หลังจากที่สามชั่วโมงเรียนในช่วงเช้าจบลง มีนาก็ไปนั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนสนิทที่โรงอาหารใกล้ๆ คณะ ก่อนที่จะเดินทางกลับมาโรงแรมของคุณทิมอีกครั้งในช่วงบ่ายโมง
พอกลับมาแล้วก็พบว่าเขาออกไปข้างนอก ไม่มีแม้กระทั่งบอร์ดี้การ์ดเฝ้าด้านหน้า เห็นแบบนั้นเธอจึงใช้ระยะเวลาที่ได้อยู่ตามลำพังแบบจริงๆ ไม่มีคนเฝ้าในรอบมาดูแลตัวเอง ทั้งมาสก์หน้า ทั้งขัดผิว ทั้งพอกตัวพอมือพอกเท้าเสียใหม่
เขาจะพาออกไปปาร์ตี้ในคืนนี้
และไอ้ปาร์ตี้ที่ว่าก็บอกมาชัดๆ แล้วว่าเธอต้องเจอเพื่อนของเขา มีนารู้ว่าคุณทิโมธีต้องการพาเธอออกไปโชว์เพื่อนอย่างแน่นอน แม้เขาจะไม่ได้พูดในเชิงนั้นเลยแต่เธอค่อนข้างมั่นใจ
เพราะผ่านประสบการณ์การมีคนเลี้ยงมาบ้างแล้วจึงรู้ว่าผู้ชายเหล่านี้เหมือนกันหนึ่งอย่าง ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนผู้ชายก็จะใช้ผู้หญิงข้างกายเป็นเหมือนเครื่องประดับบารมี
เป็นเครื่องแสดงฐานะ แสดงว่าตัวเองเจ๋งแค่ไหน
แต่เรื่องนั้นเธอไม่ติดใจหรอก เพราะรู้ดีว่าไม่ว่าผู้ชายระดับไหนก็เป็นเหมือนกัน จะยากดีมีจนพวกเขาก็มีผู้หญิงเอาไว้ข้างกายเพื่อโชว์ทั้งนั้น ต่อให้เป็นความสัมพันธ์แบบแฟนที่ไม่ได้มีเงินมาเป็นที่ตั้ง ผู้ชายก็อยากมีแฟนสวยไว้โชว์เพื่อน
แม้เรื่องนั้นจะฟังแล้วแสลงใจอยู่พอสมควรแต่มีนาก็ยอมรับว่ามันคือความจริงของโลก ธรรมชาติมันเป็นแบบนั้นมันก็เป็นไปอย่างนั้น อยากเปลี่ยนให้ตายก็คงเปลี่ยนไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือหนี
และการจะหลีกหนีจากเรื่องพวกนี้เธอต้องมีเงินเป็นของตัวเอง ซึ่งมันยังไม่ใช่ตอนนี้
“ป่านนี้คุณทิมหิวแล้วมั้ง” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะที่สวมถุงมาสก์ที่เท้าทั้งสองข้าง เธอจัดการสวมมันจนเสร็จก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักไปในโปรแกรมแชทของเขา
มีนา : พี่ทิม ทานข้าวเย็นแล้วหรือยังคะ ให้หนูสั่งเอาไว้ให้ไหม
เธอพิมพ์ถามเขาไปเป็นภาษาอังกฤษเพราะคุณทิโมธีพูดไทยปร๋อแถมชัดมากก็จริง ทว่าเขาอ่านภาษาไทยไม่ออก ที่ผ่านมาหากเป็นการเขียนเธอก็พิมพ์ภาษาอังกฤษมาตลอด เพราะเหตุนี้เขาจึงได้ชมว่าเธอเก่ง
พิมพ์ส่งไปเสร็จเรียบร้อยเธอก็วางโทรศัพท์ลงข้างตัว หญิงสาวในชุดเดรสสายเดี่ยวลายดอกไม้ยกขาขึ้นไขว่ห้าง ก่อนจะหยิบรีโมทมากดเปิดทีวีจอยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าโซฟา
รออยู่ราวๆ สองนาทีเขาก็พิมพ์ตอบกลับมา
ทิโมธี : เดี๋ยวไปทานข้างนอกกันครับ พี่ใกล้จะกลับแล้ว คุณมีนแต่งตัวรอเลยนะครับ
และเมื่อเขาบอกว่าไปกินข้างนอกมีนาจึงไม่ได้เซ้าซี้ต่ออะไร เธอทำเพียงตอบกลับไปว่ารับรู้แล้วจากนั้นก็หันไปสนใจหนังที่เล่นอยู่ในจอทีวีอีกครั้ง
เธอนั่งดูหนังที่เดิมอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งครบเวลาจึงถอดถุงมาสก์ออก แล้วล้างเท้าด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำจากนั้นก็ซับจนแห้ง เมื่อตรงนี้เสร็จเรียบร้อยเด็กสาวจึงเดินกลับเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำ
คุณทิมบอกว่าใกล้จะกลับและให้เธอแต่งตัวรอ มันหมายความว่าเธอควรจะพร้อมตอนที่เขามาถึง หรืออย่างน้อยไม่ได้พร้อมออกขนาดนั้นก็ควรจะแต่งหน้าเสร็จแล้ว
และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆเพราะเสียงแตะบัตรด้านหน้าห้องดังขึ้น ตามด้วยเสียงสั่งบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหน้าในตอนที่เธอแต่งหน้าสร็จเรียบร้อยพอดี
“คุณทิม…” มีนาพึงพำในลำคอก่อนจะเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปรับคุณทิโมธีซึ่งเพิ่งกลับมาดังเช่นที่ทำอยู่ทุกวัน ทว่าพอเดินออกไปแล้ว ยังไม่ทันได้ทักทายกันเป็นเรื่องเป็นราว พอเขาเห็นว่าเธออยู่ในชุดแบบไหนก็พลันพุ่งเข้ามาหา
“คุณมีน จะไปชุดนี้เหรอครับ”
“หืม?เปล่านี่คะ หนูเพิ่งอาบน้ำเสร็จ อ๊ะ!” พูดยังไม่จบมีนาก็ต้องอุทานด้วยความตกใจเพราะจู่ๆ คุณเขาก็ช้อนตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วพาตรงดิ่งเข้ามาในห้อง เล่นเอาสับสนจับต้นชนปลายไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“พี่ตกใจหมด นึกว่าจะใส่ชุดนี้ไป” เขาว่าพางวางเธอลงบนเตียงแล้วคลานมาคร่อมทับ ด้านหญิงสาวนั้นยกแขนขึ้นคล้องลำคอเขาเอาไว้
ชุดนี้ที่ว่าคือชุดเดรสลายดอกไม้ผ้านิ่มที่เธอใส่เวลาอยู่ที่ห้อง มันไม่ใช่ชุดเข้ารูปนักทว่าเนื้อผ้าก็ทิ้งตัวแนบไปกับทรวดทรง แถมสั้นจุ๊ดจู๋จนก้นเกือบจะโผล่
มันก็ไม่น่าแปลกหรอกที่เขาจะตกใจ แต่มันแปลกที่เขาดูจะตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่เห็นเธอใส่ชุดตาข่ายเมื่อคืนก่อนนั่นแหละไม่ยักรู้ว่าเขาชอบชุดลายดอกไม้น่ารักๆ แบบนี้มากกว่า
“จะใส่ไปได้ยังไงละคะ มันโป๊ขนาดนี้” มีนาแสร้งพูด
ปกติเธอก็ไม่ได้แต่งตัวเรียบร้อยอะไรอยู่แล้ว ชุดทำงานออกเที่ยวกับผู้ชายมีแต่เกาะอกสายเดี่ยวกระโปรงสั้น หากกระโปรงไม่สั้นก็แหวกลึกแทบเห็นกีกี้ทั้งนั้น จะมากังวลอะไรกับชุดที่มีระบายน่ารักแบบนี้
“ใส่ให้พี่ดูคนเดียวก็พอครับ ว่าแต่แต่งหน้าเสร็จแล้วเหรอ สวยจัง” คุณทิโมธีว่าพลางซุกไซร้ซอกคอสีน้ำผึ้ง ปากหยักกดจูบลงไปบนผิวเนื้ออ่อนนุ่มนำพาความสยิวมาให้หญิงสาวได้อย่างมากล้น
คล้ายกับเขารู้ว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนของมีนา ตรงไหนจะทำให้เธอต้องการจนร้องขอสัมผัสจากเขา
“อื้อออ พี่ทิมคะ หนูแต่งหน้าเสร็จแล้วนะ” แต่เธอลงทุนแต่งหน้าเสียสวยเช้งเพื่อให้เขาไม่น้อยหน้าใครขนาดนี้ ถ้าจะมาเอากันก่อนมันจะเยิ้มเอาได้น่ะสิ แบบนั้นไม่ดีแน่
“คุณมีนอยู่เฉยๆ เลย เดี๋ยวพี่ทำเอง” ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เขาทำหรือเธอทำไหม ลองได้ทำมีหรือที่เมคอัพของเธอมันจะยังสวยเหมือนเดิม มีเซ็กซ์กันแต่ละรอบพลิกหน้าพลิกหลังขนาดนั้น
“แต่มันจะเลอะนะคะ”
“ทำแป๊บเดียวครับพี่สัญญา นะครับ เห็นหนูใส่ชุดนี้แล้วมันทนไม่ไหวจริงๆ”
“...”
เอาล่ะเธอจะจดเอาไว้ในใจแล้วกันว่าคุณทิมแพ้ชุดลายดอกติดระบายมากขนาดนี้ มากยิ่งกว่าพวกชุดนอนไม่ได้นอน กับตาข่ายถุงน่องเสียอีก
พอตามใจเขาไปแล้วไอ้ที่ว่าจะออกไปทานอาหารข้างนอกก็เป็นหมัน คุณทิมบอกเธอว่าเขานัดเพื่อนเอาไว้ช่วงสี่ทุ่ม ดังนั้นพอมีอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงออกไปสั่งรูมเซอร์วิสของโรงแรมดังเช่นทุกวัน
ส่วนมีนาที่จำไม่ได้ว่าโดนเขย่าจนหัวหูยุ่งเหยิงไปกี่ครั้งก็รีบเข้าไปอาบน้ำใหม่ แล้วกลับออกมาจัดการแต่หน้าทำผมให้สวยเหมือนเดิม เธอยังไม่เปลี่ยนชุดแต่เตรียมเอาไว้ในห้องนอนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย
กว่าจะได้ออกมาจากห้องอีกครั้งก็เป็นตอนเวลาหนึ่งทุ่ม หญิงสาวรู้สึกล้าพอสมควรแต่เธอก็ยังไม่แสดงออกมา เพราะรู้ว่าคืนนี้ตัวเองมีภารกิจที่ต้องทำ
มีนาออกมากับคุณเขาในชุดเดรสเซ็กซี่สายเดี่ยวผ้ามันสีแดงสด ตัวเดรสไม่สั้นมากกว่าแหวกขึ้นสูงกระนั้นก็ยังคงความคลาสซีเอาไว้แบบที่มั่นใจว่าจะดูเหมาะสมยามที่เราเดินไปด้วยกัน
คุณทิมชอบมากทีเดียวที่เธอดูจะรู้กาละเทศะแบบนั้น