ตอนที่ 6 ชื่อตอน คืนที่มืดมิด 25+

1293 Words
ร่างบางถูกรุนราน ด้วยนิ้วมือแกร่งจนสุขสมไปหนึ่งครา ร่างหนาถอดถอนนิ้วเรียวยาวของตนออกจากร่างนาง แล้วยกขึ้นมาไล้เลียภายใต้แสงจันทร์ ร่างหนาขยับกายนางลงสู่พื้นดินช้าๆ ในท่านอนหงาย จุมพิตนางอย่างร้อนลวกตวัดปลายลิ้นพัวพันลงอย่างรุนแรง รุกไล่ปลายลิ้นนางจนนางหอบกระเส่า ครวญครางขึ้นมา ท่ามกลางลมหนาวมีกำแพงหนาบดบังไว้ มิให้ถูกคนทั้งสอง แม้อากาศจะเริ่มหนาว แต่คล้ายนางนั้นกำลังมอดไหม้อย่างร้อนระอุ มือหนาปลดสายรัดเอวของนางออก แล้วดึงรั้งชั้นในของนางออกจากตัว ริมฝีปากแดงชาดดูดดึงยอดอกนาง อย่างหื่นกระหาย ถูไถลำกายกับต้นขานางถี่กระชั้น ร่างทั้งสองสั่นไหวไปพร้อมกัน มู่เหมียนใช้ฝ่ามืออุดปากตนไว้แน่น มิให้ส่งเสียงร้องออกมา น้ำตาของนางคลอเบ้าทั้งซ่านเสียวทั้งสุขสม หัวใจเต้นกระหน่ำ บุรุษกายกำยำกำลังกลืนกินยอดอกของนาง ดั่งดื่มนมมารดาอย่างทารก มู่เหมียนใบหน้าแดงก่ำ กายสั่นกระตุกเป็นระยะ "อึก อ้า ซี้ดดด อร้า " ร่างแกร่ ถูไถเรียวขาของนาง จนทานทนมิไหว ขยับทาบทับนาง แล้วใช้ปลายหัวใหญ่โตของแก่นกายตน ถูลงบนกลีบเนื้อนางไปมา มู่เหมียนตกตะลึงกายแข็งค้าง นางทอดมองลงในกลางกายตน ลำกายของบุรุษเพศ กำลังถูไถไปมาบนบนกลีบเนื้อของตนอย่างรุนแรง "ซี้ด อ้า ข้าอยากทำลายเจ้านัก แต่ก็มิอาจทำได้ ซี้ด อร้า " บุรุษครวญครางและหยุดกระทำเช่นนั้นกับนาง ยามเมื่อบุรุษถึงฝั่งฝันน้ำแตกพร่า ร่างบางถูกรุกรานอีกครา ด้วยปลายลิ้นร้อนๆ นางยกมือขึ้นปิดปากของตนเองแน่น ดิ้นไปมาบนพื้นดิน "อ้า..." ลิ้นร้อนๆชอนไชลึกล้ำ เสียวซ่านจนแทบบ้า จวบจนนางทานทนมิไหวแล้วจึงสลบไป ร่างหนาปรายตามองนางแล้วขยับแต่งกายให้นางอย่างเร่งรีบ และโอบอุ้มนางลักลอบเข้าไปในจวนของนาง เปิดหน้าต่างแล้วก็วางนางบนหมอน อำพรางตนออกมาอย่างเงียบเชียบ ในยามเช้า มู่เหมียนคล้ายฝันเนิ่นนาน นางสะดุ้งลุกขึ้นมาในเตียงตน ยกมือทาบอกและเร่งรีบจะไปชำระกาย มิคาด เมื่อนางก้าวลงจากเตียง ข้อเท้าของนางปวดแปลบ มู่เหมียนตกตะลึงพรึงพรืด นางตาโตค้างแข็งอยู่เช่นนั้น อย่างเนิ่นนาน "คุณหนูเจ้าขา ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ " สาวใช้ของนางทำเสียงอ่อนเสียงหวานประจบประแจงนาง ร่างบางกวักมือเรียกให้สาวใช้มาประคบข้อเท้าตนอย่างว่องไว "อุ้ย..เบาๆซิ..ข้าเจ็บนะ" "ขอโทษเจ้าค่ะคุณหนู ให้อภัยบ่าวนะเจ้าคะ " สาวใช้ของนางเบามือลง และค่อยๆประคองคุณหนูของตนออกไปอาบน้ำ ยามนางถึงถังน้ำแล้ว จึงโบกมือให้สาวใช้ออกไปก่อน และค่อยๆหย่อนกายลงในถังน้ำช้าๆ มือน้อยๆเผลอลูบไล้ไปตามร่างบอบบางของตน ยามที่นางสัมผัสถูกยอดอกของตนเอง คล้ายมีกระแสพลังวิ่งพล่านไปทั่วกาย นางตื่นตกใจนัก รีบผุดลุกจากถังไม้ เร่งเรียกสาวใช้มาปรนนิบัตินางอย่างว่องไว สามเดือนผ่านไปในวังหลวง ส่งขันทีผู้หนึ่งนำสาส์นเรียกตัวนางเข้าวังหลวง นางขึ้นเกี้ยวเข้าวังอย่างยิ่งใหญ่ มีพิธีการมากมายนานัปการ นางผ่านการพิสูจน์พรหมจารีและขัดสีฉวีวรรณ ในขั้นแรกในวังหลวง ร่างกายของนางมิมีตำหนิอันใด ที่ผิดกฎของวังหลวง นางจึงผ่านเข้าฝ่ายในได้อย่างราบรื่นสุขสงบ นางถูกแต่งตั้งในตำแหน่งเจาอี๋ทันทีที่เข้าวังหลวง สตรีมากมายเข่นเคี่ยวเคี้ยวฟัน ยามนางได้ตำแหน่งข้ามหัวไป โดยมิได้ถวายงานเลยซักคราหนึ่ง แต่เพราะอำนาจ ของบิดานาง ผู้คนจึงมิอาจก้าวล่วง ปล่อยนางโดดเดี่ยวเดียวดายในวังหลวง มิแม้แต่จะเรียกนางไปเข้าเฝ้า คล้ายว่านางนั้นคือตัวประกันที่เลอค่า ห้องหอของนางตกแต่งอย่างวิจิตร ภายในล้วนมีแต่สิ่งของเลอค่า ประหลาดพิศดาร นางมีตำหนักใหญ่โตและมิมีอันใดอีก องค์จักรพรรดิผู้แต่งตั้งนางเข้ามา ก็มิเคยย่างกรายมาพบนางแม้แต่คราเดียว นางสงสัยเพียงนิดและมิใส่ใจอันใดอีก ตำหนักของนางอยู่ห่างจากผู้อื่นอยู่บ้าง และมิมีข้ารับใช้เท่าใดนัก ยามข้ารับใช้ของนางเผลอนางก็ลอบออกมาจากตำหนักตน "ช่างน่าเบื่อนัก ที่นี่มีอันใดเลิศล้ำ ผู้คนถึงอยากจะเข้ามากันนักหนานะ " นางเดินไปบ่นไปและค้นพบว่าตนเองกำลังหลงทาง นางคล้ายคุ้นตาอยู่บ้าง กับทิวไม้แปลกตานี้ เหมือนนางเคยฝันถึงมันในคราหนึ่ง นางมิใคร่หวาดกลัวอันใด เพราะตำหนักในมิมีผู้ใดเป็นบุรุษ มีเพียงขันทีตุ้งติ้งที่จะคอยดุนาง ยามนางก้าวออกมานอกเขตของตนเองก็เพียงนั้น ร่างบางเดินไปเรื่อยๆในทิวไม้รกทึบทึม นางเดินเข้าไปไกลจนคล้ายวนในเขาวงกต จนพบประตูไม้สูงใหญ่ที่กางกั้นผู้คนไว้จากภายนอก นางลอบเดินเข้าไป ในประตูที่แง้มไว้ช้าๆ จวบจนสิ้นสุดทางเดินนางก็พบกับตำหนักสีดำสนิทอยู่ด้านใน นางตกตะลึงขึ้นมา คล้ายจำได้ลางๆว่านางเคยผ่านมาแล้วใช่หรือไม่ เหตุใดความทรงจำของนางถึงขาดหายไป ร่างบางกำลังสอดสายตา มองไปรอบๆตำหนักดำ นางขยับตัวเบาๆ เดินเร้นกายเข้าข้างเงามืดของตำหนัก "พรึ่บ...อุ้ย.." มือแกร่งคู่หนึ่งกระชากนาง ปลิวไปติดผนังตำหนักดำ และคล่อมกายกักขังนางไว้ในอ้อมแขน "เจ้าเป็นใคร?? " บุรุษผมยาวสยายสีดำสนิทใบหน้าคมคายผู้หนึ่ง ถามนางที่ข้างหูเบาๆ มู่เหมียนตกตะลึงน้อยๆกายสั่นไหวขึ้นมา "ข ข้า ข้าเป็นนางกำนัลเพิ่งมาใหม่เจ้าคะ ข..ข้าหลงทางมา" นางตอบแบบข้างๆคูๆ ดวงตาคมปรายตามองนางแล้ว กดกายนางติดแน่นผนังเรือน จนมิมีอากาศหายใจ "เจ้ามิรู้เหรอว่าที่นี่คือที่หวงห้าม มิให้ผู้ใดเข้ามาได้ " "ข...ข้าเพิ่งเข้ามาใหม่เจ้าค่ะ ปล่อยข้าน้อยไปนะเจ้าคะ จะมิมาที่แห่งนี้อีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ " "หึ...ข้าหรือจะเชื่อเจ้าได้...เจ้ามาสอดแนมใช่หรือไม่!! " "มิใช่เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นนางกำนัล มิใช่ผู้สอดแนมเจ้าค่ะ จริงๆนะเจ้าคะ" ร่างบางแถไปเรื่อยๆพยายามหาทางหนีทีไล่ จะวิ่งหนีไป แต่มิคาดร่างหนารวบมือนางทั้งสองข้างขึ้นด้วยมือข้างเดียว และดันร่างกายตนแนบชิด แทรกเข่าของตน ลงตรงกลางระหว่างเรียวขานุ่มๆของนางแน่น นางสั่นไปทั้งกายและเอ่ยอ้อนวอนขอความเมตตาอย่างว่องไว "ปล่อยข้านะเจ้าคะ อย่าลงโทษข้าเลยนะเจ้าคะ " "หึ...มิมีทาง!!!! " มือหนาขยำลงที่ทรวงอกนางแรงๆ และกล่าวรอดไรฟันออกมาเบาๆ "อย่าได้คิดส่งเสียง หากยังอยากที่จะมีชีวิต ออกไปจากที่นี่ " ร่างบางพยักหน้าทันที และหลับตาลงมิมองสิ่งใดอีก มือหนาล้วงตะปบลงบนผ้าบางเบา อย่างสตรีฝ่ายในของนางอย่างย่ามใจ ฝ่ามือร้อนๆ ลูบไล้ไปบนยอดอกของนาง ความรู้สึกร้อนรุ่นพลันตื่นขึ้นในตัวนาง ในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD