3 - คันไม่เลือกที่
หลังจากนั้น
ผมเดินออกจากบ้านในขณะที่ผมยังอยู่ชุดเดิม กางเกงยีนส์ขาสั้น สั้นจนจะเปิดไฟสูงได้อยู่แล้ว อย่างน้อยผมใส่กางเกงในจะได้ไม่ดูล่อแหลม ไม่งั้นผู้ชายเห็น สมาธิเตลิดกว่าพระในวัด ผมเห็นชายคนหนึ่งหน้าตาราวกับคางทูม แต่ไม่ใช่แบบนั้น เขาเหนียงเยอะแต่ผมเห็นก็ไม่เคยล้อเลียน ออกจะชอบด้วยซ้ำ ผมเดินเข้าไปปิดตาด้วยมือแล้วจูบแก้มให้รู้สึกว่าผมเล่นด้วยไม่มีขัดขืน
หมับบ
ผมปิดตาแล้วเอาคางวางบนไหล่เขา ผมเห็นเขากำลังนับเงินหลายใบที่ได้มาจากการไปทวงเงินค่าเช่าในตลาด นับอยู่ตั้งนานไม่หมดเสียที สงสัยจะมีหลายร้าน ใช้ทุกวิถีทางทวงมาเพื่อให้หมดหน้าที่จะได้ไม่ต้องมาทวงให้เปลืองน้ำลาย
“ต้นส้ม มึงนี่แกล้งกูเก่งจัง”
ผมตกใจเล็กน้อยเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามาเบาดั่งอุ้งเท้าแมว ทำให้ผมไม่รู้สึกตัว กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ผมนับเงินใกล้จะสรุปยอด แต่สุดท้ายผมกลับลืมเพราะมีคนของผมเข้ามาขัดจังหวะ ทำผมสมาธิรวนจนจำนวนในใจหายไปทันที ผมหงุดหงิดเล็กน้อย คว้าเงินจากมือต้นส้มมานับให้ครบเพราะเงินก้อนนี้ ผมต้องส่งมอบให้หัวโจทก์ของกลุ่มผมไม่ใช่เอาไปใช้ส่วนตัว
“เงินเยอะจัง จะให้เราใช้เหรอ”
“ไปทวงจากพ่อค้าแม่ค้ามาน่ะ เบื่อนักพวกชอบหนีหนี้ ไหนจะหนีไม่จ่ายค่าเช่าที่อีก เวลามาเก็บ ชอบอ้างผ่อนผันยิ่งกว่ากูเปิดการกุศล” ผมบ่นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยเพราะเวลามาทวงค่าเช่า เก็บหนี้พนัน ชอบทำหนีไปได้ เห็นหน้าคร่าตากันมาตั้งนาน ไม่คิดจะเหลี่ยมเช่นนี้ ตอนมาไหว้วิงวอนแทบจะกราบเท้า พอถึงเวลาคืนผมต้องไปกราบแทบเท้าแทน
เวลาต่อมา
ต้นส้มเดินเข้ามาในตลาดพร้อมกับตะกร้าผักที่แม่ผมหรือใคร ๆ ก็เรียกว่าอีเล้งแซ่บ แทนที่จะนำหน้าว่าป้าหรือแม่ของผม ผมไม่เข้าใจเลยว่าทุกวันนี้จะไม่ไว้หน้าเรียกคุณนายหรือคุณหญิงแล้วใช่ไหม ผมเดินลงน้ำหนักคงที่ราวกับเป็นนายแบบ มองจิกตาให้พ่อค้าแม่ค้าเห็นว่าผมเป็นลูกชายของป้าเล้งแซ่บ เจ้ามือพนันที่ใครก็ต้องเคารพไม่ต่างกับป้าบานชื่น แม่สามีของผม
“มองอะไรครับ คนสวยแบบผมจะเดิน...”
ผมเห็นทุกคนมองจนตาจะถลน จ้องผิวขาว ตัวผอมบางเหมือนคนไม่ได้ประทังอาหารมาหนึ่งปี ผมแค่น้ำหนักเบา สูงผอมไม่ได้ขาดสารอาหาร แต่ที่คนส่วนใหญ่มอง เพราะผมหน้าตาดีแต่ปากจัดไปหน่อย ผมไม่ได้อ่อนหวานไปกับหน้าตา ดุดันได้แม่ ถ้าผู้ชายจะเข้าหา ผมพร้อมเล่นกับไฟ
ผมบอกให้ทุกคนหลีกทางให้ผมมีพื้นที่เหยียบพื้นที่นี้ ใจจริงถ้าทำสภาพให้สะอาด รองเท้าผมจะได้ไม่ต้องเปื้อนคราบชื้น กลิ่นราตะไคร้หรือน้ำเสีย ของในตัวผมราคาแพงไม่แพ้อวัยวะในร่างกาย หน้าที่ของผมตอนนี้คือการมาจ่ายตลาด ซื้อผักปลาให้แม่ และมาเก็บค่าเช่าที่ ค่าหนี้จากร้านที่ยังเหลืออยู่ จะเป็นร้านที่หนีหน้าทำเป็นเรียกคะแนนสงสาร ผ่อนผันแล้วผ่อนอีกจนคนทวงหน้าไหนต้องรำคาญ
“ป้าครับ ปลาแซลมอนขายยังไง”
“มึงก็จ่ายเงิน กูก็ทอนให้ไง ยากตรงไหน”
“เอ๊ะ อีป้ามึงวอนกูแต่หัววันเลยนะ แต่เอาเถอะ บุญผมเหมาะกับปลาแซลมอนแล้ว แล่ให้ไร้ก้างด้วยล่ะ” ผมเห็นว่าตลาดนี้มีขายปลาแซลมอน คนแบบผมนิยมของแพง ผมเห็นแล้วไม่ลังเลเลือกของแพงมากกว่าของราคาถูกก่อน นอกจากปลาแล้ว ถ้ามีพริกไทยนอร์เวย์ผมก็จะเอา ผมยืนกอดอกทำเหมือนกดดัน จิกตาจนป้าเจ้าของร้านใจอ่อนจะแถมให้ไม่น้อย
“เอาไป ค่าเช่าที่ร้านกู ไอ้โซดา เก็บไปแล้ว”
“นั่นมันโซดา แต่นี่ต้นส้ม จ่ายมา”
“ไอ้เวรเอ้ย มึงมีสิทธิ์อะไรมาเก็บค่าเช่าที่เบิ้ลสอง มึงเป็นผัวมันเหรอ ขอโทษทีกูลืมไปว่ามึงมีหลายผัว จนใครก็เรียกผิดเรียกถูกหมดว่าคนไหนตัวจริง” ป้าเจ้าของร้านขายปลา ถือว่าสนิทกับแม่ผม แล้วรังสีความหิวกามบวกความปากจัดทำให้พ่อค้าแม่ค้าเกรงใจจนเกรงกลัวผมไม่น้อย ผมจะมีกี่คนถือว่าไม่ได้ไปปล่อยโรคติดต่อให้คนอื่นสักหน่อย
“ใช้สิทธิ์จากผู้ชายด้วยกันไงครับ”
“เรียกเงินเท่าค่าตัวมึงแล้วมั้ง” ป้าแกยอมจ่ายเงินให้ผมเล็กน้อย ผมถือว่าผมอลุ่มอร่วยให้แล้วนะ ไม่งั้นผมอาจจะเรียกเงินมากกว่าที่โซดาเก็บค่าเช่าที่ทุกวันก็ได้ ผมใจดีกว่าทุกคนไม่งั้นผมหมัดหนัก จะสั่งเก็บเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนคอนพริบตา
ผมได้เงินค่าแผง ค่าเช่าที่แล้ว ต่อไปผมก็จะไปเก็บหนี้ร้านผัก ผมเห็นว่าวันนี้ป้าจิงเอาลูกชายมาด้วย ถือได้ว่าเป็นอาหารตาสำหรับผมหน่อย เวลามาซื้อของผมจะได้มีแรงกระชุ่มกระชวย มีแรงใช้ชีวิตต่อไป ผมหยิบดูกระดาษที่แม่ผมเขียนมา ดูรายชื่อของที่ผมต้องซื้อ แน่นอนว่าผมต้องเข้าไปซื้อผักร้านนี้อยู่แล้ว ผมเดินเข้าไปแต่ใจไม่ได้ไปซื้อผักหรอก จะเข้าไปหาผู้ชาย
“กล้ามแน่นจัง”
ผมเห็นผู้ชายคนนี้มาช่วยป้าขายของที่ตลาดอยู่แล้ว นอกจากร้านนี้จะขายผักแล้วยังขายยำด้วย ผมเล็งลูกชายป้ามาสักพักแล้ว ขอกอดให้แน่นที่สุด ผมขอสัมผัสอกแน่น ๆ ผอมแต่ซ่อนรูปใช้ได้เลย ผมซบแล้วขอหายใจรดต้นคอหน่อย
“ต้นส้มม”
ผมโดนป้าจะจิกหัวตบให้ได้ แต่ป้าแค่เข้ามาเรียกชื่อผมให้ดังไปถึงสันดานในใจว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ มันคืออะไรไม่สมควรกลางที่สาธารณะขณะพ่อค้าแม่ค้ากำลังขายของ ผู้คนจ่ายตลาด ทำอะไรน่าไม่อายเหมือนความชาหน้าผมไม่ออกฤทธิ์กับสิ่งเร้าตรงหน้า
“ป้าแดงครับ ผมมาซื้อผักซื้อยำ จะมาด่าผมทำไม”
“นั่นมันลูกชายกูนะ ขอบอกไว้เลยว่าเขาไม่คว้าตลาดล่างแบบมึงมาทำเมียหรอก อนาคตก็ไม่มี มีแต่อนาถา”
“แล้วลูกป้าจบไปจะมีงานทำไหมครับ”
“มึงมาดูถูกลูกกูแบบนี้ได้ไง วันไหนมึงจมดินเมื่อไหร่กูจะเหยียบมึงซ้ำเอง” ป้ากำลังต่อว่าผม แต่ผมไม่โกรธหรอก ทั้งตลาดก็คนรู้จักผมทั้งนั้น อย่าให้ผมได้ไปบอกโซดาแล้วบอกเจ้าของตลาดอีกทีแล้วกัน ไม่งั้นป้าไม่มีที่ขายเหมือนทุกวันนี้หรอก
“จะเอาอะไร”
“ผมเอายำทะเล กุ้ง ปลาหมึก แมงกะพรุน แซลมอน อะไรทะเลก็ใส่ให้หมด เผ็ดน้อย เน้นหอมแดง” ผมเข้าไปสั่งยำกับป้า ยืนกอดอกสั่งดุดัน ยังดีที่ป้ารับทำ ไม่งั้นป้าจะตบผม ยำด้วยเท้า สาดพริกใส่หน้าผมแล้วถือว่าอรุ่มอร่วยคนกันเองขนาดไหน ต่อให้ป้าจะบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนแรง ผมก็จะมาเก็บหนี้ป้าอยู่ดี ค่าหวยใต้ดินที่ติดแม่ผมจะจ่ายไม่จ่าย ระวังทะเลจะไปอยู่บ้านผม ทำกินเองไม่อดตาย
“ไม่มี ลูกป้าจะเก็บเงินไปซื้อทองให้เมียมัน มันชอบผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายตลาดล่างแบบมึง”
“โซดาจ๋า มานี่หน่อยย”
ผมเรียกโซดาด้วยเสียงดังไปสองสามแถวให้มันมาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนหน่อยเผื่อมีใครคิดถึงอยากเจอ ผมเรียกชื่อเขาเสร็จ มันเดินออกมาท่าทางกุ๊ยทรงแบด แบกไม้หน้าสามมา ทำหน้าตากวนประสาทพร้อมบวกใส่ทุกคน
“ผัวครับบ มีคนไม่ยอมจ่ายค่าหนี้ผมอะ”
“ใครเหรอครับ”
ผมวานให้โซดาออกมาช่วยจัดการอีกแรง ผู้ชายหน้าบวมตัวผอมคาบไม้จิ้มฟัน ทรงนักเลงขนาดนี้หวังว่าป้าแดงจะยอมจ่ายหนี้ผม ผมไม่ได้กดดันให้จ่ายครบทุกบาท มีเท่าไหร่ก้จ่ายมาก่อน อยากให้หนี้เบาบางลงดีกว่ามันไม่จ่ายไม่ทำห่าอะไร
“เออก็ได้ เอาไปก่อนห้าร้อย”
“ก็แค่นี้ ไม่ต้องให้ลงไม้ลงมือเลย” ผมรับเงินจากป้าแดงเมื่อป้าแกจ่ายค่าหวยที่ติดผมไว้ แม้ว่าจะยังไม่หมดหนี้แต่ผมได้ยำทะเลใส่พิเศษร้อยกว่าบาทมาอย่างไม่เสียเงินสักแดงเดียว ถือได้ว่าเก็บหนี้แล้วเปลี่ยนเรื่องหนีเหมือนที่ป้าทำนี่ไง
“อีต้นส้ม มึงจ่ายเงินกูก่อน”
“เรื่องอะไรอะป้า ผมคนกันเอง” ผมใช้อภิสิทธิ์บอกว่าผมกับป้าเป็นคนกันเอง เพราะฉะนั้นผมจะไม่จ่ายเงินก็สิทธิ์ของผม เวลาผมเหลือผมขอไปเดินซื้อของในตลาดสักหน่อย หิวไส้จะขาดแล้ว
“อ้ามม”
ผมป้อนขนมจีบใส่ปากโซดา ไหนจะปอเปี๊ยะกุ้งที่ผมชอบกิน ถือได้ว่าตลาดนี้ปลูกฝังให้ผมกินอุดมสมบูรณ์อย่างดี ผมซื้อของมากกว่าที่แม่ผมสั่งก็เพราะเงินที่เก็บหนี้ส่วนของผมนี่แหละ คนรวยเวลามีเงินใช้มันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง
“อร่อยมากเลย”
“ถ้าอยากกินอะไรอร่อย ๆ ก็บอกให้เรามาช่วยเก็บหนี้สิ กูกับมึงความโหดก็ไม่ต่างกัน” ผมเดินจับมือกับโซดาทำเหมือนคนเป็นแฟนแต่ความจริงผมกับมันแค่คนรู้จัก ไม่ได้อยากเกินเลยด้วยซ้ำ เพราะผมมีแฟนหัวโด่มีตัวตนอยู่แล้ว เดี๋ยวผมเผลอสับรางไม่ทันสร้างสนามมวยให้มันสองคนตีกันอีก ผมขอเป็นกลาง ไม่เป็นกรดหรือเบสดีกว่า
“คืนนี้เราไปหาได้ไหม”
“ได้สิ แม่กูไม่อยู่ ไปบ่อน ว่าแต่มึงอยากมาหากูทำไม” ผมชักอยากรู้แล้วสิว่าต้นส้มอยากมาหาผมเพราะอะไร ถ้ามันอยากได้ของอะไรงั้นผมอาจจะเนรมิตให้มันเห็นกับตายิ่งกว่าเสกมายากลก็แล้วกัน