ห้องรับรองตกแต่งหรูหรา เสี่ยวมี่กำลังนั่งดูวิธการแต่งหน้าของซูฉี ซูฉีอธิบายถึงวิธีการใช้และวิธีการแต่งหน้าแบบสาว 2022 โดยใช้ใบหน้าของเด็กรับใช้หน้าตาจิ้มลิ้มที่ต้อนรับเธอตั้งแต่เข้าร้านมา เธอเลือกใช้การแต่งแบบธรรมชาติ แต่งเหมือนไม่แต่ง แต่งให้ผู้ชายสงสัยว่าได้แต่งหน้ารึป่าวนะ หลอกได้แค่สายตาผู้ชาย แต่หลอกชะนีไม่ได้ เรียกได้ว่าผีเห็นผีจะเหมาะสมกว่า
“เสร็จเรียบร้อยเจ้าค่ะ”
“งดงามยิ่งนัก”
ด้วยเครื่องสำอางแบรนด์คุณภาพ และเทคนิคการแต่งที่ล้ำสมัยกว่าในยุคนี้ ทำให้การแต่งหน้าที่เด็กมัธยมหรือมหาลัยแต่งกันกลายเป็นผลงานล้ำค่าขึ้นมาทันที
“ถ้าเช่นนั้นเรามาเข้าเรื่องการค้าของเราเลยดีหรือไม่เจ้าคะ”ปลากินเบ็ด
“เจ้าลองว่าข้อตกลงมาสิ”
“ข้าจะให้ท่านนำสินค้าไปทดลองขายก่อน อย่างละ 10 ชิ้นดีหรือไม่เจ้าคะ อีก 7 วัน ข้าจะมาที่ร้านแล้วเราค่อยพูดคุยถึงข้อตกลงและสัญญากันอีกครา” เธอต้องดูก่อนว่าร้านนี้จะมีทำการค้าแบบยุติธรรมจริงหรือเปล่า ถ้ายุติธรรมก็จะได้ทำการค้ากันต่อในระยะยาว แต่ถ้าไม่ เธอก็แค่หาคู่ค้าใหม่ เพราะยังไงก็ได้ให้ร้านมี่หลันกระจายข่าวสินค้าไปแล้ว เธอมีแต่ได้
“ตกลง”
เธอทำเป็นล้วงกระเป๋าเอาเครื่องสำอางออกมาอย่างละ 10 แท่ง ลิปสติก 3 สี สีละ 10 แท่ง อายแชโดว์ รวมแล้ว 20 ตลับ คุชชั่น 3 สี ขาวอมชมพู ขาวเหลืองและผิวสีน้ำผึ้ง เอาไว้อะไรลงตัวค่อยมาเพิ่มเฉดสีอีกที เธอวางแผนคร่าว ๆ ไว้แล้ว ทั้งสินค้าที่จะออกช่วงเทศและแบบลิมิเต็ด แป้งฝุ่นคุมมันโปร่งแสง 10 ตลับ ดินสอเขียนคิ้ว 10 แท่ง ทีแรกตั้งใจจะขายน้ำตาลอ่อน คิดอีกทีเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเข้มหน่อยดีกว่า คนส่วนมากผมดำ ที่ลืมไม่ได้เลยคือเมคอัพรีมูฟเวอร์และสำลี เธอเน้นย้ำกับพี่สาวเสี่ยวมี่ว่าให้อธิบายกับลูกค้า ‘ว่าเครื่องประทินโฉมนี้ติดทนนัก ต้องใช้สมุนไพรสูตรพิเศษสำหรับล้างเท่านั้น ห้ามทิ้งไว้ข้ามคืนเด็ดขาด อาจทำให้เกิดสิวหรืออาการอื่น ๆ ได้ ความสะอาดคือสิ่งสำคัญ หากล้างสิ่งสกปรกออกหมดยามลงน้ำมันบำรุงผิวจะเห็นผลดีกว่าการล้างหน้าไม่สะอาด’ ถึงอยากจะขายชุดล้างหน้ามาก ๆ หน่อย แต่ก็ต้องกลั้นใจให้ไปเพียง 10 ชุดเท่านั้น เพราะนี่คือการสำรวจตลาด ความพึงพอใจและผลตอบรับต่อตัวสินค้าจะทำให้เธอกำหนดทิศทางของการค้าได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้เธอกลับมาถึงบ้านแล้ว ใกล้ได้เวลาอาหารเย็น เธอต้องรีบจัดข้าวของและทำอาหารเย็นโดยไว ว่ากันตามตรง สามีเธอวันนี้เหมือนคนไร้ตัวตนโดยแท้ เรื่องหย่าเธอคงไม่หย่า การหย่าไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น สามีเธอผิดก็หลายเรื่องแต่การใช้ชีวิตครอบครัวมันมากกว่านั้น มันยุ่งยากและซับซ้อน และเธอก็ไม่ยอมหย่าแน่ หย่าแล้วเปิดทางให้นางเอกเข้ามาแทนที่หรอ ฝันอยู่หรอจ๊ะอีหนู ไม่หย่า! ไม่คืนดี! ไม่ให้คนอื่นมาคาบไปหรอก! ผัวมันหาง่ายนักรึไง! ยิ่งยุคที่การหย่าเป็นเรื่องน่าอายแม้เธอจะไม่สนใจแต่เธอไม่สนใจความรู้สึกลูกไม่ได้ อยู่กันแบบหมางเมินไปจนกว่าเธอจะเลิกคิดเรื่องลูกเธอเมื่อไหร่ เธอถึงจะเริ่มดีกับเขาวันนั้นแหละ มาทรมานใจไปด้วยกันนะที่รัก
“ปัง ปัง ปัง ซูฉี! ปัง ปัง ปัง” นั่นไงนึกไว้อยู่แล้วเชียว
“ลูกรีบกินกันข้าวเร็วเข้า”ตอนนี้เธอกับลูกกำลังกินข้าวเย็นกัน พึ่งเริ่มได้ไม่นานก็มีเสียงแม่สามีสุดที่รักและสะใภ้ใหญ่คนเอื้ออารีมาตะโกนเสียงโหวกเหวโวยวาย
มันจะเรื่องอะไรอีก ถ้าไม่ใช้เรื่องของเต็มเกวียนที่เธอซื้อมา บ้านเธอดันอยู่กลาง ๆ หมู่บ้าน ทำอะไรบ้านชาวบ้านรู้หมดแทบทุกเรื่อง นี่ก็คงมาขอแบ่งของไม่ก็มาเอาไปหมดเพราะคิดว่าเงินลูกชายซื้อเป็นแน่
“ท่านแม่ มามีอันใดกับข้าหรือเจ้าคะ”ถึงคำพูดจะดูอ่อนหวาน แต่น้ำเสียงนั้นไม่ใช่เลย
“เจ้า..เป็นสะใภ้อย่างไร แม่สามีกับพี่สะใภ้มาเยี่ยม ใยไม่รีบเชิญเข้าบ้านไปนั่งจิบชา” สะใภ้ใหญ่คนนี้ เธอไม่แน่ใจว่าพี่สามีของเธอไปพบนางจากที่ใด รูปร่างหน้าตาก็พอใช้ได้ แต่กริยามารยาทเรียกได้ว่าหาแทบไม่เจอ จะว่าร้ายก็ไม่เชิง นางเป็นเหมือนคนไม่รู้กาลเทศะและสถานการณ์เสียมากกว่า เหมือนพวกคนสวยไร้สมองที่คนอ่านจะชมว่าน่ารัก แต่ลองมาเจอด้วยตัวเองแล้วอยากหยุมหัว