่เพียงมิ่งขวัญกับลูกสาวที่ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่เริ่มจะหายไปไกลสายตาเรื่อยๆ  จนเมื่อแน่แก่ใจแล้วว่าเขาเดินหายไปไกลพอสมควรหญิงสาวถึงได้ยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้กับตัวเองเบาๆ เพราะดันเผลอนึกไปถึงเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องมาอยู่ที่นี่เข้า เหตุผลที่ว่าทำไมเธอต้องมาฝืนทนอยู่กับคนใจร้ายที่ปฏิเสธได้อย่างง่ายดายว่าพลอยลดานั้นไม่ใช่ลูกของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวลืมตาดูโลก อีกทั้งใบหน้าของเด็กน้อยนั้นก็ละม้ายคล้ายคลึงกับเขาราวกับฝาแฝดจะมีก็แต่แววตาเศร้าๆ เท่านั้นที่คล้ายกันกับเธอที่เป็นแม่ผู้ให้กำเนิด             เรื่องทั้งหมดมันคงไม่ต้องมาลงเอยแบบนี้หากเพราะครอบครัวของเธอไม่ได้เคยได้รับความช่วยเหลือจาก คุณหญิงนวลแข คุณย่าของเขา จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนฝ่ายนั้นเรียกให้เธอเข้าไปพบพร้อมกับเอ่ยขอร้องบางเรื่องที่ต่อให้เธออยากจะปฏิเสธแค่ไหนแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดีออกมา               ‘ฉันกำลังตายมิ่งขวัญ...โรคที่ฉันเป็นอยู่มันจะทำให้ฉันอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่เกินสิบปีเท่านั้น และฉันคงจะตายตาไม่หลับหากยังไม่มีโอกาสได้เห็นหลานชายของฉันมีครอบครัว มีลูกที่น่ารักที่มันจะทำให้เขาเห็นคุณค่าของการมีชีวิตมากขึ้น เธอจะช่วยทำให้ความฝันสุดท้ายนี้ของฉันเป็นจริงจะได้รึเปล่ามิ่งขวัญ’             เพราะอย่างนั้น เธอถึงได้ยอมทำตามแผนการของคุณหญิงนวลแขที่สั่งให้คนวางยาทัดเทพก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปอยู่ในห้องนอนของเขาในค่ำคืนนั้น และแน่นอนว่าหลังจากคืนนั้นชีวิตของเธอก็ถึงจุดเปลี่ยนมาจนถึงทุกวันนี้ ชายหนุ่มทั้งเกลียดทั้งชังเธอเมื่อรู้ความจริงทุกอย่างที่เขาคิดเอาเองแทบจะทั้งหมด และเขาคงจะสั่งให้คนงานของตัวเองลากเธอออกไปให้พ้นสายตาเสียตั้งแต่วันนั้นแล้วหากไม่เกิดเอะใจขึ้นมาว่าตนเองไม่ได้ปกป้องในค่ำคืนเร้าร้อนที่ต่างมีให้กันและกันไปจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ ซึ่งตอนนั้นเวลามันก็เลยผ่านไปไกลเกินกว่าที่จะยาคุมฉุกเฉินจะใช้ได้ผล เขาจึงกักตัวเธอเอาไว้เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ได้ตั้งท้องขึ้นมาทั้งๆ ที่เพิ่งจะร่วมหลับนอนกันแค่คืนเดียว             แต่แล้วความหวังที่ว่านั้นของเขาก็ต้องดับสลายไปเมื่อเธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาจริงๆ ในหนึ่งเดือนหลังจากนั้น และนั่นเองทำให้เขาได้ทีเอาคืนผู้เป็นย่าแท้ๆ ของตัวเองด้วยการกักตัวของเธอเอาไว้จนเมื่อเธอคลอดพลอยลดาออกมาก็ป่าวประกาศไปทั่วไร่ว่าเด็กในท้องของเธอไม่ใช่ลูกตัวเองอย่างที่ทุกๆ คนเข้าใจมาโดยตลอด หนำซ้ำยังไล่ให้เธอกับลูกไปอยู่ที่กระท่อมหลังเล็กข้างๆ เรือนไม้สักของตัวเองทันทีที่ลูกสาวตัวน้อยลืมตาดูโลก เธอที่ต้องทำงานทุกๆ อย่างประหนึ่งกับคนงานในไร่เพื่อแลกกับข้าวและน้ำที่เขามอบให้เพื่อเอาบุญ และถึงแม้ว่าเธอจะเคยคิดที่จะหอบเอาลูกสาวหนีไปจากที่นี่สักกี่ครั้งก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะสำเร็จเพราะเขามักจะสั่งให้คนคอยเฝ้าจับตาดูเธอและลูกตลอดเวลาไม่ยอมให้การเคลื่อนไวของทั้งสองคนผ่านไปได้เลยสักวัน             นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดเธอกับลูก ชีวิตคู่...คือสิ่งที่เขาไม่เคยคิดจะมี  แต่แล้วเมื่อถูกผู้เป็นย่าบงการแม้กระทั่งเรื่องของชีวิตคู่เขาจึงเอาคืนด้วยวิธีการที่แสบสันไม่แพ้กัน “ทำไมคุณพ่อต้องเกลียดน้องพลอยด้วยล่ะคะคุณแม่” คำถามเบาๆ จากลูกสาวในอ้อมแขนที่ดังขึ้นระหว่างทางกลับบ้านหลังน้อยนั้นทำเอามิ่งขวัญชะงักค้างไปเมื่อได้ยินมันเข้า หญิงสาวจำต้องรีบหันกลับไปมองใบหน้าเรียวเล็กน่ารักที่เริ่มจะกลับมามีหยาดน้ำตาให้ได้เห็นอีกครั้งด้วยความรู้สึกสงสารและเห็นใจต่อลูกสาวที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลยแต่กลับต้องมาแบกรับเอาทุกๆ อย่างไปพร้อมกับตัดสินใจเอ่ยบอก..             “ไม่ค่ะลูก คุณพ่อเขาไม่ได้เกลียดน้องพลอยเลยนะคะ คุณพ่อเขาก็คงแค่เหนื่อยที่ต้องทำงานหนักมาทั้งวันเท่านั้นเองค่ะ ไม่เอานะคะคนดีของแม่ไม่ร้องไห้นะคะ แม่ว่าเราสองคนรีบกลับบ้านกันดีกว่า ป่านนี้เจ้ามะลิคงหิวข้าวแย่แล้ว” แม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังรู้สึกน้อยใจอยู่แต่พอได้ยินชื่อของสุนัขตัวโปรดก็ทำเอาเด็กหญิงพลอยลดายิ้มแย้มสดใสขึ้นมาจนเผลอลืมความทุกข์ที่เข้าใจเอาเองตามประสาเด็กว่าพ่อแท้ๆ นั้นไม่รักไปจนหมดสิ้น             “ก็ได้ค่ะ น้องพลอยคิดถึงมะลิเหมือนกัน” มิ่งขวัญได้แต่จ้องมองลูกสาวด้วยความรักใคร้และสงสารในคราเดียวกัน เธออยากจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ลูกได้เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่กล้า หนึ่งเลยเพราะอีกฝ่ายนั้นยังคงเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น และอีกอย่างที่เธอยังคงเป็นกังวลอยู่มาจนถึงทุกวันนี้เลยก็คือโรคร้ายของคุณหญิงนวลแขที่ยิ่งนับวันมันก็ยิ่งกำเริบหนักขึ้นเข้าไปทุกที เธอได้รู้อาการป่วยของท่านมาบ้างจากป้าสายหยุดหัวหน้าแม่บ้านหลังใหญ่ของทัดเทพ แต่ถึงแม้ทุกคนในบ้านนั้นจะรู้ แต่ก็คงจะรู้แค่เพียงว่าหญิงชรานั้นล้มป่วยตามวัยชรา ต่างจากเธอที่รู้ความจริงของอาการป่วยเหล่านั้นมากกว่าใครๆ แต่ก็บอกใครไม่ได้เพราะถูกเจ้าตัวขอร้องเอาไว้ และเมื่อมันคือคำขอร้องของผู้เป็นพระคุณต่อครอบครัว… มีหรือที่เธอจะกล้าปริปากบอกใคร!    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD