เพื่อนพี่ชาย 03 เหตุผล

1550 Words
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เวลา 15.45 น. เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดัง ฉันลุกจากเตียงเดินไปเปิดพร้อมใบหน้าบึ้งตึง รู้อยู่แล้วว่าใครมาเคาะประตู ร่างอันคุ้นเคยเดินเข้ามาในห้องโดยไม่พูดอะไรสักคำ จะโกรธฉันงั้นเหรอ ฉันไหมที่ควรโกรธเขา ตัดสินใจอะไรไม่ถามฉันสักคำ “พี่รู้ว่าดื้อไม่ได้เป็นแฟนกับไอ้เอิ๊ก เพราะชาตินี้ไอ้เอิ๊กมันไม่มีทางเป็นแฟนกับใคร และถ้ามันมีสติมันก็จะไม่เอาดื้อเด็ดขาด” พี่เบนซ์พูดเมื่อเขาหย่อนก้นลงนั่งที่เตียงลายอนิเมะยอดฮิตเรื่องหนึ่งที่ฉันชื่นชอบที่สุดในเวลานี้ ฉันเพิ่งเปลี่ยนเป็นลายนี้หลังจากที่รื้อผืนเก่าทิ้งไป “แล้วไงคะ พี่รู้แล้วยังไง ทำไมยังให้น้องไปยุ่งกับเขา ทำไมต้องให้เราแต่งงานกัน ใช่ว่าพี่เบนซ์ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิง ถ้าเจอเหตุการณ์แบบเบลสักสิบคนพี่เบนซ์ไม่รับผิดชอบด้วยการแต่งงานทุกคนเลยเหรอ ทำไมพี่เบนซ์ต้องบังคับพี่เอิ๊กแบบนั้น มันคือความผิดพลาดนะพี่เบนซ์ เขาเมาเบลก็เมาจนลืมล็อคห้อง เบลผิดเองที่แอบไปกินเหล้า” ฉันงอน โกรธ โมโหพี่ชาย อับอายมากด้วย ภายนอกมองมามันเหมือนฉันอยากได้พี่เอิ๊กจนถึงขั้นวางแผนล่อลวงพี่เอิ๊กให้ตกเป็นของฉันในบ้านของฉัน คนไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องมองฉันแบบนั้นแน่ “เพราะงานวันนี้คนรู้เยอะไงดื้อ แล้วพี่จะให้น้องเสียหายได้ไง พี่รับปากพ่อกับแม่ไว้แล้วว่าจะดูแลน้องให้ดี ปิดปากเพื่อนพี่อะได้ แต่ที่สำคัญคนที่รู้ก็น้ากลอย ดื้อก็รู้ว่าถ้าพี่เฉยทุกอย่างจะแย่ ถ้าน้ากลอยไม่มาเห็นอาจจะเงียบได้” พี่เบนซ์ดึงฉันไปนั่งข้างกาย ถึงจะมีเหตุผลแค่ไหน ฉันก็ไม่อยากเข้าใจอยู่ดี “ถึงจะพูดอย่างนั้นเบลก็ไม่อยากเข้าใจอยู่ดี ทำไมเบลต้องแต่งกับพี่เอิ๊ก” นี่ไงข้อนี้ไงที่ฉันไม่เข้าใจ แค่แกล้งบอกว่าคบกันไม่ได้เหรอ คนเป็นแฟนได้กันมันไม่ได้แปลกสักหน่อย บอกว่าคบกัน สักพักก็เลิกกัน ทำไมต้องไปถึงการแต่งงานด้วย “เพราะมันทำน้องพี่แล้วไง มันแตะต้องน้องสาวของพี่มันก็ต้องรับผิดชอบ” “ก็แกล้งบอกว่าคบกันก็ได้ นานไปก็เลิกกัน” “ถ้าพี่ทำแบบนั้น เพื่อนคนอื่น ๆ ก็อาจจะเห็นน้องสาวของพี่เป็นของเล่นข้างทาง คนไหนอยากเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ต่อให้ดื้อจะเป็นเด็กดื้อในสายตาพี่ แต่ดื้อไม่มีทางทันคนแบบเพื่อนพี่ ที่ดื้อเห็นมันพูดดีกับดื้อก็เพราะดื้อเป็นน้องพี่ แต่ว่าถ้าตัดข้อที่ดื้อเป็นน้องสาวคนเดียวของพี่ออกไปพวกมันคงกลายเป็นอีกแบบนึง แบบที่ดื้อไม่เคยเห็นและก็ไม่ต้องการจะเห็น” พอพูดมาแบบนี้ ฉันจะเถียงอะไร สิ่งที่พี่ชายอธิบายทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์บนเตียงอันดุเดือดระหว่างฉันกับพี่เอิ๊ก คราวนี้จึงวกกลับมาถามว่าเหตุผลอะไรที่ฉันไม่ต้องแต่งงานกับพี่เอิ๊ก ในเมื่อเรามีอะไรกันแล้วจริง ๆ แม่เลี้ยงก็เห็นแล้วจริง ๆ “เบลเพิ่งจะ 20 นะพี่เบนซ์ เบลยังไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเลย” “ก็ยังไม่ได้แต่งไง หมั้นไว้ก่อน” “พี่เบนซ์ทำไมไม่เข้าใจเบลเลย เบลยังมีโอกาสเจอคนอีกตั้งเยอะ เบลไม่อยากใช้ชีวิตกับคนที่จมปลักอยู่กับอดีตอย่างพี่เอิ๊ก เบล...” “แล้วทำไมน้องไม่คิดบ้างว่าที่เพื่อนพี่เป็นแบบนั้นเพราะมันเป็นคนรักมั่นคง แล้วถ้าน้องทำให้มันรักได้ น้องจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด” “พี่เบนซ์! ถึงเบลจะเป็นแบบนี้ แต่เบลไม่ได้หัวอ่อนขนาดนั้น ถ้าพี่เอิ๊กอยากเริ่มต้นใหม่จริง ๆ มันไม่จำเป็นต้องเป็นเบลเลย มีผู้หญิงอีกตั้งเยอะที่อยากได้เขา” ขมวดมุ่นคิ้วใส่พี่ชาย เห็นฉันแบบนี้แต่ฉันไม่ได้โง่ขนาดจะมองไม่ออกไหม ทำอย่างกับว่าฉันไม่รู้จักพี่เอิ๊กมาก่อน “ที่ผ่านมาพี่อยากให้ไอ้เอิ๊กมันเลิกจมปลักสักที มาเจอเรื่องนี้เข้าก็ถือว่าเป็นโอกาสดี น้ากลอยเห็นเหตุการณ์ขนาดนั้นยังไงซะดื้อกับมันก็ต้องแต่งงานกัน พี่อยากให้ดื้อช่วยไอ้เอิ๊ก ช่วยดึงมันมาอยู่กับปัจจุบันที มันจมปลักมาหลายปีแล้ว พี่เชื่อว่าน้องสาวที่น่ารักของพี่ต้องทำให้ไอ้เอิ๊กสนใจได้แน่” “เบลไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับพี่เอิ๊ก เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เบลขยะแขยงด้วยซ้ำ และที่สำคัญนะพี่เบนซ์ถ้าพี่เอิ๊กเขาไม่คิดปล่อยวางก็ไม่มีใครช่วยเขาได้ค่ะ พี่เบนซ์คะเบลไม่แต่งกับเขาได้ไหม” “ไม่แต่งได้ไง มันทำเบลเสียหาย” “พี่เบนซ์ไม่เข้าใจเบลเลย เรื่องนี้เบลไม่ผิด ถ้าจะถามหาคนผิดคนนั้นต้องเป็นพี่ไหมอะ พี่พาเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ที่บ้าน ทำให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น น้องสาวพี่เสียตัวเพราะพี่นั่นแหละ” “...” “ออกไปเลย ออกไป เบลไม่อยากคุยกับพี่เบนซ์แล้ว เบลโกรธพี่” “พี่ก็กำลังปกป้องศักดิ์ศรีให้ดื้อนี่ไง” “ออกไป เบลไม่คุยแล้ว ไม่อยากคุยแล้ว อยากจะสั่งให้เบลทำอะไรก็สั่งมาเลย เบลไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว นอกจากพี่เบลก็ไม่มีที่พึ่งอยู่แล้วนี่” พูดทั้งน้ำตาที่ไหลริน เคยไหม อึดอัดจนร้องไห้ เพราะว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยอม และยอม ไล่พี่เบนซ์ออกไปจากห้องสำเร็จ จากนั้นสิ่งที่ฉันทำก็คือเรื่องง่าย ๆ ที่มันง่ายมาก ๆ เลยล่ะ ร้องไห้ไง เพราะนอกจากร้องไห้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว แอบชอบน้องชาย แต่เสียตัวให้คนเป็นพี่ชาย ใครบ้างไม่เสียใจ ครืด ครืด ครืด… เสียงโทรศัพท์ที่แผดร้องทำให้ฉันงัวเงียขึ้นมารับสายแบบงง ๆ นี่เผลอหลับไปได้แค่แป๊บเดียวเอง ปวดหัว และปวดหัวมากกว่าเดิมเมื่อเพ่งเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วเห็นว่าเป็นใคร ‘พี่เอ้’ “ฮัลโหลค่ะ” (พี่ผ่านมาบ้านหนู หนูอยู่บ้านไหมพี่ซื้อขนมมาฝาก) “อยู่ค่ะ แต่หนูเพิ่งตื่นค่ะพี่เอ้” (เดี๋ยวพี่รอ) “หนูไม่ค่อยสบาย เอาไว้วันหลังนะคะ” ฉันไม่กล้าไปเจอพี่เอ้ในสภาพนี้หรอก ฉันเพิ่งจูบ เพิ่งมีอะไรกับพี่ชายของเขานะ จะเอาหน้าที่ไหนไปหาเขา ต่อให้เขาไม่คิดอะไรกับฉันตัวฉันก็รู้สึกละอายอยู่ดี (พี่เข้าใจแล้วครับ) “ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะหนูปวดหัวมากเลย” ฉันกดวางสายทันที พี่เอ้คงจะรู้แล้ว คงจะรู้หมดแล้วแน่ ๆ ฉันกับพี่เอ้เรารู้จักโดยบังเอิญ ฉันรู้ว่าพี่เอิ๊กมีน้องชาย แต่ไม่เคยเห็นสักครั้ง กระทั่งวันหนึ่งโทรศัพท์เพื่อนในห้องพัง เอาไปซ่อมที่ร้านในห้าง พี่เอ้เปิดร้านขายซ่อมโทรศัพท์อยู่ เพื่อนก็ตั้งใจมาซ่อมร้านนี้เพราะเป็นร้านของน้องชายพี่เอิ๊กหนุ่มคนดังในตัวเมือง และเพื่อนก็พยายามพูดให้พี่เอ้รู้ว่าฉันน่ะเป็นน้องของเพื่อนพี่ชายเขานะ พอเป็นไปตามแผนเพื่อน ๆ ก็ได้คุยกับพี่เอ้ ได้ถามเรื่องราวพี่เอิ๊ก ส่วนฉันได้แต่แอบชอบรอยยิ้มของพี่เอ้ที่เห็นแล้วน่ารักดี เขายิ้มได้น่ารักมาก ๆ สืบไปมาก็ได้รู้ว่าพี่เอ้ยังไม่มีแฟน ก็ไม่รู้คิดไปเองไหม แต่ช่วงเวลาที่รู้จักเกือบปี ฉันคิดว่าพี่เอ้ก็คงมีใจให้ฉันบ้าง หลงตัวเองเหรอ ใช่ค่ะ ฉันคิดไปเองเพราะความจริงแล้ว... ครืด ครืด “คะ” (แล้วกระต่ายอยู่หอไหมหนู หรือว่ากระต่ายกลับบ้าน) “คะ?” (พี่ พี่ว่าจะแวะไปหากระต่ายที่หอ เอาขนมไปให้กระต่าย หนูบอกว่ากระต่ายไม่มีแฟนใช่ไหม หนูว่ากระต่ายจะชอบพี่บ้างหรือยัง) “ชอบมั้งคะ แค่นี้นะคะพี่เอ้ หนูอยากพัก” ใช่ ที่ผ่านมาฉันหลงตัวเอง คิดไปเองมาตลอด มาลองคิดดูที่พี่เอ้หยอกเล่นกับฉันแต่ชอบนิ่งขรึมกับกระต่าย และชอบมองกระต่ายบ่อย ๆ ก็เพราะเขาชอบกระต่าย ไหนจะเวลาเอาขนมมาฝากก็จะบอกว่า ‘อย่าลืมแบ่งเพื่อนด้วยนะ’ ร้องไห้อีกครั้งได้ไหม นี่ฉันอกหักจริง ๆ แล้วงั้นเหรอ ทว่าตั้งแต่แรกมันก็ไม่มีวี่แววจะสมหวังอยู่แล้วนี่เนอะ เอาวะ เอาให้ช้ำกันไปข้างเลย ถ้ามันจะตายวันนี้ก็ให้มันตายไปเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD