ตอนที่ 1
“สงสัยหิมะจะตก วัวจะออกลูกเป็นนก จิ้งจกจะกลายร่างเป็นไดโนเสาร์” อยู่ดีๆแม่กระแตก็ว่าขึ้นมาลอยๆ มองค้อนลมค้อนแล้งไปทั่ว จนสามีที่นั่งร่วมโต๊ะจิบชายามบ่ายอยู่สวนหลังบ้านด้วยกันต้องวางหนังสือในมือลง พ่อเพชรขมวดคิ้วเล็กน้อย มองหน้าเมียรักด้วยความไม่เข้าใจ แต่เพียงครู่เดียวก็คลายปมบนคิ้วออก แล้วระบายยิ้มขบขัน เมื่อเห็นร่างสูงสมาร์ตของลูกชายคนโตเดินตรงมาหา รายนั้นเห็นอาการแม่แล้วก็ส่งยิ้มแต้มาแต่ไกล คงรู้ตัวว่าแม่งอนตัวเองอยู่
“คิดถึงคุณแม่ที่สุดเลยครับ” พ่อคนช่างอ้อนนั่งคุกเข่าลงข้างเก้าอี้ที่มารดานั่งอยู่ เขาโอบกอดเอวท่าน แล้วแนบแก้มลงบนตักนุ่ม
“คิดถึงอะไรกัน หายหน้าไปเป็นเดือนเป็นปี”
“คุณแม่อย่าใส่ร้ายผมสิครับ แค่สองสัปดาห์เองนะครับ” เพชรนิลเกยคางกับตักมารดา เขาเหลือบตาขึ้นมองหน้าท่าน แล้วยิ้มอ้อนสุดชีวิต
แม่กระแตมองค้อนลูกชาย ตีเบาๆที่ต้นแขนด้วยความหมั่นไส้
“อ้าว! เพิ่งสองสัปดาห์เองหรือ แม่นึกว่าสองปีเสียอีก”
“โธ่! คุณแม่ครับ อย่าทำให้ผมรู้สึกผิดแบบนี้สิครับ”
แม่กระแตมองค้อนคนที่ซบหน้าอยู่กับตักตัวเอง “นี่ขนาดรู้สึกผิดนะ ยังหายหน้าหายตาไปเป็นสัปดาห์ ถ้าไม่สำนึกเลยคงหายไปเป็นปีจริงๆ มีลูกชายกับเขาทั้งคนก็เหมือนไม่มี ไม่เคยอยู่ติดบ้าน แล้วนี่ครึ้มอกครึ้มใจอะไรถึงได้กลับมาบ้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันตกดิน” แม่กระแตบ่นยาวเหยียดไปตามประสา เพราะแม้จะงอนลูก แต่เมื่อลูกมาอ้อนมาออเซาะ คนเป็นแม่ก็ใจอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งลนไฟ มือบางที่มีร่องรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาลูบศีรษะลูกชายคนโตด้วยความเอ็นดูรักใคร่
เพชรนิลยิ้มหวานให้มารดา เขากุมสองมือมารดาไว้ในอุ้งมืออบอุ่นของตัวเอง เงยหน้าพูดกับท่านด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ก็คืนนี้ผมมีนัดกับสาวสวยคนสำคัญคนนี้ ผมเลยต้องรีบกลับมาเตรียมตัวไงครับ”
น้ำเสียงออดอ้อนกับรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของลูกชายทำให้แม่กระแตอมยิ้มมีความสุข ลืมไปเลยว่าเคยงอนลูก
“จะจีบเมียพ่อเหรอไอ้กระต่ายน้อย” พ่อเพชรนึกหมั่นไส้ลูกชาย หายหัวไปตั้งนานสองนาน ทำให้เขาต้องทนฟังเมียบ่นหามันทุกวัน บ่นไม่บ่นธรรมดา บ่นถึงขั้นจะตัดลูกตัดแม่ด้วย แต่พอมันกลับมาหา มาออดมาอ้อนนิดหน่อย ก็ลืมคำที่เคยบ่นมาทั้งหมด กลับไปเทใจให้มันเหมือนเดิม ดูสิ...ไม่สนใจเขาที่นั่งหัวโด่อยู่ด้วยสักนิด
“ใครจะกล้าล่ะครับ แถวนี้ใครๆเขาก็รู้กันทั่วว่าคุณเพชรทั้งรักทั้งหวงเมียขนาดไหน ผมไม่กล้าเอาก้นไปเสี่ยงกับฝ่าเท้าหนักๆของคุณเพชรหรอกครับ” เพชรนิลว่ายิ้มๆ แล้วหันไปอ้อนมารดาต่อ
“แล้วนี่คุณแม่เรียกช่างมาแต่งหน้าที่บ้าน หรือจะให้ผมพาไปที่ร้านครับ” คนทำความผิดไว้ถามเอาใจมารดาเต็มที่ เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว มารดานัดรับประทานอาหารกับคุณหญิงภริยาท่านนายพลท่านหนึ่งไว้ โดยชวนเขาให้เป็นเพื่อนด้วย แต่เขาไหวตัวทัน เพราะรู้ว่าท่านจะพาไปดูตัวลูกสาวท่านนายพล เขาเลยเบี้ยวนัด ทำให้มารดาต้องเสียหน้า มาคราวนี้เมื่อท่านนัดให้พาไปงานเลี้ยงการกุศลที่โรงแรม เขาจึงต้องจำใจรับปาก เพราะไม่อยากให้ท่านงอนซ้ำงอนซ้อนอีก
“แม่นัดช่างมาที่บ้านจ้ะ ต่ายมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนนะลูก กว่าจะถึงเวลาไปอีกนานเลย”
“เหนื่อยแค่ไหน แค่ได้เห็นหน้าคุณแม่ก็หายเหนื่อยแล้วล่ะครับ” กระต่ายน้อยของแม่กระแตอ้อนโดยไม่เกรงใจสายตาสามีของแม่ เขายืดตัวขึ้นหอมแก้มท่านสองข้าง โอบกอดไว้เต็มวงแขน แล้วซุกหน้ากับอกอุ่น
พ่อเพชรชักคันเท้าขึ้นมายิบๆ หมั่นไส้ไอ้คนขี้อ้อน อ้อนซะจนเมียเขาไม่พูดถึงความผิดคราวที่แล้วของมันเลยเลย แล้วที่บ่นๆมาตลอดคืออะไร ไหนบอกจะไม่ดูดำดูดีมันแล้ว ไหนบอกจะตัดแม่ตัดลูก แล้วนี่อะไร พอมันออดอ้อนซบตักนิดโอบกอดหน่อยก็ลืมที่เคยบ่นไว้ซะแล้ว ไอ้เจ้าลูกชายนี่ก็กระไรทั้งคารมทั้งลีลาออดอ้อน ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้เป็นได้ใจอ่อนละลายไปกับมันแทบทุกคน ไม่รู้มันได้ทักษะอ้อนสาวน้อยสาวใหญ่แบบนี้มาจากใคร
แม่กระแตควงลูกชายเดินไปทั่วงาน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังกลางเมืองกรุง คืนนี้พ่อเพชรยอมให้เมียรักควงลูกชายออกงาน โดยไม่ตามมา เพราะเริ่มเบื่องานสังคม และอีกอย่างงานนี้มีลูกชายมาคอยดูแลเมียให้ พ่อเพชรเลยไม่ห่วง แต่ก่อนจะปล่อยลูกเมียออกจากบ้านก็กำชับลูกชายนักหนาว่าห้ามปล่อยแม่คลาดสายตาเด็ดขาด ห้ามปล่อยให้คุยกับชายอื่นเพียงลำพัง ห้ามโน่นห้ามนี่และย้ำจนเพชรนิลอยากจะลากพ่อมางานด้วยกัน มาดูแลเองซะเลย ริอ่านมีเมียเด็กกว่าเป็นสิบปีก็งี้แหละ ต้องตามหวงตามห่วง แล้วแม่เขาก็ทั้งสวยทั้งหวานเรียบร้อยดูดีสมวัย พ่อก็ยิ่งหวงหนักเข้าไปอีก หวงทั้งหนุ่มน้อยยันหนุ่มใหญ่ หนุ่มแก่ พ่อหม้าย หวงจนบางทีเขาก็ไม่เข้าใจว่า พวกมีเมียเด็กเนี่ยเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า
“กระต่ายไปทางโน้นกันเถอะลูก แม่มีคนจะแนะนำให้ต่ายรู้จัก” แม่กระแตบอกลูกชายพร้อมกับแตะเบาๆที่ต้นแขนลูก เพชรนิลก้มหน้าสบตามารดา ยิ้มและพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เขาเดินเคียงคู่มารดาไปยังกลุ่มคุณหญิงคุณนายที่ตีกระบังลมสูงเสียดฟ้ากำลังพูดคุยกันอยู่ห้าคน ทว่าหนึ่งในนั้นมีหญิงสาวหน้าตาสะสวย ท่าทางเรียบร้อยยืนรวมกลุ่มอยู่ด้วย เมื่อเขาและมารดาเดินเข้าไปใกล้ ทุกคนก็หันมายิ้มทักทาย