ขวัญพธู บทที่5.สถานะใหม่...ที่โลกต้องจารึก

1531 Words
แว๊บแรก!! สีหนาทตกใจ...แต่แว๊บต่อไปเอาไงเอากัน ไหนๆ ก็เลยตามเลยมาถึงขั้นนี้แล้วนะ...ขอย้ำ...เขาไม่ได้เริ่มก่อน หากมีความผิดก็แค่กึ่งหนึ่ง ยังไงศาลก็ต้องรับพิจารณา... ชายหนุ่มกดย้ำเรียวปาก เขาบดเบียดและแทรกปลายลิ้นสอดหายเข้าไปในอุ้งปากหวานฉ่ำ ดูดดื่มความหวานละไมที่คะนึงหาทุกค่ำคืน ในความจริงกับสิ่งที่คิดเอาเองแตกต่างกันลิบลับ!! รสจูบครั้งนี้ทลายโลก สะเทือนแผ่นดิน การควบคุมตัวที่เคยมีหลุดกระเด็นหาย มันคงเผ่นแนบเมื่อสีหนาทเริ่มรุกหนัก ฝ่ามือร้อนผะผ่าว ช้อนท้ายทอยเบื้องหลัง กดแนบเรียวปากของเขาเพิ่มขึ้น มอบความหวานฉ่ำตอบแทนคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่ตัวสั่นระริกจนเขาเองยังรู้สึก จึงรีบกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แต่ก็ไม่ยอมหยุดจุมพิตกลีบปากหวานฉ่ำ ยังคงตักตวงความหอมหวานไปเรื่อยๆ โอกาสดีๆ ไม่ได้มากันง่ายๆ เพราะฉะนั้นต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด!! ขวัญพธูร้อนฉ่าไปทั้งตัว... รับรู้รสจูบหวานซ่านซ่าเต็มหัวใจ หลงละเมอไปกับกระแสธารพิศวาสที่ไหลปร่า เบียดตัวเขาหาและแหงนเงยใบหน้าให้ชายหนุ่มได้จุมพิตถนัดขึ้น เนินทรวงอวบอัดเบียดกระแซะแผงอกแน่นตึง ถึงจะมีเสื้อผ้าขวางกันแต่ความร้อนผ่าวจากเรือนกายของสีหนาทก็ยังแผ่กระจายมาถึงตัวเธอ จะไปไกลแค่ไหนขวัญพธูไม่รู้? จะสามารถทำให้สีหนาทเปลี่ยนใจและหันกลับมามองเธอในอีกแง่มุมหนึ่งหรือไม่...ก็ไม่รู้เหมือนเดิม...ขอแค่อ้อมกอดนี้ยังคงกกกอด ขอแค่ริมฝีปากหนาหยักยังแนบเนาเรียวปากของเธอ...แค่นี้เธอก็พึงใจ... ฝ่ามือร้อนระอุหยุดไม่อยู่มันเคลื่อนที่เองตามหัวใจสั่ง...ทั้งบีบเคล้นลูบ คลำ โลมไล้แผ่นหลังนุ่มเนียน จนกระทั่งความร้อนผ่าวเต็มปริบ มือร้อนผ่าวไม่รอช้ามันคืบคลานสู่เป้าหมายที่ปรารถนา ค่อยๆ ลูบคลำและบีบบี้เบาๆ ความนุ่มเนียน แน่นตึง นุ่มหยุ่น เด้งดึ๋ง...เล่นเอาสติสัมปชัญญะของชายหนุ่มขาดผึ่ง!! เป็นไงเป็นกันสิ ไหนๆ ก็เกินเลยมาถึงขั้นนี้ และหลานสาวยอดรักก็ไม่ดิ้นรนขัดขืน เธอแอ่นตัวแนบสนิท ครางแผ่วๆ ดังกระอึกกระอัก เพราะปากของเขาทาบทับปิดสนิท จนเสียงครางแผ่วๆ ไม่สามารถหลุดรอดออกมาได้ ผ้ายืดแนบเนื้อไม่ใช่ปัญหา มือสั่นระริกเคลื่อนที่เข้าครอบครองความนุ่มหยุ่น หลังแหวกคอเสื้อเข้าไปถึงเนื้อใน อุแม่เจ้า!! ...ฟ้าผ่าตอนนี้ ทอร์นาโดเข้า...หรือต่อให้ตึกถล่ม สีหนาทก็ไม่คิดจะปล่อยความอวบอุ่นที่ตัวเองกอบกุมเอาไว้จนเต็มฝ่ามือ!! ปลายนิ้วสะกิดหมุนวนยอดอกแข็งเป็นไต เขาบีบบี้ขยี้แผ่วๆ จนหลานสาวตัวสั่นกระตุก ร่างกายไหวยะเยือก “อืมมม...อุ!! ...อูยยย” เสียงครางหวานๆ ทำให้คุณอาหนุ่มกระชุ่มกระชวย ไหนๆ ก็มีความผิด เพิ่มอีกนิดหน่อยคงไม่เป็นไร...เพราะเขาและเธอมาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปอยู่ที่จุดเดิม... สีหนาทไถลปากลงมาเรื่อยๆ เขาจูบที่ซอกคอเรียวระหงและขวัญพธูให้ความร่วมมืออย่างดี เธอเบี่ยงคอหนี เปิดทางให้คุณอายังหนุ่มได้ซุกไซ้อย่างเต็มที่ และเขาก็ไม่ได้ทำให้เธอผิดหวัง ปากร้อนผะผ่าวไล่ลงมาทั่วๆ แวะเวียนที่เนินอกสวยอวบอิ่มเต่งตึงของเธอ เขาช้อนดันยกขึ้นและพรมจุมพิตอย่างเมามัน ขวัญพธูอดครางออกมาเบาๆ ไม่ได้ มันเป็นความแปลกใหม่ที่ตัวเองไม่เคยรู้ ได้ยินแต่เสียงร่ำลือเรื่องความสุขซ่าน ยิ่งยอดอกถูกริมฝีปากเปียกชื้นอ้าอมและดูดเม้ม หญิงสาวถึงกับตัวสั่น มือกดจิกบ่ากว้างของสีหนาทแน่น “อ๋า....อูย...ยะ...อย่า...” ขวัญพธูร้องครางสะท้าน เธอแอ่นตัวเบียดแน่นกับใบหน้าคมคายที่ซุกซบอยู่กลางอกอิ่มโดยมีมือแข็งแรงดันแผ่นหลังให้แนบชิดมากขึ้น “ขวัญจ๋า...อาสิงห์ขอนะคะ...” เสียงอู้อี้วอนขอ เมื่อทั้งปากและมือกำลังจู่โจมเนินหน้าอกอวบอักที่เคยได้แต่เฝ้าแอบมอง “อาสิงห์ขา ขวัญ...ขวัญ...รู้สึกแปลกๆ ...มันหายใจไม่ออก...เหมือนจะขาดใจ” หญิงสาวรีบละล่ำละลักตอบ “ดีใช่ไหมคะ...” “อืออ....” มันตอบไม่ได้จริงๆ ว่าดีหรือไม่ดี รู้แต่ว่าเธอแทบขาดใจตาย ยามปลายลิ้นร้อนชื้นตวัดไล้เลียเนินอกไปทั่วๆ มือแข็งแรงลูบไล้ไปทั่วร่างกายอันสวยงามน่าลุ่มหลงของขวัญพธู ไม่ว่าจะเนินอกอวบอิ่ม ช่วงไหล่เรียวงาม ต้นแขนกลมกลึง เอวบางคอดกิ่ว และสะโพกผายตึง... ขวัญพธูครางสะอื้น...ไม่เคยมีใครได้จับต้องนวลเนื้อ แต่ตอนนี้แทบทุกตารางนิ้วถูกมือร้อนๆ กับริมฝีปากของสีหนาท สัมผัสยึดครองจนหมดสิ้น!! สีหนาทเกือบเตลิดสุดกู่ เขาร่ำๆ จะครอบครองขวัญพธู...กลางห้องทำงาน เขาเกือบกระชากแพนตี้ตัวน้อยออกจากร่างกายของหลานสาว...แต่... ติ๊กต๊อก... เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาดังๆ เขาหลุดออกมาจากภวังค์หวาม ร่างกายแข็งเกร็ง เหลือบมองไปรอบๆ ตัว ให้ตายเถอะเขาแทบจะขย้ำหลานสาว เกือบจับเธอกดบนพื้นและฝังกายร้อนผ่าวในสัดส่วนความเป็นหญิง แบบสุดๆ มือแข็งแรงยกขึ้นเสยผมบนศีรษะ และรีบข่มความรู้สึกที่แตกปะทุอยู่ภายในร่างกายให้กลับไปอยู่ที่เดิม...ก่อนที่จะแปลงร่างเป็นหมาป่า ขย้ำขวัญพธูเสียจมเขี้ยว... “อาสิงห์คะ...” “จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยค่ะ รีบทำเสียเถอะขวัญ เดี๋ยวอาไปส่งขวัญที่บ้านเอง...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น เขาเกือบซี๊ดปากครางเสียงดังๆ เมื่อความแข็งขืนกลางเป้า มันเหยียดขยายคับเป้ากางเกง และเมื่อขยับตัวแรงๆ มันจึงเสียดสีกับผ้าแข็งๆ มันเสียดจี๊ดและปวดหนึบ ขวัญพธูขยับชุดให้เข้าที่ หยดน้ำตาตกเปียกอกเสื้อ มันไหลล้นปริ่มดวงตา ขนาดเธอเสนอตัว...สีหนาทยังเมิน...อย่างนี้จะเอาหน้าไปซุกตรงไหน? ทั้งอายและเจ็บ ขั้วหัวใจจะขาดรอนๆ หยาดน้ำตาที่ไหลปรี่ปริ่ม สีหนาทคอตก เขาอยากเข้าไปปลอบขวัญแต่เกรงว่ามันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้อีก แค่นี้เขาก็แทบจะวางหน้าไม่ถูก ที่เผลอไผล ล้วงลึก เกือบจะกระชับพื้นที่ขวัญพธูด้วยซ้ำ ดีนะที่นาฬิกาดังขัดจังหวะ ทำให้เขากลับมายืนตรงจุดเดิมได้... “อาสิงห์...ไม่...ต้อง ไป ส่ง ขวัญ หรอกค่ะ ขวัญมาเอง กลับเองได้!!” เสียงเครือสะอื้น ตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานสวยก้มลง จนปลายคางชิดอกอิ่ม แถมเขายังมองเห็นหยาดน้ำตาที่ไหลเปียกปอนสองข้างแก้มเสียอีก “ไม่ได้หรอกค่ะ...ขวัญไม่ปรกติ...ให้อาสิงห์ไปส่งดีกว่านะคะ” “ได้โปรด? ...อย่าดีกับขวัญนักได้ไหมคะอาสิงห์ แค่นี้ขวัญก็รู้สึกผิดจะแย่... ขวัญเกือบทำให้อาสิงห์เสียผู้ใหญ่...ต่อไปขวัญจะพยายามอยู่ห่างๆ อาสิงห์ค่ะ ขวัญจะไม่มาให้อาสิงห์เห็นหน้าอีก อาสิงห์จะได้ไม่หนักใจกับพฤติกรรมของขวัญอีกไงคะ” ขวัญพธูพูดไปสะอื้นไป เมื่อไม่สมหวังก็ต้องอยู่ห่างๆ เธออายแสนอาย และไม่ต้องการให้สีหนาทลำบากใจ “ขวัญ!! ...ไม่นะคะ อย่าทำแบบนั้น หากขวัญไม่มาหาอาสิงห์อีก อาสิงห์จะมีกำลังใจทำงานได้ยังไงคะ ขวัญเป็นคนสำคัญของอาสิงห์นะคะ” “อย่าพูดเพราะสงสารขวัญเลยค่ะ...ขวัญอ่อยอาสิงห์ ขวัญให้ท่า อาสิงห์ยังไม่สนเลย ขวัญอาย...ขวัญควรถอยได้แล้ว เหมือนที่มิ่งบอก สู้ไม่ได้ก็ต้องถอย...ในอนาคตขวัญจะเป็นหลานสาวที่ดีค่ะ...แต่ตอนนี้....” คำพูดขาดห้วง เมื่อต่อมน้ำตาแตก ให้เธอตัดใจจากสีหนาท เท่ากับปลิดขั้วหัวใจของตัวเอง เธอคงแทบสิ้นลมหายใจ “ขวัญ...ไม่เอาค่ะ ไม่ร้อง... หน้าเลอะหมดแล้วนะคะ...เอาเป็นว่า...เราจะพูดเรื่องนี้กันอีกที ตอนที่อาสิงห์ไปส่งขวัญที่บ้าน...ไปล้างหน้าล้างตาก่อนค่ะ เดี๋ยวอาสิงห์จะเป็นคนไปส่งขวัญเอง” สีหนาทใจอ่อนยวบ เอาไงเอากันสิ ขวัญพธูเปิดใจเสียขนาดนี้ เขาไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียวเสียหน่อย อย่างนี้จะให้บุกน้ำ ลุยไฟ ที่ไหนเขาก็พร้อมใจจะทำ...ขอสู้สักตั้ง เพื่อยอดขวัญ มิ่งขวัญของหัวใจตัวเอง ขวัญพธูคอตก เธอเดินละห้อยละเหี่ย เข้าห้องน้ำด้านในห้องทำงานของสีหนาท เธอมองใบหน้าเปรอะเปื้อน ด้วยดวงตาพราวน้ำตา สีเครื่องสำอางหลุดร่อนเลอะเทอะ น้ำมูกไหลจ่อตรงปลายจมูก หาความสวยความงามไม่เจอ “มิ่ง...ขวัญไม่สู้แล้ว...ขวัญจะถอย ขนาดขวัญอ่อย...อาสิงห์ยังไม่สน...” เธอมองตัวเองและกระซิบแผ่วๆ น้ำตาไหลร่วงผ่านร่องแก้ม มันไหลปรี่เหมือนฝายน้ำล้น ที่ไหลทะลักทลาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD