ภัสสราเปลี่ยนสถานที่ทำงานมาเป็นร้านกาแฟ ซึ่งมีผู้คนไม่มากนัก ขณะเริ่มเปิดสมุดที่เอาไว้เขียนนิยายเรื่องที่แปลอยู่ก็เห็นลายมือสวยๆ ของอิงครัตน์เข้าจึงค่อยๆ ไล่อ่านไปเรื่อยๆ ภาษาที่ใช้นุ่มนวลและดูอบอุ่นเมื่อเอาไปเทียบกับภาษาอังกฤษที่อยู่ในเล่ม
“อบอุ่นแม้กระทั่งภาษาที่ใช้เลยนะ คนอะไร” ภัสสราอมยิ้ม โดยไม่ ได้สังเกตเลยว่ามีใครกำลังจ้องมองมา
“เพ้อถึงหนุ่มคนไหนกันนะ น้องฉันถึงได้ยิ้มพิมพ์ใจขนาดนี้” เปรมยิ้ม เมื่อภัสสราเงยหน้าขึ้นมามองสบตาด้วยและรีบพนมมือไหว้ทันที
“สาวค่ะ พี่ป๊อก” ภัสสราหัวเราะคิกคักแล้วพยักพเยิดให้ดูที่หนังสือ
“ป้าแจ๊บมีเรื่องให้ยิ้มเวลานึกถึงเสมอแหละ” เปรมบอก
“พี่ป๊อกรู้จักป้ามานานแล้วหรือคะ” ภัสสราถาม
“ต้องเล่ายาว ขอไปซื้อกาแฟก่อน” เปรมบอกและทำท่าจะลุกขึ้นแต่ภัสสราอาสาไปซื้อให้เอง
“โต๊ดจัดการให้เอง พี่”
“เอาเงินไปด้วย พี่โตกว่า โต๊ดซื้อขนมมากินด้วยนะ โคตรหิว” เปรมหัวเราะมองดูหญิงสาวที่ลังเลเล็กน้อยกับธนบัตรที่เขายื่นให้ เปรมพยักหน้าย้ำอีกครั้งให้รับไป
“พี่ป๊อกพลาดแล้วล่ะ ถ้าพูดเรื่องโตกว่าล่ะก็ พี่ต้องเลี้ยงโต๊ดทุกครั้งที่เราได้เจอกันเลยนะ” ภัสสราหัวเราะเล็กๆ
“งั้นเดี๋ยวป้าแจ๊บมาให้เลี้ยงข้าว เพราะโตสุด” เปรมหัวเราะ เมื่อเห็นภัสสราขมวดคิ้ว
“นัดป้าที่นี่หรือคะ” ภัสสราถาม
“ถูกต้อง ถ้าจะให้ดีเผื่อของป้ามาด้วยเลยก็ได้”
“ได้เลยค่ะ ของฟรีดีต่อใจ” ภัสสราหัวเราะคิกคัก แต่หุบยิ้มทันทีเมื่อมองเห็นอิงครัตน์กำลังเดินเข้ามา จึงรีบเดินเข้าไปหาพร้อม
พนมมือไหว้อย่างสวยงามทำเอาผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าป้ายืนอมยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง
“งามอย่างไทยเลยนะ แม่คุ๊ณ” อิงครัตน์ยิ้ม
“ทะเล้นก็โดนว่าสิคะ คุ๊ณ” ภัสสราพูดต่อปากต่อคำ
“มายังไงล่ะเราน่ะ โทรฯ นัดกับป๊อกหรือ” อิงครัตน์ถาม
“เปล๊า หนูว่าหนูน่ะใจตรงกับป้ามากกว่า” ภัสสรายักคิ้วแล้วยักไหล่เล็กน้อยจนคนเห็นรู้สึกหมั่นไส้ จึงเอื้อมไปหยิกเข้าให้ที่เอว ซึ่ง
ภัสสราไม่กล้าส่งเสียงร้องทำเพียงแค่บิดตัวไปมาเท่านั้น
“ไอ้ตัวแสบ เล่นไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ฉันเอาโก้โก้เย็นนะ” อิงครัตน์หัวเราะ เมื่อเห็นภัสสราขมวดคิ้ว
“ไม่รอถามตามมารยาทก่อนเหรอว่า ดื่มอะไรดีคะ” ภัสสรายิ้มๆ
“เงินนายป๊อก ฉันรู้” อิงครัตน์ยักคิ้วให้อย่างรู้ทัน
“แล้วรู้ตัวไหมเดี๋ยวต้องเลี้ยงข้าวหนูด้วย” ภัสสราถาม
“ไม่รอถามก่อนเหรอว่า จะชวนไปกินข้าวด้วยหรือเปล่า”
“ไม่หรอก รู้นะว่าคิดถึงเค้าน่ะ” ภัสสรายิ้มแป้นก่อนจะเดินหนีไปเพื่อสั่งเครื่องดื่มและขนม
“รู้ด้วยว่า คิดถึง” อิงครัตน์ยิ้มมองดูภัสสราที่ยังหันมายิ้มสวยๆ ให้ก่อนจะเดินไปทักทายเปรมและนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม เปรมยิ้มเมื่อภัสสราเดินกลับมาแล้วทำหน้างอใส่อิงครัตน์
“ที่นั่งหนู” ภัสสราพูด อิงครัตน์หัวเราะก่อนจะเขยิบให้
“นึกว่าอยากนั่งใกล้ๆ กันเสียอีก” อิงครัตน์พูดขึ้น
“ไงล่ะ เงียบเลย” เปรมหัวเราะ เมื่อเห็นภัสสรายิ้มอายๆ หลังจากได้ยินประโยคที่อิงครัตน์พูดไปเมื่อสักครู่
“แหมท่าทางมั่นใจเนอะว่าใครๆ ก็อยากนั่งใกล้” เปรมยิ้มกับการพูดจาต่อปากต่อคำของหญิงสาวต่างวัย
“งั้นก็ลุกไปนั่งโต๊ะอื่นสิจ๊ะ” อิงครัตน์บอก ขณะหยิบแก้วโกโก้เย็นมาดื่ม ภัสสราจึงนำจานขนมไปวางให้ใกล้ๆ
“หนูนั่งก่อนนี่นา” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ
“นั่งใกล้ป้าแจ๊บมีความสุขนะ เชื่อพี่ ป้าแจ๊บมีพลังงานดีแบบบวกๆ ทำให้เรามีแรงทำงานได้มากกว่าปกติ” เปรมยิ้มขณะมองสบตา
กับอิงครัตน์ที่หันไปแกล้งยักคิ้วให้ภัสสรา
“พลังกวนมากกว่า” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ แต่ก็ยิ้มออกมาซึ่งทำให้เปรมหัวเราะกับความน่ารักของสองสาว
ภัสสรายิ้ม เมื่ออิงครัตน์ขยับตัวเล็กน้อยเข้ามาเบียดจนไหล่ชิดกันทำให้นึกถึงคำพูดของเปรมเมื่อสักครู่ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่อิงครัตน์
ทำให้รู้สึกอบอุ่นและสุขใจเสมอแถมยังช่วยให้มีพลังในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
“แปลได้แล้วคิดปรับสำนวนก่อนเขียนลงไป ลองดู” อิงครัตน์บอกกับภัสสรา หลังละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พกพาที่ทำงานอยู่
“อยากดื่มอะไรอีกไหม โกโก้ป้าหมดเร็วมากเลย” ภัสสราถาม
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวค่อยไปกินข้าว” อิงครัตน์บอก ขณะที่ภัสสราชะเง้อไปมองดูรูปภาพถึงแม้จะถูกเรียงเป็นภาพเล็กๆ แต่ยังเห็นภาพของ
ตัวเองที่คิดว่าน่าจะถูกแอบถ่ายเอาไว้
“ต้องคิดเงินเพิ่มนะเนี่ย” ภัสสราแอบกระซิบ
“ไอ้เด็กขี้งกเอ๊ย” อิงครัตน์พูดโดยไม่มีเสียงออกมา แต่เมื่อภาพของกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ภัสสราเขียนเสียบเอาไว้ในซองเงินซึ่งอยู่
ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของอิงครัตน์กำลังทำให้ภัสสรารู้สึกเขินกับการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นั้นของอิงครัตน์
“ภาพพวกนี้เป็นไงบ้างอ๊ะ พี่ป๊อก” ภัสสรายิ้ม ขณะยื่นโทรศัพท์ให้เปรมที่ขมวดคิ้วมองสบตาก่อนจะค่อยๆ เลื่อนดูภาพถ่ายของภัสสรา
“เหมาะกับการเป็นลูกศิษย์ป้าแจ๊บนะ เราเนี่ย” เปรมพูดชื่นชมด้วยใจจริงกับภาพมือที่จับแก้วน้ำส้มยกขึ้นดื่ม ผู้หญิงในภาพมีรูปร่างของมือที่ดูสวยงามแถมสีเล็บที่จัดจ้านหลากหลายสี เมื่อยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มสีไปตัดกับริมฝีปากที่มีสีแดงเข้มคล้ายสีของชมพู่มะเมี่ยวที่สุกงอม ซึ่งช่วยให้ภาพดูดีหลากสีสันสวยงาม
“ไหนขอดูหน่อย” อิงครัตน์แบมือไปตรงหน้าของเปรม
“ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ เรา โต๊ดมีมุมมองทางศิลปะ ถ้าเอาจริงเอาจังก็น่าจะไปได้สวยนะ” เปรมบอกทำให้ภัสสรายิ้ม แต่เบนความสนใจมาอยู่ที่คนซึ่งกำลังจ้องมองและกำลังขยายภาพดูอย่างละเอียด
“ยายพอใจล่ะสิ เดี๋ยวนี้เปรี้ยวขึ้นนะ” อิงครัตน์พูดขึ้น
“จำได้ด้วย ถ่ายให้เห็นแค่ปากเองนะ” ภัสสราบอก
“แล้วนี่อะไร” อิงครัตน์ถามเสียงเข้ม ภัสสรายิ้มเจื่อนๆ
“แล้วนั่นล่ะอะไร หายกัน” ภัสสราอมยิ้ม ขณะเอามือจิ้มๆ ไปที่รูปตัวเองซึ่งถูกอิงครัตน์แอบถ่ายเอาไว้ตอนเผลอ
“ร้ายนักนะ” อิงครัตน์พูดด้วยเสียงเข้มๆ เปรมหัวเราะเล็กๆ เพราะสองสาวชอบพูดจาหยอกล้อต่อปากต่อคำ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เห็น คือ
แววตาอ่อนโยนที่ทั้งสองมีให้กัน เปรมสังเกตเห็นอิงครัตน์มีรอยยิ้มสดใสมากกว่าปกติยามที่มีภัสสราอยู่ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้ยิ้มตามไปด้วย ความสุขกับความอบอุ่นเหมือนถูกส่งผ่านอากัปกิริยาจากผู้หญิงสองคน ซึ่งถึงแม้มีวัยที่ห่างกันค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกถึงความแตกต่างเลย
“มีแฟนหรือยังเราน่ะ” เปรมถาม ภัสสรายิ้มจางๆ หันไปมองสบตากับอิงครัตน์ที่ยิ้มน้อยๆ ให้ก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ เมื่อความ
เงียบเข้ามาแทนที่หลังจากคำถามของเปรมทำให้เจ้าตัวอดที่จะแปลกใจไม่ได้
“ตกลงมีไหมครับป้า” เปรมถามอิงครัตน์
“ต้องให้เขาตอบเอง” อิงครัตน์พูดขึ้น
“ทำไม พี่ป๊อกจะจีบโต๊ดหรือไง ถึงได้ถาม”
“ยอมให้จีบไหมล่ะ” เปรมยิ้มๆ ให้ ภัสสราถอนใจชำเลืองมองดูคนที่รอยยิ้มจางหายไปทันที
“ได้อยู่ แต่แน่ใจนะว่าตัวเองโสด” ภัสสราถาม
“หมดกัน ถามตรงไป๊” เปรมหัวเราะ ภัสสราสดใสและดูน่ารักยามที่ต่อปากต่อคำกับอิงครัตน์ ซึ่งดูเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ แต่ไม่แน่ใจนักเพราะเจ้าตัวไม่ได้ตอบอย่างแน่ชัดว่ามีคนรักอยู่หรือไม่ เปรมคิดว่าหากคิดจะจีบสาวเจ้า ถ้าเข้าทางอิงครัตน์ก็น่าจะช่วยให้ก้าวหน้าได้อย่างเร็วขึ้น
ภัสสรายิ้มจางๆ ขณะทำงานอยู่ไม่รู้เหมือนกันว่า เปรมถามจริงๆ หรือแค่ชวนพูดคุย แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกกังวลใจ คือ รอยยิ้มของคนที่
นั่งอยู่ข้างๆ ที่กำลังถอยห่างออกไปต่างจากตอนแรกที่ขยับเข้าใกล้จนไหล่เบียดชิดกัน
อิงครัตน์ตกใจ เมื่อมืออุ่นๆ ของภัสสรามาจับมือของเธอ ซึ่งพยายามจะดึงออกแต่ภัสสราจับเอาไว้แน่น จึงหันไปมองดูคนที่จ้อง
มองอยู่ ก่อนจะทำปากขมุบขมิบแบบไม่มีเสียงอีกครั้ง
“ปล่อย” อิงครัตน์พูดพร้อมกับมองด้วยสายตาดุๆ แต่ภัสสราเลิกคิ้วและส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ อิงครัตน์ถอนใจเล็กน้อยมองดูเปรม
ที่ยังคงจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานของตัวเอง ก่อนจะเอื้อมอีกมือหยิกเข้าให้ที่มือของภัสสรา ซึ่งนั่งนิ่งเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวทำเป็นเฉยแถมยังขยับเข้าเบียดชิด อิงครัตน์ขยับหนีจนไหล่ติดกับผนังกั้นระหว่างโต๊ะ
“ป้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน” อิงครัตน์พูดขึ้น เปรมเงยหน้ามายิ้มให้ทั้งสองสาว
“หนูไปด้วย” ภัสสราลุกขึ้นยืนก่อน แล้วยิ้มๆ ให้อิงครัตน์ที่ทำหน้านิ่งจ้องมองอยู่
“เป็นเด็กขี้แกล้งหรือไง เรา” อิงครัตน์พูดดุ เมื่อเห็นภัสสรารีบจ้ำอ้าวเดินตามมา
“ไม่ได้แกล้งสักหน่อย ถ้าป้าไม่ชอบหนูจะไม่จับอีกก็ได้” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ
“แล้วทำไมถึงต้องจับ พูดเรื่องตัวเองไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นอยากจับมือป้า เพราะรู้สึกปลอดภัย”
“ฉันไม่ใช่ระบบป้องกันภัยสำหรับเธอนะ” อิงครัตน์เริ่มต่อปากต่อคำทำให้ภัสสรายิ้ม
“ลองจับมือดูปะล่ะ เผื่อจะรู้สึกเหมือนกัน” ภัสสรายืนมือไปตรงหน้าอิงครัตน์พร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส
“ขี้แกล้งจริงจริ๊ง ไม่เอาล่ะปวดฉี่จะแย่แล้ว” อิงครัตน์มองดูมือของภัสสราแล้วยิ้มๆ และหันหลังกลับรีบเข้าห้องน้ำไปทันที
“นึกว่างอนหนีมาห้องน้ำ โธ่ที่แท้ก็ปวดฉี่” ภัสสราอมยิ้มเปิดประตูเข้าไปอีกห้องซึ่งอยู่ติดกับอิงครัตน์ที่เพิ่งเข้าไปเมื่อสักครู่
“สวัสดีค่ะ” อิงครัตน์มองดูหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งปรากฏเบอร์โทรให้เห็นเจ้าตัวลังเลเล็กน้อยก่อนจะรับสาย
“ขอตัวสักครู่นะ” อิงครัตน์บอกก่อนจะเดินออกไปทางหน้าร้าน
“ป้าเคยแต่งงานหรือเปล่าคะ พี่ป๊อก” ภัสสราเอ่ยชวนพูดคุย
“ไม่รู้เหมือนกัน ไม่กล้าถามด้วย ตั้งแต่รู้จักก็ไม่เห็นมีใคร แต่เท่าที่รู้ตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ” เปรมบอก
“งั้นอาจจะเคยแต่งงานสิเนอะ สวยก็สวย เก่งก็เก่ง” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ เปรมหัวเราะเล็กๆ
“ทำไมจะหาแฟนให้ป้าหรือไงเรา” เปรมถาม
“พี่ป๊อกก็พูดไป ได้ยินเข้าล่ะก็ เราสองคนโดนงาบหัวแน่ๆ” ภัสสราพูดยิ้ม แต่สายตาแปลกๆ ที่จ้องมองมาทำให้รีบหันกลับไปทำ
งานต่อ
“แต่ป้าแกเนื้อหอมนะ พี่เคยไปช่วยสอนเรื่องการขายภาพไม่รู้ใครส่งช่อดอกไม้มาให้ช่อใหญ่มาก หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตอมกันหึ่ง”
เปรมบอก
“ขนาดนั้นเลย ผู้หญิงมีบ้างไหม พี่ป๊อก” ภัสสราทำตาใสใส่เปรมที่หัวเราะกับความอยากรู้อยากเห็น
“เฮ๊ยเออว่ะ พี่ลืมคิดเรื่องนั้นไปเลย หรือป้าจะชอบผู้หญิง” เปรมยิ้มและพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้
“เนอะ มาแล้ว จบการสนทนา” รอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยทำให้อิงครัตน์พอจะเดาได้ว่ากำลังโดนนินทาอยู่แน่ๆ
“ลุกไปแป๊บเดียวนินทาผู้หลักผู้ใหญ่ ไปกินข้าวกันดีกว่า”
“หิวพอดีเลย ไปพี่ป๊อก” ภัสสรากุลีกุจอช่วยอิงครัตน์เก็บของ
“ทำดีกลบเกลื่อนเรื่องอะไรหรือเปล่า” อิงครัตน์ถาม
“คนแก่ขี้ระแวง อุตส่าห์ช่วย” ภัสสราบ่นพึมพำ
“ใครโทรฯ หากันครับ เดินกลับมายิ้มหวานเชียว” เปรมพูดแหย่
“ติดเชื้อวุ่นวายมาจากแม่คนนี้หรือไงกันนะ นายป๊อก” อิงครัตน์พูดต่อว่าเปรมแต่พาดพิงไปถึงภัสสราที่หน้างอมากกว่าเดิมเสียอีก
“กลัวจะไปติดใจความน่ารักเข้าให้ล่ะสิครับ” เปรมยิ้มๆ ให้ภัสสรา
“เห็นม๊ะ เคยเห็นบ้างไหมล่ะ ความน่ารักน่ะ”
“นี่ๆ ปากดีนักนะ ไปกินข้าวกัน” อิงครัตน์มองดูสองหนุ่มสาวที่เดินนำหน้าไปและพูดคุยกันเรื่องภาพถ่าย ซึ่งภัสสราถือว่ามีมุมมองที่
ดีหากเอาจริงเอาจังคงสอนไม่ยากสักเท่าไรนักและเปรมมีความสามารถในเรื่องนี้