แม้เธอไม่กลัวโดนฟ้อง แต่ก็ไม่อยากเสียมารยาทกับแขกเจ้านายจนเกินไป จึงพยายามอ่อนลง “ยินดีให้ฟ้อง แต่ขอให้คุณช่วยแนะนำตัวแล้วบอกรายละเอียดด้วยนะคะ ว่ามีการนัดไว้หรือเปล่า ขืนดิฉันปล่อยให้คุณเข้าไป ถือว่าดิฉันทำผิดต่อหน้าที่ ขอร้องล่ะช่วยแนะนำตัวก่อนนะคะ”
เมื่อเห็นว่าไม่น่าจะมีประโยชน์หากขืนดึงดันต่อไป “โอเค ได้...” สองมือเรียวยกขึ้นเหนือบ่า แสดงให้เห็นว่าหล่อนก็ยอมเช่นกัน “ดิฉันชื่อนางสาว เบญจา คำชัย อายุ 24 เป็น... แฟนคุณอณาธิป ไม่ได้นัดไว้แต่จะมาเซอร์ไพรส์ โอเคนะ” เธอเอ่ยอย่างไม่ขัดเขิน นัยน์ตากลมแป๋วฉายชัดในสิ่งที่เอ่ยออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ
ถึงแม้ว่าอณาธิปไม่เคยบอกใครๆ ว่าเป็นแฟนกัน แต่เธอก็หวังว่าอีกไม่ช้าชายหนุ่มต้องยกตำแหน่งนี้ให้เธอแน่นอน...
“เหรอคะ” คนทำตามหน้าที่ ถามกลับสีหน้าไม่มั่นใจนัก เพราะเพิ่งได้ทำงานร่วมกับเจ้านายคนใหม่ เธอจึงไม่มั่นใจเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายมากนัก
“ค่ะ คุณไม่ต้องกลัว หากเกิดอะไรขึ้นเบญจะรับผิดชอบเอง” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยอย่างมั่นใจอย่างผู้หญิงก๋ากั่น
“เอ่อ...จะดีหรอคะ ขอโทรเรียนท่านเล็กน้อยไม่ได้หรือคะ”
“อุ๊ย! หากเป็นแบบนั้น ก็ไม่เรียกว่าเซอร์ไพรส์สิคะ...” น้ำเสียงแผ่วเบาส่งสายตาออดอ้อนขอความเห็นใจ เผื่อผู้หญิงด้วยกันจะเข้าใจความรู้สึกผู้หญิงด้วยกัน
ใบหน้าตกแต่งไว้อย่างดีตีหน้าเศร้า ริมฝีปากยู่ คิ้วขมวด สีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ อย่างจำยอมให้สาวสวยทำตามใจต้องการ
“ขอบคุณนะคะ” ว่าแล้วเธอก็ยิ้มร่า แทรกกายเข้าไปในห้องทันที โดยมีสายตาละห้อยของเลขาสาวมองตามใจตุ้มๆต่อมๆ
“ใครอ่ะพี่เจน สวยเชียว” ใบหน้าอวบๆ โผล่ขึ้นถามอย่างอยากรู้
คนถูกถามค้อนขวับถลึงตาใส่ “ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ย ไปๆ ทำงาน”
ประตูถูกเปิดออกโดยไม่ให้สัญญาณใด หากแต่เจ้าของห้องยังก้มหน้ามองงานบนโต๊ะ ก่อนจะแหงนหน้ามองเมื่อความเงียบยังไม่ถูกทำลายโดยคนเข้ามาใหม่
“เซอร์ไพรส์!!”
เสียงหวานแหลมโพล่งออกมา ใบหน้าตาคมเข้มตะลึงงัน ก่อนจะหรี่แคบและปรับสีหน้าเรียบเฉยเมื่อนึกได้
“เบญจา... มาได้ไง” ไม่อยากเชื่อว่าแม่สาวที่พยายามตามเขาแจจะหาที่ทำงานใหม่เจอ
“มาได้สิคะ” ร่างสมส่วนในชุดเข้ารูปเน้นสัดส่วนนวยนาดเข้ามาใกล้
“นะ นั่งก่อนสิ” คนยังงงอยู่เอ่ยบอก เมื่อเห็นสายตากรุ้มกริ่มไม่น่าไว้ใจนัก
เจ้าของสายตาเย้ายวนชวนให้ไฟในกายของคนถูกมองลุกเป็นไฟ รู้สึกขัดใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ดูพี่ธิปไม่ดีใจเลยนะคะที่เจอเบญ” สายตาออดอ้อนค้อนน้อยๆ ก่อนจะเหลือบมองเก้าอี้ที่ชายหนุ่มแบมือเชิญให้นั่ง
เธออยากนั่งบนตักเขาเหมือนที่เคยทำมากกว่าเก้าอี้…
“เปล่า แต่ช่วงนี้พี่งานยุ่ง แล้วตกลงมาได้ไง” เขาเอ่ยถามในสิ่งที่ตนเองยังสงสัย
ร่างสมส่วนขยับก้าวหากแต่ไม่สนใจเก้าอี้ว่าง มุ่งตรงไปยังเก้าอี้ที่มีเจ้าของ พร้อมกับหย่อนก้นงอนงามนั่งทับบนขาแกร่งที่เจ้าตัวไม่ทันระวัง หากแต่ไม่คิดผละออก นั่นเพราะเขารักษาหน้าของหญิงสาวเอาไว้
สองแขนเรียวโอบรอบคอแกร่ง ก้มลงกระซิบริมหูขาวสะอาด สายตาหวานหยด
“คนดังอย่างพี่ ไม่ใช่แค่เบญที่รู้ว่าพี่กำลังทำอะไร แม้แต่แม่ค้า หากเขาอยากรู้เขาก็ต้องหาข้อมูล เดี๋ยวนี้โลกของเรามีข้อมูลเชิงลึก หากต้องการแค่เข้าโซเชียลเน็ตเวิร์ค คุณจะรู้ทุกอย่างได้ไม่ยาก พี่ว่าจริงมั้ย”
ร่างหนาเอียงตามอง ขณะที่อีกฝ่ายจงใจบดเบียดกายนุ่มนิ่มมากยิ่งขึ้น หากแต่ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจมากนัก สิ่งที่น่าสนใจคือคำบอกเล่าอย่างเห็นด้วย เพราะตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าโลกสังคมออนไลน์ จะดีจริงหรือจะพาเรื่องหนักใจมาให้เขากันแน่...
“ทานอะไรมาหรือยัง พี่ว่าเราออกไปหาอะไรทานกันดีกว่ามั้ย” จากที่คิดดูงานต่ออีกหน่อย เปลี่ยนเป็นหาอย่างอื่นเพื่อเอาตัวออกจากเหตุการณ์ตรงนี้
“...”
“ไปเถอะพี่หิวนี่ก็บ่ายกว่าแล้ว” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ขยับจึงย้ำอีกครั้ง
“ก็ได้” แม้จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่ความอยากเอาชนะ จมูกงอนก็กดลงที่แก้มสากอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงดังฟอด สูดเอากลิ่นกายของบุรุษจนเต็มปอด
“หืออ...”
อณาธิปชะงักค้าง ทว่าอีกฝ่ายยิ้มร่าไม่สนใจ ส่วนเขาจะต่อว่าออกไปก็ตะขิดตะขวงใจ เพราะเขากับหล่อนก็เคยมีอะไรมากกว่านั้น หากแต่วันนี้กลับรู้สึกแปลกๆ คิดว่าการกระทำเมื่อกี๊มันรุ่มร่ามไม่สมควรแสดงออกมา ทั้งที่เขาเองเพิ่งแสดงไปกับผู้หญิงอีกคนไปหมาดๆ
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดพอเหมาะตกแต่งไว้อย่างลงตัว เรียกรอยยิ้มเจ้าของห้องคนใหม่ ที่ถูกยกให้ชั่วคราวเป็นอย่างดี
“จัดห้องได้น่าอยู่ สงสัยงานนี้ได้อยู่ยาว” สำเนียงที่เปรยออกมา เรียกรอยยิ้มให้เลขาสาวที่ยังยืนอยู่ในห้องได้เป็นอย่างดี โดยที่เธอไม่แปลกใจกับสำเนียงไทยชัดเจนนั้น
“แล้วนี่จะให้ผมทำอะไรดี”
“อ้อ มีค่ะ ก่อนอื่น ดิฉันต้องแนะนำตัวก่อน ดิฉัน พวงแสด ศิริรัตน์ ผู้ช่วยส่วนตัวของคุณโจเซฟนะคะ” ร่างสมส่วนก้มศีรษะ เป็นมารยาทต่อคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าแล้วเอ่ยต่อ
“ดิฉันจะไปเอาเอกสารมาให้คุณโจเซฟตรวจดู แล้วเอาไปยื่นให้ท่านประธานอีกครั้งค่ะ”
โจเซฟพยักหน้ารับทราบ เขาเข้าใจว่าโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ ทุนก่อสร้างสูงเอาการและมีหลายหน่วยงาน การดำเนินตามขั้นตอนจึงเป็นไปด้วยความรอบคอบ
เมื่อผู้ช่วยส่วนตัวเดินออกไปแล้วโจเซฟจึงล้วงเครื่องมือสื่อสารออกมา เพื่อโทรหาณริสาคนที่ตนเองแอบรัก รอสายไม่ถึงห้าวินาทีก็มีเสียงตอบรับกลับมา ริมฝีปากหนาแย้มขึ้นและทักทายออกไป
“ว่าไงสา ผมรอคุณโทรหาอยู่นะ” น้ำเสียงตัดพ้อกรอกออกไปทันที
“เอ่อ...พอดีกำลังยุ่งอยู่...” ณริสาไม่ได้ปด หากแต่เธอยุ่งจริงๆ ยุ่งกับเรื่องบริษัทว่าจะทำไงให้อยู่รอด “โจเป็นไงบ้างคะ” เธอถามด้วยความห่วงใย รู้มาบ้างเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวใหม่ของพ่อเขา
“ไม่เป็นไร... กำลังไปได้สวย” โจเซฟเข้าใจความหมายนั้นดี และเขาเองก็แปลกใจที่ครั้งนี้กลับมาไม่เจอหน้าน้องชายคนละแม่ และทำให้เขาสะดวกใจมากขึ้น ในการพูดคุยกับคนเป็นพ่อ
“งั้นก็ดีแล้วค่ะ ยังไงสาจะโทรหาอีกครั้งนะคะ” ณริสารีบบอก ก่อนจะตัดสายไวๆ เมื่อเหลือบมองทางด้านหลัง รู้สึกได้ว่ามีรถราคาแพงขับตามหลังเธอและบีบแตรซ้ำๆ พร้อมเพิ่มน้ำหนักกดแตรแรงขึ้น อย่างไม่มีมารยาท