4
“จะว่าไปเรื่องนี้แก้วกับแม่ที่ผิด พี่เชนทร์เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ไม่แปลกที่เขาจะไม่พอใจ โกรธและเกลียดแก้ว” วาติยาแย้ง ข้อนี้ธาริการู้ดี แต่มันอดไม่ได้ ราเชนทร์ทำกับน้องสาวตนเกินไป มีหรือที่พี่สาวจะยอม
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พูดดีๆ ขอหย่าแบบเงียบๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย เอาเป็นว่าพี่ขอไปแก้แค้นแทนแก้วสักอาทิตย์นึงแล้วกัน จากนั้นพี่จะเจรจาขอหย่ากับนายราเชนทร์แบบสันติวิธี บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น” วาติยายิ้มได้ ความกังวลหายไปเกินครึ่ง
“ดีค่ะพี่ไหม”
“ไปส่งผักกับพี่ดีกว่า ที่ตลาดน่ะมีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะเลย แก้วจะได้ไม่เหงา ส่งผักเสร็จแล้วพี่จะพาแก้วไปกินของอร่อยๆ ขุนให้แก้วอ้วนขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อยจะได้มีน้ำมีนวล”
ธาริกาจูงมือน้องสาวไปที่รถกระบะคันเก่งของตน วาติยารู้สึกสบายใจและมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้พี่สาว ไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุขมือของพี่สาวคนนี้อบอุ่นเสมอ
ราเชนทร์เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขามีความสุขที่สุดในรอบเจ็ดเดือนที่ผ่านมา มีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าภรรยาเดินอยู่ในเรือนกุหลาบของเขา บ้านที่เป็นมรดกตกทอดของคุณตาที่ยกให้เขา คุณหญิงรุ่งระวีมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของบุตรชาย นางอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
“วันนี้อารมณ์ดีจังเลยนะตาเชนทร์” คุณหญิงเอ่ยถามบุตรชายที่ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา
“คนมีความสุขก็ต้องยิ้มสิครับ”
ราเชนทร์ตอบอย่างอารมณ์ดี
“มีความสุขเรื่องอะไรจ๊ะ”
“ตัวกาลีบ้านกาลีเมืองที่ชื่อวาติยาออกไปจากชีวิตผมแล้วครับ” ราเชนทร์ตอบ ไม่ออมคำพูดยามเอ่ยถึงวาติยา
“จริงเหรอลูก เมื่อไหร่ล่ะ” คุณหญิงรุ่งระวีถาม
“เมื่อวานนี้ครับ ในที่สุดผมก็ทำให้ผู้หญิงหน้าด้านออกไปจากบ้านผมได้สักที”
“แน่ใจนะว่ามันจะไม่กลับมาอีก” คุณหญิงถามอย่างกังวล “กลัวจะไปแล้วไม่ไปลับน่ะสิ”
“แน่ใจครับ ถึงกลับมาผมก็จะทำให้กระเด็นออกไปภายในวันนั้นเลยครับ” เขาตอบอย่างเชื่อมั่นว่าเขาต้องทำสำเร็จเหมือนครั้งก่อน
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ดีสิลูก แม่ล่ะเกลียดทั้งแม่ทั้งลูกเลย เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเจอ”
“อย่าไปพูดถึงตัวกาลกิณีให้เสียปากเลยครับ คุณแม่ครับ มะรืนนี้ผมจะทำบุญบ้านที่เรือนกุหลาบ วันนี้ผมให้คนมาขนของของวาติยาออกไปจากห้องนั้นแล้ว ตกแต่งใหม่หมด ผมจะให้พระมารดน้ำมนต์ไล่เสนียดออกไปจากเรือนกุหลาบของผม”
ราเชนทร์ทำอย่างที่พูดทุกอย่าง วันนี้เขาสั่งให้คนมาขนของทุกอย่างที่อยู่ในห้องนั้นพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นออกจากห้องนั้น และเอาเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เข้ามาไว้แทน
“แล้วเรื่องทำบุญมะรืนนี้จัดการหรือยัง” คุณหญิงเอ่ยถามบุตรชาย
“เรียบร้อยแล้วครับ วิชัยจัดการทุกอย่างแล้ว ผมเลยมาบอกคุณแม่ไว้ก่อน และต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า เพราะมันกะทันหัน” ราเชนทร์พนมมือไหว้มารดาพร้อมกับพูดขอโทษ
“ไม่เป็นอะไรหรอกลูก เรื่องแค่นี้เอง แม่ดีใจด้วยที่ลูกไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับผู้หญิงที่ไม่มียางอายอย่างวาติยา หมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะลูก”
คุณหญิงโอบกอดร่างของบุตรชาย ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม น้ำตาเอ่อคลอด้วยความดีใจ นางไม่รู้เลยว่า เคราะห์ใหญ่กำลังเดินทางมาหาลูกชายถึงที่
คราวนี้แหละ...มันส์
ธาริกามองกระเป๋าที่วางอยู่ตรงหน้าบ้านไม้หลังขนาดกลางของตน วันนี้เธอต้องเดินทางไปที่บ้านอิศราภักดี ไปใช้ชีวิตเป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนั้นแทนน้องสาว ธาริการวบรวมข้อมูลที่วาติยาเล่ามาสองคืนจนขึ้นใจ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกบันทึกลงในสมองของเธอเรียบร้อยแล้ว
“พี่ไปก่อนนะ รอฟังข่าวจากพี่ ลุงหมายฝากดูแก้วด้วยนะคะ ไอ้จ้อยอย่าลืมรดน้ำที่สวนผักล่ะ ฉันไม่อยู่อย่าอู้งาน ไม่งั้นเจอหักเงินเดือนแน่” ธาริกาสั่งลุงหมายและไอ้จ้อย
“ไม่ต้องห่วงหนูไหม ลุงจะดูแลหนูแก้วเป็นอย่างดี” ลุงหมายรับคำ
“ผมก็จะดูแลสวนผักให้ดีเช่นกันครับ” ไอ้จ้อยพูดออกไป ยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้หรือเปล่า
“ปากดีไปเถอะเอ็งไอ้จ้อย ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะ”
ธาริกาสั่งเสร็จก็เดินไปโอบกอดน้องสาวอีกครั้ง ก่อนจะเดินถือกระเป๋าไปขึ้นรถประจำทางคันเล็กที่จอดรออยู่ เพื่อไปยังท่ารถประจำอำเภอ จุดหมายปลายทางของเธอคือกรุงเทพมหานคร
ระยะทางจากสระบุรีมายังกรุงเทพใช้เวลาไม่นานนัก ธาริกาลงจากรถทัวร์ปรับอากาศ สิ่งแรกที่เธอคิดจะทำคือเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะชุดที่เธอสวมใส่มาไม่เหมาะกับคำว่าโสเภณีอย่างที่ราเชนทร์ว่าวาติยา ธาริกาหยิบเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าชุดหนึ่ง และเปลี่ยนมันที่ห้องน้ำ
ธาริกามองชุดที่เธอสวมใส่ใหม่ในกระจกเงาอย่างพอใจ ทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาทุกคู่มองมายังเธอเป็นตาเดียว โดยเฉพาะผู้ชายที่มองเธอตาเป็นมัน หากแต่ธาริกาหาได้สนใจไม่ หญิงสาวก้าวขึ้นแท็กซี่ที่จอดเรียงรายอยู่นับสิบคัน ก่อนจะบอกชื่อสถานที่ให้แท็กซี่รู้
11.30 น.
บ้านอิศราภักดีวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เพราะเรือนกุหลาบเรือนหลังขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กที่อยู่ภายใต้อาณาเขตของบ้านอิศรา-ภักดี ได้จัดพิธีทำบุญ ขับไล่เสนียดจัญไรที่อยู่ในบ้านส่วนตัวของราเชนทร์ให้ไปแล้วไม่ต้องกลับมา เจ้าของบ้านสั่งให้ตกแต่งห้องเดิมของวาติยาใหม่ ข้าวของทุกชิ้นที่วาติยาใช้เขาสั่งให้คนเอาไปบริจาค แล้วสั่งของชุดใหม่เข้ามาแทน
แขกที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะหน้าบ้านต่างพากันมองไปยังสตรีสาวสวยแต่งตัวจี๊ดเข็ดฟันที่เดินมาหยุดหน้าบ้าน สร้อยที่กำลังบริการแขกของเจ้านายหันไปมองตามสายตาของหลายคน เธอดีใจ ตกใจและแปลกใจในเวลาเดียวกันเมื่อเห็นวาติยาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมลิบลับ
“สร้อย นั่นคุณแก้วนี่ หายไปไม่กี่วันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ” ทับทิมสาวใช้อีกคนพูดกับสร้อย “ไปบอกคุณเชนทร์ดีกว่า คุณเชนทร์เห็นต้องปรี๊ดแตกแน่ๆ”