6

1109 Words
ในขณะที่พิมพ์ดาวกำลังถูกติณณภพพยายามจะยัดเข้าไปในรถ หญิงสาวก็เกือบหยุดหายใจเมื่อเห็นดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขม็งมาที่แผ่นหลังของติณณภพแล้วกระชากอย่างแรงจนหงายถอยหลัง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วจนดูดุกร้าว ใบหน้ายับยุ่งด้วยความโกรธจัด “ปล่อยเธอซะ แล้วรีบไสหัวไปจากที่นี่ ถ้าคุณติณไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ” ติณณภพหันขวับมามองจ้องด้วยแววตาวาวโรจน์ แล้วเห็นว่าเจ้าของเสียงคือคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา “หมออย่ายุ่ง เรื่องของแฟนเขาจะตกลงกัน” “ผมว่าคุณติณเข้าใจผิดไปคนเดียวหรือเปล่า” ติณณภพรู้สึกเสียหน้า กรามแกร่งบดเข้าหากัน ดวงตาวาวดุจ้องตาคนพูด“แล้วหมอเสือกอะไรด้วยวะ” แรกเริ่มก็ไม่ได้ชังน้ำหน้าไอ้หมอฟันนี่หรอก แต่พักหลัง ติณณภพมักจะเห็นลูกชายของหมอปราบแวะเวียนมานั่งกินขนมในบ้านของพิมพ์ดาวบ่อยๆ ก็พอมองออกว่าหมอนี่ร้ายนัก คิดจะใช้ลูกเป็นพ่อสื่อ เมื่อติณณภพยังไม่ยอมปล่อยมือจากการกอบกุมตัวของพิมพ์ดาวไว้ ปราบทัพจึงต้องเป็นฝ่ายดึงมือของเธอ แล้วพาร่างสวยมาอยู่เคียงข้างเขา ทำให้ติณณภพได้แต่ยืนมองตาเขม็งอย่างขัดเคืองใจ แม้รูปร่างจะพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่หมอปราบนอกจากเป็นหมอแล้วยังเคยเป็นประธานชมรมมวย อีกทั้งเป็นนักมวยตัวแทนของมหาวิทยาลัยเขาด้วย และยังมีกิตติศัพท์เลื่องลือว่าถอนฟันด้วยหมัดเดียว ความคิดที่อยากถอนฟันหมอฟันที่บังอาจมายุ่งเรื่องของเขาเลยได้แต่คิด สถานการณ์นี้ เขาตกเป็นรอง นอกจากปราบทัพจะทำตัวเป็นฮีโร่โผล่พรวดเข้ามาแล้ว สายตาของติณณภพยังเห็นรถของสายตรวจกำลังมุ่งตรงมาทางนี้ จากนั้น ตำรวจสองนายก็เดินลงมาจากรถยนต์ “ที่ติณทำไปก็เพราะรักพิมพ์ ไว้ติณจะมาอธิบายวันหลัง” พูดพลางมองหน้าพิมพ์ดาว พิมพ์ดาวไม่อยากพูดอะไรอีก รู้ตัวว่า ต่อไปนี้ เธอจะวางใจปล่อยให้เขาเข้าใกล้แบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว “มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” เสียงสายตรวจดังขึ้นมา ทำให้คนที่คิดจะทำผิดตัดสินใจสอดตัวเข้าไปในรถเบนซ์สีดำมันปลาบ แล้วรีบขับออกไปจากที่เกิดเหตุ พิมพ์ดาวถอนใจเมื่อเห็นปราบทัพมองจ้องอยู่ “ยังไงคุณพิมพ์ก็ควรลงบันทึกประจำวันไว้หน่อยนะครับ” พิมพ์ดาวพยักหน้า “ค่ะ” แล้วหันไปคุยกับสายตรวจที่เดินมาถึงพอดี เธอเองก็รู้สึกสับสนว่าเรื่องเพิ่งเกิด ทำไมสายตรวจถึงรู้เรื่องเร็วนัก “สวัสดีค่ะคุณตำรวจ” พิมพ์ดาวยกมือพุ่มไหว้ด้วยท่าทีสุภาพ “เราได้รับแจ้งเหตุ ก็เลยเข้ามาดูครับ” พิมพ์ดาวอธิบายเรื่องราวให้กับสายตรวจฟังคร่าวๆ ทว่า ตัวเธอเองยังปลอดภัยดี ไม่ได้รับความเสียหาย แล้วก็ไม่อยากให้เรื่องบานปลายมากกว่านี้ อย่างน้อย เธอกับติณณภพก็เป็นเพื่อนกันมาหลายปี สักครู่ สายตรวจก็ขอตัวกลับไป จากนั้นพิมพ์ดาวก็หันกลับไปขอบคุณปราบทัพที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา “พิมพ์ต้องขอบคุณหมอมากนะคะที่มาช่วยพิมพ์ทันเวลา พิมพ์ไม่คิดว่าติณเขาจะกล้าทำแบบนี้” “ไม่เป็นไรครับ โชคดีแล้วที่คุณพิมพ์ปลอดภัย” “คุณหมอโทร.แจ้งตำรวจหรือคะ” “เปล่าครับ ผมไม่ได้แจ้ง ผมรู้จากป้าโสภาว่าคุณพิมพ์กำลังเกิดเรื่องก็เลยรีบมาดู” “แล้วถ้างั้นใครโทร.ไปแจ้งคะ” ดวงหน้าสวยฉายแววสงสัย จากนั้นดวงตาคู่หวานก็เห็นร่างอวบกลมเปิดประตูวิ่งออกมาจากบ้าน พิมพ์ดาวย่อตัวพร้อมอ้าแขนรับร่างอวบๆ “ใจดี ออกมาทำไมคะ” ใจดีกระโจนร่างอวบกลมนุ่มนิ่มเข้าหาแม่ ซุกใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตาออดอ้อนด้วยความเป็นห่วง “แม่ขาเจ็บไหมคะ” เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นจากอกแม่ จากนั้นมือป้อมๆ ก็เอื้อมไปจับแขนขวาของพิมพ์ดาว เมื่อเห็นรอยแดงเป็นปื้น แม่หนูก็สูดลมเข้าปากจนแก้มป่องเหมือนปลาทอง แล้วเป่าลมใส่ที่รอยแดงนั้น “โอม...เพี้ยง แม่ขาหายเจ็บนะคะ” ใจดีทำเหมือนตอนที่แกวิ่งชนโต๊ะและพิมพ์ดาวทำแบบนี้ “แม่ขาหายเจ็บไหม หายไหมคะ” ใจดีเงยหน้าถาม แววตาที่เคยสดใสมีน้ำตาคลอหน่วยตา พิมพ์ดาวเห็นสีหน้าของลูกสาวตอนนี้แล้วเจ็บยิ่งกว่าถูกติณณภพกระชากแขนแรงๆ นึกโกรธเขามากขึ้นที่ทำให้ใจดีต้องเห็นภาพที่แกไม่ควรเห็น พิมพ์ดาวลูบศีรษะทุยๆ ของลูก แล้วโอบกอดแกไว้ พลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ใจดีเป่าให้ แค่นี้ แม่ขาก็หายเจ็บแล้วค่ะ” เท่านั้น แม่หนูก็ยิ้มแก้มปริ ดีใจที่ช่วยให้แม่หายเจ็บแขน แต่เสี้ยววินาทีก็ชักสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาใหม่ คิ้วเข้มสวยยู่เข้าหากันอย่างไม่พอใจ “ใจดีไม่รักลุงติณแล้วค่ะ ลุงติณเป็นคนใจร้าย ทำให้แม่ขาเจ็บ” ดวงตาใสซื่อที่เคยแวววาวเหมือนตาลูกกวางถลึงขึ้น จากนั้นก็ยืนขึ้นเท้าแขนสองข้างบนเอวตันๆ ที่แม้จะเล่นฮูลาฮูปมาถึงเจ็ดวันก็ยังหนาเท่าเดิม ไม่คอดบางเหมือนของคนเป็นแม่ เพราะรู้สึกขัดอกขัดใจ “ลุงตำรวจทำไมไม่จับลุงติณคะ” แม่หนูน้อยเงยหน้าถามคนเป็นแม่ เพราะแม่เคยบอกว่าหน้าที่ของตำรวจคือคอยปกป้องคนดีและจับกุมคนร้าย ทำให้พิมพ์ดาวหันไปสบตากับปราบทัพที่ยิ้มออกมาแล้วมองใจดีอย่างเอ็นดู ที่จริง เขาเคยตกลงกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วว่า หากน้องปกป้อง ลูกคนแรกมีอายุสักสี่ห้าขวบก็จะมีลูกคนที่สอง ซึ่งเขาอยากได้ลูกสาว ใช่ ลูกสาวช่างพูด ช่างเจรจา น่ารักเหมือนแม่หนูใจดีคนนี้ที่ลูกชายเขาแอบปลื้ม ปราบทัพมองหนูน้อยอย่างเอ็นดูแล้วสบตายิ้มเล็กน้อยกับพิมพ์ดาว “คราวนี้ คุณพิมพ์คงทราบแล้วใช่ไหมครับ ว่าใครโทร.ไปแจ้งตำรวจ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD