เป็นได้แค่เพื่อน (ต่อ)

1677 Words
“ค่ะ ไม่เบี้ยวแน่นอน แต่ต้องรีบกลับมานะคะ อย่าให้แสนรอนาน คิดถึง” ภควัติยิ้มบางๆ พลางส่ายหน้าให้กับท่าทางออดอ้อนของคนที่ตอนนี้เขาก็ระบุสถานะให้ไม่ได้ ว่าตกลงแล้วระหว่างเขาและเธอเป็นอะไรกัน รู้แต่ว่าเขาขาดเธอไม่ได้จริงๆ แสนรักเดินออกมาส่งเขาที่รถ โบกมือให้ก่อนจะแยกย้ายกันที่หน้าคลินิก แสนรักเดินกลับมานั่งคิดอะไรอยู่ตามลำพังภายในห้องทำงาน เธอกับเขาคบกันมาเจ็ดเดือนแล้ว ทุกอย่างเข้ากันได้ดี เธอเองก็ชอบเขามากแต่ว่าเธอยังไม่แน่ใจว่าจะไปกันรอดไหมดังนั้นสถานะเพื่อนจึงยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเธอ คำว่าแฟนที่เขาต้องการเธอขอสงวนไว้ก่อน ให้เขาได้ลุ้นไปเรื่อยๆ อะไรที่ได้ไปง่ายก็จะหมดความตื่นเต้นเร็ว เธอรู้ว่าภควัติเป็นคนหล่อ ผ่านสาวๆ สวยๆ มามาก เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะยึดเหนี่ยวเขาไว้ด้วยอะไร และไม่อยากเหนื่อยที่ต้องคิดด้วย ดังนั้นจึงให้คำตอบตัวเองว่าเป็นตัวของตัวเอง รักตัวเองให้มากเข้าไว้ดีกว่า เย็นวันเดียวกันแสนรักขับรถตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับเพื่อนสนิททั้งสองคนไว้ ทั้งกีรณาและผดาชมัยเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั่งถึงตอนนี้ที่ทั้งคู่แต่งงานมีครอบครัวและหย่าร้างลงแล้วแต่ทั้งหมดก็ยังไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม กีรณามีลูกสาววัยสามขวบ ส่วนผดาชมัยไม่มีลูก วันนี้พวกเธอต่างมีเวลาว่างจึงนัดมาเจอกันหลังจากที่ไมได้กินข้าวด้วยกันมาเกือบสองเดือน ต่างคนต่างมีเรื่องเม้าท์มอยหอยสังข์มากมาย เตรียมมาเล่าให้กันฟัง แค่เพียงแสนรักหย่อนสะโพก วางกระเป๋าสะพายลง บทสนทนาก็หลั่งไหลมาราวกับเขื่อนแตก “ยายแสนตกลงเลิกกับคุณท็อปแล้วจริงๆ เหรอ เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเลิกกัน คบกันมาได้ตั้งเจ็ดเดือน ฉันคิดว่าแกจะตกร่องปล่องชิ้นกับสุดหล่อคนนี้ซะแล้ว” กีรณาถามขึ้นทันที ประกายตากับท่าทางที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ทำให้แสนรักหลุดขำ “โอ๊ย อยากรู้อะไรขนาดนี้จ๊ะ ยายหนึ่ง ให้ฉันนั่งพักเหนื่อยดูดน้ำสักอึกก่อนไหม มาเหนื่อยๆ รถติดสุดๆ เราไม่น่านัดกันวันศุกร์แห่งชาติแบบนี้เลยนะ” แสนรักบ่นเพื่อน พลางยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดูด ส่วนอาหารนั้นเพื่อนๆ ก็สั่งไว้ให้แล้วเพราะรู้ใจกันดีว่าจะกินอะไรกันบ้าง ดังนั้นคนมาถึงก่อนจึงสั่งไว้รอเลย เพื่อไม่ให้เสียเวลา “ฉันว่างวันนี้นี่ยะ คุณแม่เพิ่งมารับตัวหนูจุ๋มไปอยู่ด้วย ช่วงนี้ฉันเลยจะว่างหน่อย” กีรณาบอก หนูจุ๋มคือลูกสาวของเธอทีมีคุณยายคอยช่วยเลี้ยง หากแต่ก่อนหน้านี้เธอรับลูกสาวมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพราะทนคิดถึงไม่ไหว “แล้วไม่คิดถึงลูกเหรอ ไหนว่าอยากเลี้ยงเอง” แสนรักถาม เริ่มตักอาหารเข้าปากไปด้วย ขณะที่ผดาชมัยก็หันไปมองอยากรู้เช่นกัน “นั่นสิหนึ่ง แกบ่นคิดถึงลูกให้ฉันฟังจนหูชา แล้วทำไมให้แม่เอาลูกไปเลี้ยงล่ะ” กีรณาถอนใจเฮือก “ตอนแรกฉันว่าจะจ้างพี่เลี้ยงแต่สัมไปหลายคนก็ไม่ถูกใจ บางคนมีประสบการณ์แต่ว่าติดขัดเรื่องวันหยุด เสาร์อาทิตย์ไม่ว่าง พอเจอคนที่อยู่ได้ตลอดทั้งอาทิตย์ก็ดันไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก เลยไม่เอาดีกว่า กลัวเลี้ยงลูกเราไม่ดี แม่เลี้ยงเดี่ยวแบบฉันนี่มันยุ่งยากจริงๆ เนอะ” กีรณาพูดแล้วหน้าหม่นลง ขณะที่แสนรักแลกสายตากันกับผดาชมัย กีรณาเสียสามีให้กับพี่เลี้ยงลูก ทำงานหาเงินเลี้ยงลูกตัวคนเดียว แม้ไม่ลำบากแต่ก็เหนื่อยไม่น้อย “ถ้าไม่รับพี่เลี้ยงก็ต้องปล่อยให้ลูกอยู่กับยายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เหรอ” แสนรักถามต่อ “ทำไงได้ล่ะ พี่เลี้ยงที่มาสัม ฉันไม่ถูกใจเลยสักคน อีกอย่างนะให้แม่เลี้ยงก็ดีแล้ว ฉันไม่ไว้ใจใครนอกจากแม่” กีรณาบอก แล้วเปลี่ยนเรื่อง “เออ ว่าแต่เรื่องของแสนเถอะ ตกลงเลิกกับคุณท็อปจริงเหรอ” “ไม่ได้เลิก” แสนรักแอบขำไม่ได้ที่เพื่อนวกกลับมาคุยเรื่องเธออีกครั้ง “อ้าว แล้วทำไมมีข่าว” ผดาชมัยเป็นฝ่ายถามบ้าง “ไม่ได้คบแล้วจะเลิกได้ยังไง” “แสน” กีรณาเรียก “เป็นเพราะเรื่องพี่พฤกษ์หรือเปล่าถึงทำให้แสนไม่ไว้ใจใคร แสนก็เหมือนฉันใช่ไหม ที่ผิดหวังในตัวคนที่เราไว้ใจเลยไม่กล้าเปิดรับใคร” แสนรักมองหน้าเพื่อน กีรณาทั้งสวยทั้งทำงานเก่งเป็นเลขานุการของCEOบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ แต่ว่าตกม้าตายเมื่อสามีแอบกินกับพี่เลี้ยงที่รับมาเองกับมือ “ก็มีบ้างนะ” แสนรักยอมรับตรงๆ อย่างไม่อาย “ฉันกับดาเข้าใจแสนนะ แต่แสนรู้ไหม พี่พฤกษ์เลิกกับยายฉัตรแล้วนะ เห็นว่าเลิกกันได้สักเกือบสามเดือนแล้ว” กีรณาเล่าต่อ “...” “ทำหน้างงแบบนี้ ไม่รู้เรื่องล่ะสิ” แสนรักส่ายหน้า “ฉันไม่สนใจหรอก ทำไมฉันต้องอยากรู้เรื่องของพวกเขาด้วย” “สมน้ำหน้ายายฉัตร แย่งแฟนเพื่อนสุดท้ายก็ถูกเขาบอกเลิก พี่พฤกษ์ไม่ได้คิดจะเอายายฉัตรจริง แต่ยายฉัตรมันจ้องจับ มันคิดว่าเอาพี่พฤกษ์อยู่” ผดาชมัยเสริม “เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะ” แสนรักพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จริงๆ แล้วเธอก็ไม่อยากเอ่ยถึงสองคนนี้เลยสักนิด หากแต่พอฟังแล้วก็อดร่วมวงด้วยไม่ได้ “ยังไงฉันก็สมน้ำหน้ายายฉัตรอยู่ดี เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าแสนกับพี่พฤกษ์เป็นแฟนกันอยู่ยังคิดจะแย่ง ถูกทิ้งแบบนี้ไม่รู้เป็นไงบ้างแล้ว” กีรณาพูด เธอเกลียดคนที่ชอบแย่งแฟนคนอื่นเพราะเจอมากับตัว จึงมีอารมณ์ร่วมมากกว่าผดาชมัยมาก “แล้วไปรู้เรื่องของยายฉัตรได้ยังไงกัน” แสนรักอดถามไม่ได้ “ก็ในไอจีน่ะสิ ยายฉัตรลบรูปคู่กับพี่พฤกษ์ออกจนหมด แถมมีแคปชั่นแปลกๆ แบบว่าคนอกหัก มักไม่เหลือใครเพื่อนก็ไม่มี ขอคนจริงใจเข้ามาในชีวิตบ้าง โถ... ตอนตัวเองแย่งแฟนเพื่อนไปทำไมไม่คิดบ้าง” “แสนไม่ได้ข่าวของพี่พฤกษ์เลยเหรอ เขาไม่ติดต่อมาบ้างเหรอ” ผดาชมัยถามคนที่เคยเป็นอดีตแฟนกับพฤกษ์ “ไม่นะ ฉันลบเบอร์เขาออกหมดแล้ว” “ดีแล้วล่ะ ฉันก็ไม่อยากให้แสนไปยุ่งกับคนพรรค์นั้นอีก เลิกยุ่งได้ก็ดี ตกลงตอนนี้โสดว่างั้น” “ไม่มีแฟนก็ต้องเรียกว่าโสดสิ” แสนรักบอกยิ้มๆ อดนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของใครอีกคนขึ้นมาไม่ได้ คนที่ชอบทวงคำว่าแฟนแต่เธอก็ไม่ยอมให้เขาเสียที... คิดแล้วพยายามผลักมันลงไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้คำนั้นแต่แค่ไม่มั่นใจจริงๆ “ฉันอยากเห็นแสนมีแฟนนะ แต่ไม่อยากให้คบกับคนเจ้าชู้ คุณท็อปเองก็มีสาวๆ เยอะ แม้จะเลิกไปหมดแล้วก็เถอะ แต่ถ้าแสนจะมีแฟนก็หาคนที่อบอุ่น เป็นผู้ใหญ่แบบพี่ตฤณพี่ชายแสนดีกว่าฉันจะสนับสนุน” กีรณาบอกด้วยความเป็นห่วง เธอไม่อยากให้เพื่อนรักต้องมาเจ็บอีก “จะหาได้ไหมอ่ะ แบบคุณพ่อ และก็แบบพี่ตฤณน่ะ ฉันอาจจะไม่ได้โชคดีขนาดนั้น” แสนรักว่าพลางถอนใจ เธอก็อยากได้ผู้ชายดีๆ เป็นแฟมิลี่แมนเหมือนพ่อและพี่ชาย แต่จะได้แบบนั้นไหม มันก็เหมือนเสี่ยงเลือกล็อตเตอรี่เลยว่าจะถูกรางวัลหรือว่าจะกินแห้ว การมีแฟนและคบไปให้ถึงแต่งงานมีลูกจึงกลายเป็นเรื่องไกลตัว ตัวอย่างของเพื่อนสนิททั้งสองที่คนหนึ่งเลิกกับสามีเพราะไปกันไม่ได้ ส่วนอีกคนถูกสามีทรยศทำให้แสนรักรู้สึกกลัวการมีชีวิตคู่และไม่ไว้ใจใครง่ายๆ และยังประสบการณ์ของตัวเองที่ถูกเพื่อนรักกับแฟนร่วมกันหักหลังจึงทำให้ขยาด ภควัติอาจจะเป็นได้แค่เพื่อนซึ่งมันเป็นสถานะที่เธอให้เขาได้แค่นี้ในตอนนี้ “ฉันว่าเราเปลี่ยนเรื่องดีกว่า ฉันอยากรู้เรื่องหนูจุ๋ม เป็นไงบ้างซนมากไหมอ่ะ” “มากสิจ๊ะ ยายแสน เธอเป็นแม่ทูนหัวให้หนูจุ๋มต้องหัดไปดูลูกบ้างนะ ปล่อยให้ลูกคิดถึงแม่อยู่ได้” “อยากไปมากแต่ยุ่งงาน” “ไม่ต้องอ้างเลย หนูจุ๋มโทร.มาบ่นคิดถึงแม่แสนทุกวัน” แสนรักรู้สึกผิดทันทีเมื่อฟังกีรณาพูดจบ เธอรับเป็นแม่ทูนหัวให้หนูจุ๋มตั้งแต่แรกเกิด ปกติจะไปหาบ่อยๆ มีช่วงสองสามเดือนหลังที่ยุ่งมากจึงไม่ได้ทำหน้าที่แม่ทูนหัวเลย “วันนี้ฉันคงต้องรีบกลับก่อน เมื่อกี้ก่อนมาถึงร้าน หนูจุ๋มโทร.มาร้องไห้ใหญ่เลย” “หนูจุ๋มเป็นอะไรยายหนึ่ง” แสนรักถาม กีรณารีบโบกมือส่ายหน้า “ไม่ได้เป็นอะไรแต่ร้องจะเอาของเล่นที่ลืมไว้ที่บ้านฉันน่ะสิ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วว่าจะแวะเอาไปให้” “งั้นฉันไปด้วย คิดถึงลูกสาว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD