04
ลับหลัง
"ตอนเดินผ่านลานจอดรถมาแกเห็นอะไรปะ?"
"เห็นอะไร"
"ก็เห็นพี่เสือกับยัยเหมยลี่ควงกันขึ้นรถไปไง นี่แกไม่เห็นเหรอ?"
ในระหว่างที่กำลังจะเดินไปหน้าคณะเพื่อเรียกรถก็ได้ยินเสียงบทสนทนาของนักศึกษาผู้หญิงสองคนที่เดินผ่านเอ่ยขึ้นซึ่งมันไม่ได้ทำให้เธอสนใจเลยถ้าบุคคลที่ผู้หญิงสองคนนั้นพูดถึงไม่มีชื่อของคนคนหนึ่งอยู่
"ใช่แน่เหรอ? แกตาฝาดไปรึเปล่า"
"ตาฝาดบ้าอะไรล่ะ ฉันจำได้ว่าเป็นพี่เสือกับยัยเหมยลี่จริง ๆ แล้วรถคันนั้นก็เป็นรถของพี่เสือด้วย แต่ก็นั่นแหละก็คนมันเคย ๆ กันก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากหรอกแต่ฉันแค่สงสัยอะไรนิดหน่อย"
"สงสัยอะไร?"
"ก็ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาคนก็เมาท์กันให้แซดว่าพี่เสือไปตามจีบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ถ้าฉันจำไม่ผิดน่าจะเป็นเด็กสาขาบัญชีนะ ที่หน้าจืด ๆ หน่อย ดูไม่ใช่สเปกพี่เสือเลยสักนิด"
"โอ๊ยแกนี่ไม่รู้อะไรบ้างเลยนะ กลุ่มวงในพวกเที่ยวกลางคืนเขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าเสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ พี่เสือน่ะควงกับผู้หญิงแทบทุกวันเป็นปกติเลยค่ะ เมื่อคืนนี้ก็เหมือนกันฉันเห็นพี่เขาออกมาจากห้องหลังผับก่อนที่ผู้หญิงจะตามออกมาสภาพนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไปทำอะไรกัน จะมีก็แต่ยัยผู้หญิงคนนั้นแหละที่ไม่รู้อะไรเลย"
"แต่ก็นั่นแหละนะฉันได้ยินมาว่ายัยนั่นเป็นลูกคุณหนูมาก่อนแต่ถูกฟ้องล้มละลายพ่อก็ฆ่าตัวตายไปก่อน ทำให้เหลือแต่นางกับแม่นั่นแหละ ฉันว่าก็ไม่แปลกหรอกถ้านางจะยอมโดนหลอกอะเพราะบ้านพี่เสือรวยขนาดไหนใคร ๆ ก็รู้ แค่ขึ้นเตียงกับพี่เขาสักครั้งก็ถือว่าเป็นบุญแล้วจ้า"
เสียงบทสนทนาค่อย ๆ เงียบหายไปเมื่อหญิงสาวสองคนเดินห่างออกไปในขณะที่ที่รักยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดมากแต่ทั้งนี้เธอก็อยากฟังจากปากของเสือเองมากกว่าเพราะการกระทำของเขาที่ผ่านมามันแตกต่างจากที่นักศึกษาทั้งสองคนพูดเมื่อกี้เลย
"ไม่มีอะไรหรอกนะ อย่าคิดมากสิที่รักเธอต้องไว้ใจเขานะ" หญิงสาวเอ่ยย้ำกับตัวเองเพราะเธอต้องเชื่อการกระทำที่เขาปฏิบัติกับเธอมากกว่าคำพูดที่พูดต่อ ๆ กันมา เธอไม่สนใจว่าที่ผ่านมาเขาจะเป็นยังไงเธอสนใจแค่ปัจจุบันเท่านั้น มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายข้างใบโปรดขึ้นมาก่อนจะกดส่งข้อความหาเสือทันที
"พี่มีธุระด่วนใช่ไหมคะที่รักมาหาที่คณะแล้วไม่เจอ ถ้าพี่ทำธุระเสร็จแล้วตอบกลับที่รักด้วยนะคะ"
เธอเก็บโทรศัพท์ลงที่เดิมก่อนจะเดินไปยืนรอแท็กซี่ที่หน้าคณะที่ในระหว่างนั้นเสียงสั่นครืดคราดของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้เธอหยิบขึ้นมากดรับสายทันที
ครืด~ ครืด~
"ค่ะพี่แพรว" เสียงหวานเอ่ยออกไปเมื่อคนที่โทรเข้ามาคือรุ่นพี่ที่รู้จักแถมยังเป็นผู้จัดการอยู่ที่ผับหรูที่เธอมักจะไปทำงานเสิร์ฟอยู่บ่อยครั้งเพราะไม่อยากให้ปรางทิพย์ทำงานหนัก
(ที่รักทำอะไรอยู่ วันนี้พอมีเวลาว่างไหม?) แพรวพรรณเอ่ยถามออกมาแต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความกังวล
"กำลังจะกลับบ้านค่ะ พี่แพรวมีอะไรรึเปล่าคะ?"
(พอดีเด็กเสิร์ฟที่ผับลาป่วยกะทันหันตอนนี้คนไม่พอพี่เลยโทรถามแกว่าพอจะมีเวลาสักสามสี่ชั่วโมงไหม ตอนนี้พี่นึกถึงใครไม่ออกจริง ๆ นอกจากแก)
"ได้ค่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวที่รักไปเลยนะคะ" เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของปลายสายเธอก็เอ่ยขึ้นทันทีเพราะแพรวพรรณเองก็เคยช่วยเธอไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องต่าง ๆ
(โอเค ขอบใจแกมาก) หลังจากวางสายเธอก็กดโทรบอกปรางทิพย์ไว้เพราะกลัวผู้เป็นแม่จะเป็นห่วงก่อนจะเรียกรถตรงไปยังผับที่เธอเคยทำงานทันที
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่รักก็เดินทางมาถึงผับหรูใจกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอมาทำงานพิเศษอยู่บ่อยครั้งแต่เพราะเดี๋ยวนี้เธอค่อนข้างเรียนหนักทำให้หยุดพักไปชั่วคราว หลังจากเดินเข้ามาในผับเธอก็ตรงเข้าไปที่ห้องแต่งตัวของพนักงานที่อยู่ทางหลังผับเพื่อทำการเปลี่ยนชุดเป็นชุดเด็กเสิร์ฟพร้อมเก็บของที่ติดตัวมาใส่ไว้ในล็อกเกอร์ส่วนตัวของพนักงาน เพราะกฎของที่นี่เวลาทำงานห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ
"คงจะยังไม่ว่างจริง ๆ" มือเรียวที่กำลังจะเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในล็อกเกอร์ส่วนตัวเธอก็ไม่ลืมที่จะเปิดโทรศัพท์ออกดูปรากฏว่าข้อความที่เธอส่งไปหลายนาทีก่อนยังไม่ถูกอ่านทำให้เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะกดปิดหน้าจอลงแล้วใช้กุญแจล็อกล็อกเกอร์เอาไว้เพื่อเตรียมไปทำหน้าที่เพราะอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาที่ผับเปิด
"อยู่นี่เองโทษทีนะเมื่อกี้พี่ไปคุยงานกับบอสมา" แพรวพรรณที่เดินเข้ามาเอ่ยขึ้นในขณะที่ที่รักกำลังจะเดินออกจากห้องแต่งตัวไป
"ไม่เป็นไรค่ะ แล้ววันนี้จะให้ที่รักทำโซนไหนคะ?" เพราะที่นี่มีแบ่งแยกทำงานกันเป็นโซนไม่ว่าจะเป็นโซนธรรมดาหรือโซนวีไอพีที่เป็นโต๊ะด้านล่าง และเป็นโซนห้องวีไอพีทางด้านบน
"โซนเดิมนั่นแหละวันนี้เปิดแต่โซนวีไอพีน่ะเห็นว่ามีลูกค้าจองฉลองงานวันเกิด แล้วพนักงานดันลาป่วยกะทันหันอีกพี่เลยให้แกมาช่วยนี่แหละ" หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะการที่ลูกค้าจะเปิดจองโซนวีไอพีไว้แบบนี้นั่นต้องเป็นลูกค้าที่เป็นวีไอพีของทางผับ
"พูดไปก็เสียดายแกจริง ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาของแกเหมาะสำหรับตำแหน่งพีอาร์มากกว่าเด็กเสิร์ฟแต่แกดันไม่สนใจ" แพรวพรรณว่าออกมาด้วยความเสียดายเพราะเธอแนะนำให้ที่รักทำงานในตำแหน่งพีอาร์ที่นั่งดื่มกับลูกค้าซึ่งเป็นงานสบายกว่าการเป็นเด็กเสิร์ฟแถมค่าตอบแทนยังได้มากกว่านี่ยังไม่รวมทิปที่ลูกค้าจะจ่ายเพิ่มให้อีกแต่หญิงสาวดันปฏิเสธซึ่งเธอก็ไม่ได้คิดจะบังคับอะไรเพราะเข้าใจว่าที่รักนั้นไม่ชอบตำแหน่งนั้น แม้ที่ผ่านมาจะมีลูกค้าหลายคนถามถึงที่รักอยู่บ่อยครั้งก็ตาม
"ที่รักไม่ถนัดจริง ๆ ค่ะ เป็นเด็กเสิร์ฟก็โอเคแล้ว" เพราะการที่ให้เธอไปนั่งดื่มกับลูกค้าย่อมโดนแทะโลมทั้งทางสายตาและคำพูดเธอไม่ชินจริง ๆ แม้ที่นี่จะไม่ได้บังคับให้พนักงานต้องออกไปกับลูกค้าแต่ให้สิทธิ์เป็นการตัดสินใจของแต่ละคนมากกว่าซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีแต่มันก็ไม่เหมาะกับเธออยู่ดีเธอจึงเลือกที่จะทำในตำแหน่งเด็กเสิร์ฟอีกหนึ่งเหตุผลคือไม่อยากมีปัญหากับพนักงานประจำที่นี่
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...
"เอ่อ...พี่คะฝากตรงนี้แป๊บนึงนะคะขอไปเข้าห้องน้ำก่อน" ที่รักวางถาดเครื่องดื่มลงบนโต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ตรงหน้าพร้อมเอ่ยบอกรุ่นพี่ที่เป็นพนักงานเสิร์ฟเหมือนกันที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
"ได้ ๆ รีบมานะ ลูกค้าเยอะแล้ว"
"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังหลังร้านซึ่งเป็นห้องน้ำหลังผับเพื่อทำธุระส่วนตัวทันที ดีที่ตอนนี้คนส่วนมากสังสรรค์กันอยู่ในงานเพราะใกล้จะได้เวลาเป่าเค้กของเจ้าของวันเกิดทำให้เธอไม่ต้องมารอคิวเพื่อเข้าห้องน้ำ เธอใช้เวลาทำธุระส่วนตัวไม่นานนักพร้อมกับจะเปิดประตูออกไปแต่ทว่าบทสนทนาของหญิงสาวคู่หนึ่งที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำทำให้เธอชะงักไป
"ฉันเห็นนะสายตาของแกที่มองพี่เสือน่ะ"
"แกเห็นด้วยเหรอ นี่ฉันว่าฉันแสดงออกน้อยที่สุดแล้วนะ"
"เหมือนแม่เสือสาวที่จ้องจะตะครุบเสือตัวผู้ซะขนาดนั้นมองจากดาวอังคารยังรู้เลยจ้า"
"ก็เสือตัวผู้มันน่ากินซะขนาดนั้นใครจะปล่อยให้เสียของ คอยดูนะคืนนี้ฉันจะทำให้เขาเลือกฉันไปต่อให้ได้เลยคอยดู"
"เริ่ดค่ะ เพราะไม่ใช่บ่อย ๆ นะยะที่พี่เขาจะมาผับนี้น่ะ ที่มาก็เพราะเป็นวันเกิดของรุ่นพี่ที่สนิทไม่งั้นแกคงต้องไปตามหาเขาที่ผับ SG นู่นแล้ว"
คำว่าผับ SG ที่ได้ยินทำให้เธอนิ่งไปเพราะมันคือผับของติณณ์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเสือ เมื่อเสียงบทสนทนาเงียบลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไปทำให้ที่รักเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยความคิดมากเมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคยแต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าจะเป็นคนคนเดียวกันเพราะคนชื่อนี้ก็มีเยอะแยะไป
"อย่าคิดมากสิที่รักเธอกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ" หญิงสาวเอ่ยเตือนสติตัวเองเพราะเธอกับเขายังไม่ได้มีสถานะอะไรต่อกันนอกจากคนคุยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ห้ามความรู้สึกอยากรู้ไม่ได้จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินตามผู้หญิงสองคนที่ยืนคุยกันเมื่อครู่ออกไป ถ้ามองจากการแต่งตัวแล้วก็ทำให้เธอเข้าใจได้ทันทีว่าหญิงสาวเจ้าของบทสนทนาเมื่อครู่เป็นพีอาร์อยู่ที่ห้องวีไอพีชั้นบนของผับ
"ที่รักนั่นเธอจะไปไหนน่ะ เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็รีบมาช่วยกันสิเห็นไหมว่าลูกค้ารอ" ยังไม่ทันที่เท้าเรียวจะก้าวขึ้นบันไดเพื่อตรงขึ้นไปชั้นบนเสียงของพนักงานเสิร์ฟคนเดิมก็เอ่ยขึ้นทำให้ที่รักชะงักไปก่อนจะพยักหน้าแล้วมองกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินตามพนักงานรุ่นพี่กลับไปที่เคาน์เตอร์บาร์
สองชั่วโมงต่อมา
"เอ้าไอ้เสือจะกลับแล้วเหรอวะ?" เสียงของเซนซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดแล้วยังเป็นรุ่นพี่คนสนิทของเสือเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้นจากโซฟาหลังจากที่นั่งดื่มด้วยกันมาเป็นเวลานาน
"เออดิเฮีย เมาฉิบหายละ" ถึงปากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่แค่เศษซากขวดเหล้าที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเมาถึงขนาดนั้นเพียงแค่รู้สึกมึนนิดหน่อยก็เท่านั้น
"มึงจะรีบกลับไปไหนว้า หาคนไปดูแลสักคนดิ มึงเลือกเอาสาว ๆ ในผับกูเกรดดีทั้งนั้น" กัณฑ์ที่อยู่ในสภาพเมาไม่น้อยเอ่ยขึ้นในขณะที่ข้างกายมีพีอาร์สาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งคอยดูแลอย่างเอาใจเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในห้องที่มีหญิงสาวนั่งดูแลกันทุกคนรวมทั้งเสือ
"เออ ข้าง ๆ มึงน่ะเอาไปดูแลที่ห้องด้วยจะเป็นไรไป" ไผ่ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่สนิทอีกคนเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปคลอเคลียหญิงสาวข้างกาย
"นั่นสิคะ คืนนี้ให้เจนไปดูแลคุณนะคะ" พีอาร์สาวที่เป็นคนนั่งดูแลเสือมาตั้งแต่ต้นเอ่ยขึ้นเพราะคืนนี้เธอหมายมั่นเอาไว้แล้วว่าจะต้องไปต่อกับเขาให้ได้ เพราะได้ยินชื่อเสียงของเขามาจากเพื่อนที่เป็นพีอาร์ด้วยกันทำให้เธอยิ่งอยากเล่นกับไฟ
"เอาสิ ในเมื่อเธอเสนอมาฉันก็ไม่ปฏิเสธ" สายตาคมมองหญิงสาวที่ส่งสายตามาให้เขาอย่างเปิดเผยว่าต้องการอะไรซึ่งแน่นอนว่าเสือตัวพ่ออย่างเขาไม่เคยปล่อยให้เหยื่อหลุดมืออยู่แล้วในเมื่อเสนอมาเขาก็สนองไปแค่นั้นแฟร์ ๆ กันอยู่แล้ว