เช้าสดใสแม้เมื่อคืนท้องจะร้องไปบ้าง แต่ทว่าวันนี้แป๋มกลับรู้สึกสดชื่นอย่างที่สุด แต่..... ตายล่ะปวดท้องสงสัยจะกินอโวคาโด้ไปเมื่อคืนนำผึ้งป่าเป็นยาระบาย ห้องน้ำห้องน้ำอยู่ไหนเดินหนีบไปมาจูจิ้นขยี้ตามองมาที่แป๋มพอดี เจ้าเด็กนี่ไม่น่าไว้ใจแต่จะทำอย่างไรได้ตอนนี้ข้าศึกกำลังโจมตี อย่างไรก็ต้องยอมอ่อนข้อให้เจ้านี่เสียนิดนึงแล้วค่อยไปเอาคืนทีหลัง
“น้องร้ากกกก บอกพี่มาห้องน้ำอยู่ไหนกัน”เค้นเสียงพูดแบบจำใจที่สุด จูจิ้นยิ้มมุมปากเจ้านี่เจ้าเล่ห์ใช้ได้ทีเดียว
“ปวดอึหรืออย่างไร”ยังมีหน้ามาถามอีกแต่ก่อนไปเคยเข้าห้องน้ำแต่เช้าแบบนี้แป๋จะจตื่นก็เก้าโมงตื่นมากินแล้วนอนเล่นเกมต่อกว่าจะเข้าห้องน้ำถ่านหนักก็เย็นย่ำ
“อืมมม”พยักหน้าอย่างอดกลั้นเต็มที่ จูจิ้นส่ายหน้าไปมา ทำท่าทีเบื่อหน่ายราวกับผู็อาวุโสที่กำลังสั่งสอนศิษย์
“แสดงว่าที่ผ่านมาไม่เคยอึเลยสิท่า”
ระบบขับถ่ายแปรปรวน อันนี้แป๋มรู้ดีบางทีไม่เข้าห้องน้ำสามวันติดๆ ไม่กินผักไม่กินน้ำเปล่ากินแต่น้ำอัดลม
"รีบๆ บอกมาเถอะไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่านาย”ปวดจนแทบจะทนไม่ไหว ญาติดีด้วยไม่ได้แล้ว
“ นั่นจอบ แล้วนั่นจูเจี่ยก็เลือกเอาเลยว่าจะตรงไหน ขุดนั่งแล้วก็ปลดทุกข์”
ชี้มือไปที่ป่าละเมาะข้างหน้า แป๋มเลิกคิ้วสูงอ้าปากค้าง แบบเรียลๆเลยหรือ แย่แล้วฉันไม่มีทางไปนั่งอึโค่โร่ตรงนั้นแน่ แต่ข้าศึกกำลังบุกทะลวงประตูหลังแป๋มหะันหน้าหันหลังเจ้าน้องชายตัวดียืนยิ้ม คว้าจอบวิ่งเข้าป่าไป เพียงครู่เดียวเสี่ยวซงออกมาข้างนอกบิดขี้เกียจไปมา
“ที่ปลดทุกข์อยู่ไหน”จูจิ้นเกาหัวแกรกๆ
“พวกพี่นี่ ทำเหมือนไม่เคยปลดทุกข์กันมาก่อน บอกแล้วให้กินผักเยอะๆ ”
เสี่ยวซงเดินไปนทิศทางเดียวกับแป๋ม จูจิ้นตะโกนดังๆ
“จูเจี่ยพี่ชายเสี่ยวซงกำลังจะเข้าไปปลดทุกข์”
แป๋มอ้าปากค้างทั้งๆ ที่กำลัง ลงมือต้องรีบลนลาน เสี่ยวซงชะงักเท้าไว้แค่น้้น ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
แป๋มซาบซึ้งเสียจริง น้ำตาจะไหล
จัดการธุระเสร็จต้องหาใบไม้แห้งมาคุลมไว้ ทำสมรภูมิให้เนียนที่สุดเพื่อคนอื่นจะได้ไม่มีใครรู้ว่ามาปลดทุกข์ตรงนี้ อายเสี่ยวซงเป็นบ้า เสี่ยวซงกลับเดินหลบไปเสียอีกทาง แป๋มรีบจ้ำกลับไปที่บ้านจูจิ้นนั่งมองแป๋มยิ้มๆ เจ้าเด็กบ้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ฉลาดเป็นกรด
“จูเจี่ย เฝ้าหม้อข้าวต้มให้แม่ด้วยแม่จะไปที่โรงนา เอาหัวไช้เท้าดองเค็มมากินกับข้าวต้ม”แป๋มได้ยินเสียงท้องตัวเองร้องจ๊อกๆ หิวอีกแล้ว ชะโงกหน้าไปในหม้อข้าวต้ม มีทั้งถั่วแดงและถั่วเขียวในหม้อรวมกันกับข้าวสีน้ำตาลแดงไม่ใช่ข้าวขัดสีจนข้าวเหมือนที่เคยกิน
“จูจิ้นทำไมเขาต้มข้าวใส่ถั่ว”
“จูเจี่ยนี่ถามแปลกๆ ปีนี้ข้าวปลาอาหารขาดแคลน ท่านพ่อแบ่งข้าวแลกหมูเค็มกับ เนื้อวัวตากแห้งมาเก็บไว้ บ้านเราแม้จะได้ข้าวเยอะแต่คนอื่นเขา ได้ผลผลิตน้อยท่านพ่อก็เลยสสารคนอื่นยอมเอาข้าวไปแลก พวกเนื้อกับหมูมาคนอื่นเขาจะได้มีข้าวกิน”
แป๋มคิดถึงข้าวที่เหลือที่บ้านของแป๋มส่วนมากถูกทิ้งลงถังขยะ
“แล้วมันจะอร่อยไหม”จูจิ้นยิ้ม
บนโต๊ะอาหารเช้า เจ้าบ้านเฉินคีบเอา หัวไว้เท้าดองเค็มใส่ในถ้วยข้าวต้มให้แป๋ม
“อร่อยที่สุดมันเป็นสูตรลับของตระกูลเฉิน"
ยิ้มใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวต้มกับหัวไช้เท้าดองเค็มใส่ปากแม้จะบอกว่าดองเค็มแต่กลับมีรสหวาน เจือมาด้วยทำให้ข้าวต้ม ปนกับเมล็ดธัญพืชอร่อยจนต้องเผลอหลับตาลิ้มรสของมันทำไมมันอร่อยลงตัวแบบนี้เม็ดถั่วแดงกับถั่วเขียวเปื่อยนุ่ม เหยาะเกลือลงไปเล็กน้อยพอให้กร่อยๆ แป๋มมอง หมูเค็มกับเนื้อแดดเดียวเขม็ง ฮูหยินเฉินยิ้ม
“ท่านพ่อปรึกษากับข้าว่าเจ้าสมควรจะลดน้ำหนักตัวเสียบ้าง ด้วย ความเป็นข้ากับพ่อของเจ้า เราสองคนหน้าตาดีส่งผลมาถึงเจ้าใบหน้างดงามทว่า….อ้วนไปเพียงนิด”หานี่ยังบอกว่าเพียงนิด ช่างสร้างแรงจูงใจเสียจริง
“ไม่นาน หากินตามที่ข้าแนะนำ จูเจี่ยของเราจะต้องกลายเป็นหญิงงาม”
แป๋มเขินจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อเสี่ยวซงอมยิ้ม มองๆ ไปเสี่ยวซงเวลาอมยิ้มก็หล่อเป็นบ้าเลย
“จูเจี่ยจะเขินทำไม”จูจิ้นน้องนรกสมองอัจฉริยะ พูดขึ้นดังๆ
“ดีแล้ว พักนี้ทำตัวสมกับเป็นหญิงสาวไม่กระโดกกระเดก เหมือนเมื่อก่อนอย่างนี้มีหวัง ได้ออกเรือนแน่555”
เจ้าบ้านเฉินพูดไปหัวเราะไปด้วยความเอ็นดูแป๋ม
“ท่านพ่อว่าแต่สูตรหัวไช้เท้าดองเค็ม”แป๋มเปลี่ยนเรื่องคุยแก้เขิน”
“ดอกเกลือ น้ำผึ้ง น้ำสะอาดนั่นล่ะคือสิ่งที่ต้องใส่ลงไปในหัวไช้เท้าที่เก็บสดๆ หัวไช้เท้าจึงแสนอร่อยแบบนี้ สูตรนี้พ่อเจ้าคิดขึ้นมาเอง หลายปีมานี้กินของบ้านไหนก็ไม่อร่อยเท่า”
เสี่ยวซงวางถ้วยข้าว ประสานมือตรงหน้า
“ขอบคุณท่านลุงที่ ไม่หวงวิชา”
“เสี่ยวซง ถึงจะบอกว่าสูตรลับแต่เจ้าบัดนี้ก็เป็นคนในครอบครัวกินข้าวหม้อเดียวกับเราแล้วยังช่วยเราทำงาน ข้าจึงไม่จำเป็นต้องหวงสูตรในเมื่อเป็นของดี ล้วนยิ่งต้องแบ่งปัน”
แป๋มอึ้งกับความคิดและคำพูดของเจ้าบ้านเฉินคนอะไรจะดีขนาดนั้นหากเป็นสมัยนี้ต้องลงทุนซื้อสูตรในราคาหลายบาท แม้จะมีให้ดูในอินเทอร์เน็ต แต่มักจะไม่บอกสูตรลับเฉพาะ
"ท่านพ่อใจดีจัง”แป๋มอดที่จะกล่าวชื่นชมเสียมไม่ได้”
เอาไว้เจ้ามีครอบครัวมีไร่ปลูกผักกินเองลองไปทำตามสูตร ดองผักสูตรนี้เก็บไว้ได้นานจนกว่าจะพอใจไม่มีทางเน่าเสีย” เสี่ยวซงหันมองแป๋มที่บัดนี้กลับรู้สึกว่า ไม่ได้อ้วนอย่างวันแรกที่เข้าเห็น แป๋มจะรู้สึกตัวไหมว่าตัวเองใบหน้าผุดผาดมีสีเลือดแล้วยัง ขาวขึ้นบางทีอาจเป็นเพราะอากาศ หรืออาจเป็นเพราะอาหารที่กินเข้าไปล้วนบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนจึงส่งผลมาที่ผิวพรรณและใบหน้า
“วันนี้ต้องขุดมันเทศเสี่ยวซงเจ้าแบกหลัวเปล่าไปที่ไร่กับข้าส่วน จูเจี่ยกับจูจิ้นเตรียมอาหารและน้ำช่วยแม่ของเจ้า นำเอาเมล็ดผักบุ้งไปปลูกในแปลงที่ข้าขุดไว้ตั้งแต่เมื่อวาน”
ท่านเจ้าบ้านเฉินพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนกิน ข้าวต้มจนหมดหม้อแป๋มขอเพิ่มยายป้าแค่เพียงยิ้มๆ จูจิ้นกลับกระซิบข้างหูแป๋มเบาๆ อย่างน้อยก็ไม่ขายหน้าเสี่ยวซง
“จูเจี่ยจะผายลมทั้งวันกับ เมล็ดธัญพืชที่กินเข้าไป”ฉลาดจริงเจ้าเด็กนี้หากอยู่ในโลกปัจจุบันคงเป็นนายกไปแล้ว ไฟเบอร์ในพืชตระกูลถั่วขับลมดีจริงๆ
แปลงมันเทศเรียงราย แป๋มเห็นแล้วถึงกับหาวเป็นปกตินางเอก อุ๊ยเขินเรียกตัวเองว่านางเอก แต่ก็นะถ้ามาแบบนี้จะต้องเป็นนางเอกสินางร้ายคงไม่ย้อนเวลามาหรอก ไม่มีสตอรี่