02 | ไม่เป็นอย่างที่คิด

1148 Words
นับตั้งแต่ขมิ้นก้าวเท้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย คีตะ คีริน และคะนิ้ง อีกทั้งยังมีพ่อแม่ของพวกเขาอยู่ด้วยกันที่นี่ทั้งหมด พ่อแม่ของพวกเขาใจดีมากและรับเธอเอาไว้เป็นเหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่ง “ขมิ้น พรุ่งนี้ไปเที่ยวกับพี่ไหม” คะนิ้งเอ่ยชวนเด็กสาวที่กำลังช่วยจัดเอกสารภายในห้องทำงานของเธออยู่ “ได้ค่ะ ว่าแต่คุณคีตะเขาจะกลับมาเมื่อไหร่เหรอคะ” ตลอดเวลาที่เธอมาอยู่ที่นี่นานเกือบห้าเดือน เธอได้เจอหน้าคีตะไม่ถึงสิบครั้ง ต่างจากคีรินที่กลับมาบ้านทุกสัปดาห์เพียงแต่ไม่ได้นอนพักที่บ้าน “ทำไม? คิดถึงพี่คีตะหรือยังไง” “ปะ เปล่าค่ะ หนูก็แค่สงสัย” “น่าจะอีกหลายเดือนเลยล่ะ ช่วงนี้คงจะกำลังยุ่งอยู่” คะนิ้งไม่ปล่อยให้เด็กสาวต้องรอเก้อรีบตอบคำถามทันที แม้จะยังไม่ได้เริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยของคีตะ แต่ทุกๆ เดือนก็จะมีเงินโอนเข้ามาในบัญชีที่คะนิ้งพาไปเธอไปเปิดเสมอ อีกทั้งยังข้อความที่นานๆ ส่งเข้ามาที สั่งให้เธอตั้งใจเรียนจนกว่าเขาจะกลับมาสอนทุกอย่างให้กับเธอ ทุกๆ วันจะมีครูเข้ามาสอนเธอเพื่อเตรียมสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่เพราะเป็นเด็กหัวดีและขยับทำให้เธอสามารถพัฒนาตัวเองได้ค่อนข้างไว จึงได้รับคำชมจากคนรอบข้างเสมอ “เรียนจบหมดแล้วก็อย่าทำให้ครูผิดหวังนะ พรุ่งนี้สอบก็ตั้งใจแล้วก็อย่าลืมมาบอกข่าวดีกับครูด้วยล่ะ” “ค่ะคุณครู” ขมิ้นบอกลาคุณครู ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาที่บอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสามทุ่มแล้ว วันนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย เพราะทุกคนมีธุระกันหมด เหลือแค่เธอกับแม่บ้านเท่านั้น ตึก! แกรก! ทันทีที่เธอเข้ามาในห้องนอนก็ได้ยินเสียงบางอย่างคล้ายกับอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ที่ระเบียง ขมิ้นรีบคว้าไม้เบสบอลที่วางไว้มาถือพร้อมกับชูขึ้นสูง ถ้าหากเป็นโจรก็จะได้จัดการให้สลบเหมือดไปเลย ทันใดนั้นประตูระเบียงของเธอก็เปิดออกพร้อมกับร่างของใครบางคนที่พุ่งเข้ามาในห้อง ดวงตาทั้งสองข้างหลับตาปี๊ก่อนจะง้างมือยกไม้เบสบอลขึ้นสูงและเหวี่ยงลงพร้อมกับส่งเสียงร้อง อ๊ากกกกก~ หมับ! “เธอจะทำอะไร” ไม้เบสบอลของเธอถูกจับเอาไว้ พร้อมกับเสียงที่ฟังดูคุ้นหูเอ่ยถามขึ้น ขมิ้นค่อยๆ ลืมตาทีละข้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่เธอเฝ้ารอเขามานานหลายเดือนแล้ว “คุณคีตะ” “ใช่ คิดจะฆ่าฉันเหรอ” ขมิ้นรีบเอาเบสบอลไปวาง ก่อนจะกลับมายืนทำหน้าสำนึกผิดอยู่ต่อหน้าของคีตะ “ก็หนูคิดว่าโจร” “ครั้งนี้ฉันให้อภัย ถือว่าฉันยังไม่ได้บาดเจ็บอะไร” “ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คุณเข้ามาทำไมคะ” คนถูกถามเดินเข้ามาใกล้เธอหนึ่งก้าว ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้และตอบคำถามของเธอ “นี่ห้องของฉัน ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้” “แต่คุณยกห้องนี้ให้หนูอยู่แล้วนะคะ” “แค่ชั่วคราว” “งั้นคืนนี้หนูจะไปนอนไหนล่ะ” “ก็นอนที่นี่ไง” “แล้วคุณล่ะ” เธอย้อนถามกลับ “ฉันก็จะนอนที่นี่” “ไม่ได้ค่ะ คุณจะมานอนกับหนูได้ยังไง” ขมิ้นรีบปฏิเสธทันที ถ้าจะให้เธอนอนร่วมห้องกับคีตะ เธอยอมไปนอนในห้องรับแขกยังจะดีกว่า “ฉันบอกว่าได้ก็คือได้ ห้ามเถียง!” “งั้นหนูจะไปนอนห้องรับแขก” “ไม่ได้ ฉันบอกให้นอนที่นี่ก็นอนที่นี่สิ” คำสั่งของเขาทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลย จึงต้องยอมนอนในห้องนี้กับเขา ยังดีที่เขาเลือกที่จะไปนอนโซฟาและให้เธอนอนบนเตียง ถือว่ายังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง คีตะตัดสินใจกลับมาบ้านกะทันหัน หลังจากได้ยินคะนิ้งเล่าให้ฟังว่าสัปดาห์นี้ไม่มีใครอยู่บ้านและขมิ้นต้องไปสอบ ทำให้เขารีบกลับมา ช่วงนี้เขาวุ่นอยู่กับงานภายในแก๊งที่ต้องส่งของให้กับลูกค้าและงานของบริษัทที่มีโปรเจกต์ใหญ่ร่วมกับลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ จึงไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน แต่พอกลับมาก็เป็นช่วงที่ขมิ้นกำลังเรียนอยู่ทำให้ไม่ได้เจอหน้ากันเลยสักครั้ง ตกกลางดึกขมิ้นตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะเห็นแสงไฟจากโต๊ะทำงานที่อยู่ภายในห้อง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองคีตะที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “คุณทำอะไรเหรอคะ” “ลุกขึ้นมาทำไม ตอนเช้ามีสอบไม่ใช่เหรอ” คีตะรีบหันไปดุทันที “โห ไม่เห็นต้องดุกันเลย หนูแค่ตื่นมาแล้วเห็นคุณทำงานอยู่ก็เลยถามดู” “แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะเรียนต่ออะไร” “คิดแล้วค่ะ ว่าแต่คุณจะไม่ให้หนูทำงานให้คุณแล้วเหรอคะ” ขมิ้นเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้จึงตัดสินใจเอ่ยถามเขา เพราะในตอนแรกที่ตกลงกันมันไม่ใช่แบบนี้ ไหงเธอถึงกลายมาเป็นเหมือนลูกสาวอีกคนของบ้านนี้ล่ะ มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกเดือน ข้าวฟรี ที่พักฟรี แถมดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว แล้วไหนจะบัตรเครดิตอีกสองสามใบที่นายหญิงและนายท่านให้เอาไว้ใช้อีก ถ้าไม่ติดว่าคีตะเคยออกปากว่าไม่มีทางทำอะไรเธอเพราะเธอเหมือนหมาจรจัด เธอก็คงคิดว่าพวกเขากำลังซื้อตัวเธอเอาไว้ให้ลูกสะใภ้แล้วล่ะ “เปล่า แต่เธอต้องเรียนให้จบก่อน ถึงจะมาช่วยงานฉันได้” “คุณไม่ได้จะให้หนูเรียนต่อสู้หรือยิงปืนเหรอคะ” “อยากเรียนไหมล่ะ ถ้าอยากเรียนฉันจะสอน” ขมิ้นตาลุกวาวเมื่อได้ยินว่าเขาจะสอน “หนูอยากเรียนค่ะ จะได้สู้พวกผู้ชายตัวใหญ่ๆ ได้” “ถ้างั้นก็เตรียมตัวไว้ให้ดี ต่อให้เป็นผู้หญิง ฉันก็ไม่ออมแรงให้หรอกนะ” “รับทราบค่ะ งั้นหนูไปนอนก่อนนะคะ” หญิงสาวรีบกลับไปนอนด้วยความดีใจ โดยไม่รู้เลยว่าหายนะกำลังจะมาเยือนเธอแล้ว คนอย่างคีตะไม่เคยปราณีใคร!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD