บทที่ 2 หัวใจที่แหลกสลาย

1530 Words
บทที่ 2 หัวใจที่แหลกสลาย ผู้ช่วยหวงตงหลิงค้อมกายน้อยๆ รับคำสั่งจากเจ้านายสาวด้วยความเต็มใจ ขยับกายก้าวขึ้นไปเบื้องหน้าจนปลายเท้าแทบชิดกับใบหน้าของฟ่านลู่เสียนดั่งจงใจเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายให้จมดิน “หลังจากที่เจ้าก้าวเท้าเข้าสู่ตระกูลเถาด้วยท่าทางโง่เขลา หลงระเริงไปกับความสะดวกสบาย เพ้อฝันไปกับชีวิตแสนหวานจนดูน่าสมเพช เพียงแค่หกเดือนเท่านั้น บิดา มารดา และน้องสาวของเจ้าก็ถูกท่านประมุขฆ่าปิดปากทั้งหมด” “อา!” ลู่เสียนกรีดร้องออกมาด้วยเสียงทั้งหมดที่มี หัวใจของนางเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ดวงตาแดงก่ำ หยาดน้ำตาเริ่มไหลออกมาเป็นสีแดงราวกับเลือด ‘ไม่จริง! ท่านพ่อตอบจดหมายข้าตลอด’ ลู่เสียนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นางและครอบครัวเขียนตอบจดหมายกันทุกเดือน เนื้อหาในจดหมายบิดามักเขียนถึงความสุขสบาย เงินทองมากมายที่เสนาบดีมอบให้ทำให้ครอบครัวกินใช้ดั่งเศรษฐีคหบดี พวกเขาเลิกกิจการค้าผ้า และออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ อีกทั้งยังส่งของฝากมาให้นางอยู่เนืองๆ อีกด้วย ซึ่งการกล่าวอ้างว่าออกท่องเที่ยวไปยังดินแดนต่างๆ นั้น ทำให้นางไม่สามารถกลับไปเยี่ยมเยียนบิดามารดาได้ แต่ก็อุ่นใจเพราะบิดามักจะส่งจดหมายผ่านนกพิราบสื่อสารกลับมาอย่างสม่ำเสมอไม่เคยขาด ‘มะ...ไม่จริง ระ....หรือว่า ที่ลายมือของท่านพ่อปะ...เปลี่ยนไป!’ นางเคยสงสัยว่าจู่ๆ เหตุใดท่านพ่อจึงตวัดตัวอักษรด้วยน้ำหนักที่มากกว่าเดิม แต่เมื่อมองโดยรวมแล้วทุกตัวอักษรล้วนเหมือนลายมือของท่านพ่อไม่ผิดเพี้ยน นางจึงไม่ได้ติดใจสงสัย ไม่คิดเลยว่า... จดหมายเหล่านั้นจะถูกปลอมขึ้นมาทั้งหมด หัวใจบอบช้ำดั่งถูกเหยียบขยี้ด้วยฝ่าเท้า ฟ่านลู่เสียนจ้องมองคุณหนูเถาเหลียวเกอ ผู้ช่วยหวงตงหลิง และองครักษ์อวิ๋นอี้เจีย แน่นอนว่าความแค้นของนางยังรวมไปถึงเสนาบดีเถา และพ่อบ้านหวงอีกด้วย ‘ไอ้พวกสารเลว! เลว!’ ‘ข้าจะขอจองเวรพวกเจ้าไปทุกภพทุกชาติ!’ “ว่าแล้วเชียว...จิ๊ๆ” คุณหนูเถาทำเสียงที่ริมฝีปากก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน “ถ้าปล่อยให้ตายแล้วเอาไปโยนทิ้งตามแผนการเดิมดูจะสบายเกินไป การให้นังชั้นต่ำรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความสุขสบายจอมปลอมที่มันเลือกต่างหาก ที่ทำให้ยิ่งเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ดูดวงตานั่นสิ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท ช่างน่าสมเพชเสียจริงๆ เลย” คุณหนูเถาหัวเราะร่วนอย่างสนุกสนาน ด้วยปกติชื่นชอบการล่าสัตว์เป็นทุนเดิม ยิ่งเห็นสัตว์ไร้ทางสู้หวาดกลัวจนสั่นเทา หัวใจของนางก็ยิ่งเต้นแรง เลือดสดๆ ส่งกลิ่นคาวคลุ้ง และเสียงกรีดร้องทุกข์ทรมาน ยิ่งทำให้ความสนุกพุ่งขึ้นสูงสุดจนสะท้านไปทั้งสรรพางค์กาย และตอนนี้นางก็กำลังรู้สึกสนุกสุดๆ ไปเลย เถาเหลียวเกออยากจะยกเท้าเหยียบลงบนใบหน้าของอีกาโสโครกที่นอนหายใจรวยรินเสียเหลือเกิน แต่ติดที่ว่าหากยกเหยียบเท้าของนางอาจจะเปื้อน ในวันมงคลเช่นนี้ร่างกายของนางไม่ควรแปดเปื้อนเลือดสกปรกของนังชั้นต่ำไร้ค่า “เล่าไปสิอาหวง ว่าเจ้าฆ่าพ่อแม่และน้องสาวของมันยังไงบ้าง คนพวกนั้นทุกข์ทรมานมากขนาดไหน” “เจ้าค่ะคุณหนู” หวงตงหลิงค้อมกายรับคำสั่งจากเจ้านายสาวด้วยความยินดี ก่อนจะเหลือบมองตัวปลอมที่ดวงตาแทบถลนออกมาจากเบ้า จ้องมองนางด้วยความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด “ข้าเข้าไปฆ่าพวกมันตอนที่พวกมันกำลังกินข้าวเย็น พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ข้าใช้ดาบแทงคนเป็นแม่ก่อนเพราะมันกำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สาม ใช้ดาบจ้วงเข้าที่ท้องกลมๆ จนเลือดไหลออกมา หน้าท้องเหวอะหวะจนเห็นร่างทารกแดงๆ อยู่ในนั้น จากนั้นข้าจึงฆ่าผู้เป็นบิดาที่กำลังกรีดร้องราวกับเสียสติที่เห็นภรรยาและบุตรในครรภ์ต้องตายอย่างสยดสยอง ข้าปล่อยให้เวลาผ่านไปกว่าหลายเค่อเพื่อให้น้องสาวคนเล็กกรีดร้องจนแทบขาดใจ กอดศพบิดามารดาจนน้ำตาแทบหลั่งออกมาเป็นสายเลือด จากนั้นข้าจึงปลิดชีพนางเป็นคนสุดท้าย” “อ๊าก!” หัวใจแหลกสลาย ฟ่านลู่เสียนอ้าปากค้างเมื่อได้รู้ว่ามารดากำลังตั้งครรภ์น้องสาม ครอบครัวของนาง ครอบครัวที่รักและหวังดีต่อนางมาโดยตลอด พวกเขาเสียชีวิตมากว่าสี่ปีแล้ว นางไม่เคยรู้เลย นางคิดว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาโดยตลอด ไม่จริง! ทุกอย่างเป็นเพราะข้า! เป็นเพราะข้าทั้งโลภและโง่เขลา! เพราะข้า! “อา...รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย สะใจเสียจริง!” เหลียวเกอหัวเราะคิกอย่างสนุกสนาน ผู้ช่วยหวงเห็นเช่นนั้นจึงเล่าต่อไปหมายใจว่าความจริงจะยิ่งทำให้ฟ่านลู่เสียนทุกข์ทรมาน เพื่อสร้างความบันเทิงใจให้แก่เจ้านายสาวที่นางรักและบูชายิ่งชีวิต “ที่สำคัญกว่านั้นคือองค์หวงไท่จื่อไม่เคยรักเจ้าเลยสักนิด ลู่เสียนเจ้ามันโง่อย่างน่าสมเพช องค์หวงไท่จื่อรักและห่วงใยคุณหนูเถาของข้ามาโดยตลอด และจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเป็นอันขาด ที่ข้าเคยบอกว่าองค์หวงไท่จื่อไม่เคยพบคุณหนูเถามาก่อนนั้นข้าโกหกเจ้าทั้งหมด ทั้งสองคบหากันมานานนับปีก่อนจะมีการพระราชโองการหมั้นหมายจากองค์ฮ่องเต้ต่างหาก” ลู่เสียนแทบจะแน่นิ่งไป นางไม่รู้ว่าความเสียใจมีขีดจำกัดอยู่ที่ตรงไหน ทว่าความเสียใจของนางมันกลับทวีมากขึ้น มากขึ้น ราวกับก้อนเนื้อที่อกซ้ายกำลังจะสูญสลาย ชายที่นางรักจนหมดทั้งหัวใจ แท้จริงแล้วเห็นนางเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดเท่านั้น อย่างนี้เองสินะ... เขาจึงมักโอบกอด หอมแก้มและบอกรักนางต่อหน้าผู้คนอยู่เสมอ แต่เวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันเพียงลำพังสองต่อสอง องค์รัชทายาทมักจะแสร้งหยิบตำราขึ้นมาอ่านโดยที่ไม่คิดจะสนทนากับนางเลย ‘ที่ผ่านมาแม้ข้าจะเคยสงสัยอยู่บ้าง แต่ข้าก็โง่งมเกินกว่าจะเฉลียวใจค้นหาสาเหตุ เพราะความรักทำให้ดวงตาของข้ามืดบอด เพราะความโลภทำให้ครอบครัวของข้าต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน’ ลู่เสียนสะอึกสะอื้นจนตัวโยน เริ่มเจ็บปวดที่ท้องราวกับอวัยวะภายในบีบรัด ปากที่ทาชาดแดงม่วงซีดส่งผลให้ชาดที่ทาไว้เริ่มเปลี่ยนสี “โถ...คงคิดว่าท่านพี่จะรักเจ้าจริงๆ สินะ ช่างโง่เขลาเบาปัญญาเสียจริง ท่านพี่ไม่มีทางรักใครนอกจากข้าหรอก เพราะว่าเราทั้งสองผ่าน...” เถาเหลียวเกอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วก็ชะงักก่อนจะหุบปากลงเสียดื้อๆ “เอาละ...ข้าสนุกมากพอแล้ว จัดการมันตามแผนเดิมได้เลย” “ขอรับคุณหนู” องครักษ์อวิ๋นน้อมรับคำสั่ง ก่อนจะผิวปากเรียกทหารที่อยู่ด้านนอกเข้ามาพร้อมกับกระสอบผ้าขนาดใหญ่ คลุมร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวปลอมก่อนจะแบกออกไปอย่างเร่งรีบ “ดีแล้วเจ้าค่ะคุณหนู หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง จะให้ใครรู้เรื่องนั้นที่คุณหนูกับองค์ไท่จื่อทำร่วมกันไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้คนที่รู้กำลังจะเดินทางไปปรโลกก็ตาม” หวงตงหลินเอ่ยเตือนเจ้านายสาวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะสิ่งนั้นจวนสกุลเถาจึงได้วุ่นวาย คุณหนูเองก็เกือบตายแทบเอาชีวิตไม่รอด จนท่านประมุขต้องออกอุบายหาตัวแทนมาใช้ชีวิตตบตาผู้คน ในขณะที่ต้องนำคุณหนูเถาไปซ่อนตัวในป่าลึกเพื่อรักษาตัวจนหายขาด “เข้าใจแล้ว” เหลียวเกอพยักหน้าน้อยๆ ความผิดพลาดในครั้งนั้นทำให้นางต้องหลบลี้หนีหายออกไปจากวงสังคมกว่าห้าปี เป็นความผิดพลาด ความคึกคะนองในวัยเยาว์ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่มีโทษสถานหนัก หากทางการจับได้ตระกูลเถาคงสูญสิ้นถูกเสียบหัวประจานที่กำแพงเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย นางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ที่เกือบจะนำพาภัยร้ายมาสู่วงศ์ตระกูล ก่อนจะยืดตัวตรงเพื่อให้ผู้ช่วยหวงตรวจดูความเรียบร้อยของร่างกายอีกทีหนึ่ง จากนั้นจึงย่างก้าวออกจากห้องเพื่อเตรียมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวที่มาถึงพอดิบพอดี เถาเหลียวเกอค่อยๆ ก้าวย่างขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวอย่างสง่างามมุ่งหน้าสู่เขตพระราชฐานอันเป็นที่ตั้งของวังจันทรา ที่พำนักขององค์รัชทายาทจ้าวเย่ซง ในขณะที่ฟ่านลู่เสียนคุดคู้อยู่ในกระสอบถูกโยนขึ้นบนเกวียนบรรทุกขยะที่กำลังมุ่งหน้าสู่ป่าลึก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD