บทนำ
หลังจากกรำงานหนักติดต่อกันนานกว่ายี่สิบชั่วโมง ร่างกายที่เริ่มจะต่อสู้กับความอ่อนล้าไม่ไหวก็ออกอาการประท้วง เปลือกตาหนักอึ้ง ปากหาวออกมาเรื่อย ๆ จนน้ำตาซึม หากไม่ได้ดื่มกาแฟที่ทั้งขมและเข้มมากถึงสามแก้ว คนที่กำลังเหนื่อยล้าก็คงไม่ได้มาร่วมงานในค่ำคืนสำคัญ
หลังจากทักทายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแล้ว เจ้าของร่างสูงใหญ่ก็ลากเพื่อนสนิทไปสังสรรค์ต่อที่บาร์ของโรงแรมเพราะอยากอยู่เงียบ ๆ ก่อนกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ทว่านั่งดื่มได้ไม่ถึงยี่สิบนาที เพื่อนตัวดีก็บอกว่ามีคนอยากจะทำความรู้จัก ทิ้งให้คนเหงานั่งอยู่ตามลำพัง
มีหรือที่ผู้ชายหล่อร้าย เสน่ห์ล้นจะอยู่คนเดียวได้นาน
มือหนารับซองคีย์การ์ดจากสาวสวยที่จำได้ว่าเป็นเซลล์ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่เขาจำไม่ได้แล้วว่าเคยนอนด้วยกันหรือว่าแค่ไปกินข้าวเฉย ๆ
ไม่ได้ขี้ลืม แต่แค่ไม่คิดจะเก็บเอามาใส่ใจ
นายแพทย์กองทัพ ชัยภูรี กุมารแพทย์หนุ่มสุดหล่อวางคีย์การ์ดไว้บนบาร์ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสนิทที่เพิ่งจะวิ่งหน้าตาตื่นกลับมา เดาว่าสาวที่นัดเจอคงจะไม่สวยอย่างที่คิด
“มึงจะไปไหน” ศัลยแพทย์ออร์โธปีดิกส์วางโทรศัพท์กับซองสีขาวลงบนบาร์ พร้อมกับขอเครื่องดื่มที่แรงที่สุดสองแก้ว หน้าตาหล่อทะเล้นดูไม่ค่อยมีความสุขนัก
“ไปหาความสุข” คนตัวใหญ่ตอบสั้น ๆ หยิบคีย์การ์ดและขอตัวไปพักผ่อนในแบบที่ตัวเองชอบทันที
ไม่ได้นอนก็ไม่เป็นไร ขอออกกำลังกาย ‘ตรงนั้น’ ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ความอ่อนเพลียบวกกับเหล้าที่ดื่มไปหลายแก้วทำให้สองขาขยับลำบาก แต่เบื้องล่างกลับตื่นเต้นที่จะได้ขยับเขยื้อนผ่านความอ่อนนุ่มและฉ่ำชื้น จริง ๆ ตัวเขาเองก็ไม่ได้หมกมุ่นอะไร แต่แค่ร่างกายมันเรียกร้องเพราะไม่ได้ปลดปล่อยอย่างถูกต้องมาเป็นเวลานาน
เสียงประตูเปิดหลังจากทาบคีย์การ์ดลงบนเลขห้องที่เขียนไว้บนซองสีขาว กองทัพก้าวขายาว ๆ ไม่เสียเวลาเปิดไฟ ในนาทีนี้เขาไม่อยากเห็นหน้าของใครให้เกิดความผูกพัน
“เริ่มกันเลยนะครับ พี่รอไม่ไหวแล้ว”
สูทราคาแพงถูกโยนทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ตามมาด้วยเนกไทและเสื้อสีขาว ขยับตัวอีกไม่ถึงนาที ร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็เกือบจะเปลือยเปล่า เหลือเพียงกางเกงชั้นในสีเข้มเพียงแค่ชิ้นเดียว
กองทัพยิ้มกริ่ม คิดเอาเองว่าสาวสวยบนเตียงคงอยากจะเล่นบทรักเงียบ ๆ ให้เขาช่วยจัดการทุกอย่าง แกล้งทำเป็นนอนคว่ำหน้าเพื่อเรียกความตื่นเต้น ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเจอกันไม่ถึงยี่สิบนาทีที่ผ่านมา
เขาลูบไล้เดรสสีชมพูหวานที่เห็นได้จากโคมไฟที่ส่องมาจากมุมห้อง นึกขำตัวเองที่เมาจนตาลาย จำไปได้ยังไงว่าเซลล์คนสวยสวมเดรสเกาะอกสีเทา
“รินทร์เหนื่อยค่ะ ขอนอนต่ออีกนิดนะคะ”
ผู้หญิงของกองทัพในค่ำคืนนี้มีชื่อว่ารินทร์ ทว่าเขาไม่ใส่ใจ เพราะยิ่งรู้มากเท่าไหร่ เรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น
“รินทร์นอนเฉย ๆ ได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมทำให้…”
ชื่อรินทร์ เขาไม่คุ้นว่าเคยยุ่งกับผู้หญิงที่มีชื่อว่ารินทร์มาก่อน หรือว่าจะเป็นรินลดา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็แทนตัวว่าลดา หรือว่าจะเป็นน้ำริน หรือว่าไพลินนะ?
กลิ่นหอมของเธอลบคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัว ข้างล่างปวดหนึบ อยากจะรุกหนักให้สาสมแก่ความต้องการ เขาอัดอั้นมานานและอยากจะระบายอย่างเร่งด่วน แต่ในเมื่อไม่ใช่ผู้ชายเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง การเล้าโลมให้อีกฝ่ายพร้อมที่จะมีความสุขด้วยกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นิ้วเรียวที่จับมีดผ่าตัดมาตลอดบ่าย ค่อย ๆ เกี่ยวเอาแขนเสื้อทรงตุ๊กตาของเธอลงมา คนสวยของเขายังคงนอนคว่ำ คงอยากจะเล่นเกมบนเตียงด้วยกันจริง ๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร
มือใหญ่สัมผัสเรือนร่างของเธออย่างอ่อนโยน ขยับรูดซิปด้านหลังของเดรสตัวสวยอย่างช้า ๆ เผยแผ่นหลังเนียนนุ่มจนเขาอยากจะเดินไปเปิดไฟให้เห็นทุกอย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้ลงมืออย่างเร่าร้อน… รุนแรง
“ขออีกห้านาทีนะคะ” เขาไม่ได้สนใจฟัง รั้งตัวเธอขึ้นมานิดหน่อยก็ดึงเดรสตัวสวยลงมากองที่เอว ยกบั้นท้ายอีกนิดมันก็หลุดลงมากองที่ข้อเท้า
คู่ขาในค่ำคืนเหงา ๆ ของกองทัพสวมบราเซียชมพูหวาน แพนตี้เข้าชุดกัน เธอขยับกอดตัวเองเพราะความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ก่อนจะค่อย ๆ ควานหาผ้าห่ม ทดแทนเสื้อผ้าที่ถูกกำจัดไป
มือเล็กสะเปะสะปะไปทั่วและวางนิ่งลงบนความอุ่นร้อนที่ขยายใหญ่มาได้สักพักแล้ว เธอลูบไล้มันอย่างไม่แน่ใจ ในขณะอีกที่อีกฝ่ายครางออกมาเบา ๆ เพราะรู้สึกดีเกินจะห้ามใจไหว แต่พอมือเล็ก ๆ นั่นเปลี่ยนเป้าหมายไปหยิบเอาหมอนใบโตมากอด คนที่อดทนเก่งมาตลอดก็หมดความอดทนทันที
กองทัพพลิกตัวเธอนอนหงาย ส่งนิ้วสากเข้าสำรวจความคับแคบ มันแห้งสนิทจนน่ารำคาญ เขาจึงตั้งใจว่าจะทาบจูบลงบนต้นคอขาว ๆ ปลุกปั่นอารมณ์หวามไหวให้ร่างกายเธอพร้อมขึ้นมาบ้าง ทว่าพอเห็นหน้าของคู่นอนชัดขึ้นหน่อย เขาก็รีบผละตัวออกห่างทันที
ไม่ใช่เซลล์คนสวยที่เขาเจอในบาร์
สาวสวยของเขายังเด็ก แถมยังดูคุ้นหน้าอย่างประหลาด มองยังไงก็ไม่ถึงยี่สิบห้าปี แต่เด็กสมัยนี้โตไวและมีความต้องการ หากเธอจะวางแผนอยากจะได้ใครสักคนมาเติมเต็มความปรารถนา เขาเองก็ไม่ควรปฏิเสธ
ใบหน้าหล่อจัดก้มสูดเอาความหอมของกายสาว หน้าอกของเธอมีขนาดสมตัวและทรงสวยมาก มันล้นจากบราเซียตัวเล็ก ปกติเขามักจะใช้เวลาชื่นชมเนิ่นนาน แต่ความเป็นชายกำลังประท้วงหนัก บอกว่าถ้าไม่ถูกโอบรัดภายในสิบนาที มันคงจะคลั่งตายแน่ ๆ
นิ้วสากแตะวนรอบดอกไม้อีกครั้ง มันยังไม่พร้อม ไม่พร้อมจนเขานึกสงสัยว่าทำไม ทว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กลับเปลี่ยนความสงสัยให้เป็นความอยากจะเอาชนะ กองทัพเคลื่อนตัวลงต่ำและดึงแพนตี้ตัวจิ๋วลงมาเล็กน้อย ก่อนจะทาบริมฝีปากหยักสวย เชยชิมดอกไม้อันแสนหวานทันที
เสียงครางดังขึ้นเบา ๆ พร้อมกับความพยายามในการถอยตัวหนี ทว่ากองทัพกลับยึดบั้นท้ายสวยเอาไว้แน่น ก่อนกดปากย้ำซ้ำ ๆ สลับจ้วงแทงให้ลึกที่สุดเท่าที่ลิ้นของเขาจะทำได้ มือหนาบีบเคล้นทรวงอกอย่างสนุกมือ
หากเขาลองเปิดไฟดูสักหน่อยก็จะพบว่าผิวขาวราวกับน้ำนมของเธอแดงไปหมดแล้ว…
ใช้เวลาไม่นาน สาวสวยที่อยู่ใต้ร่างก็สั่นสะท้านและกรีดร้องออกมาเบา ๆ ใบหน้าสวยจัดที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดีมีเหงื่อผุดพราย แต่แทนที่สมหวังแล้วจะตอบแทนกันบ้าง เจ้าตัวกลับพลิกตัวนอนตะแคงข้างและผล็อยหลับไป
“แบบนี้ไม่ได้นะคุณ” กองทัพกัดฟันกรอด เขาอุตส่าห์ส่งเธอล่วงหน้าเข้าสู่เส้นชัยแห่งความปรารถนา และจะไม่มีวันยอมถูกทิ้งเอาไว้กลางทางแบบนี้โดยเด็ดขาด
มือหนาสาวชักความเป็นชายของตัวเองขณะค้นหาถุงยางที่พกติดกระเป๋ามาด้วย แต่ก่อนที่จะได้สวมอุปกรณ์ป้องกัน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นรัว ๆ ทำเอาคนที่กำลังต้องการจนแทบคลั่งอารมณ์เสียจนสบถคำหยาบออกมาหลายคำ เขาดึงแพนตี้ตัวเล็กกลับเข้าที่ก่อนจะห่มผ้าให้เธอ หลังจากสวมกางเกงเสร็จแล้วก็วิ่งไปเปิดประตูห้อง
“ไอ้กองทัพ มึงทำอะไรลูกกู!” สิ้นประโยคสำคัญ คนฟังก็ได้รับหมัดหนักเน้น ๆ จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ทันที
หลังจากสะบัดศีรษะแรง ๆ เพื่อไล่ความมึนสองสามครั้ง เขาก็ตระหนักได้ว่าเพื่อนสนิทและนางพยาบาลอีกคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันก็ยืนเป็นพยานแห่งความซวยอยู่ด้วย
เพื่อนสนิทของกองทัพยืนหน้าซีด ส่วนพยาบาลที่เขาจำชื่อไม่ได้นั้นสาวเท้าก้าวตามผู้อำนวยการเข้าไปแล้ว เธอมองร่างเล็กที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงสลับกับเขาอย่างไม่เข้าใจนัก
“น้องรินทร์เป็นยังไงบ้างคะผู้อำนวยการ”
รินทร์… เอรินทร์? ลูกสาวคนเดียวของผู้อำนวยการ?
ฉิบหายแล้วไหมล่ะ!