เจคอบ | EP.5
——————————
หมับ!!
กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนตรงข้ามตีขึ้นจมูกจนรู้สึกเวียนหัวในเวลาไม่กี่วินาที
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือที่กำลังจับแขนตัวเองอยู่ก็ถึงกับผงะก้าวถอยหลัง ก่อนที่ความเจ็บตรงข้มือจะมีเพิ่มมากขึ้นเพราะคนตรงข้ามออกแรงกำแน่นมากกว่าเดิม
ท่าทางและสายตาของคนที่เธอไม่คิดว่าเขาจะมีสภาพเป็นแบบนี้ได้ เพราะเขานั้นเป็นที่รู้จักในพื้นที่คนแถวนี้และวางตัวดีมาตลอด
ดัสติน... เจ้าของริเวอร์เรสรีสอร์ตที่ภาพลักษณ์เหมือนคุณชาย เป็นสุภาพบุรุษช่างแตกต่างจากที่เธอหันตรงหน้า
“คุณดัส ติน... มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
เอ่ยถามอย่างกลัวๆ เพราะสายตาที่กำลังมองเธอนั้นยากที่จะคิดว่าเขามาดี แขนเล็กพยายามขืนออกจากการเกาะกุม
“ลินด์... อยู่ไหน” กดเสียงต่ำเอ่ยถาม สายตาจดจ้องเอาคำตอบ
ทันทีที่รู้ว่าลินด์ลาออก ทันทีที่รู้ว่าผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้หายตัวไปเขาก็พยายามตามหามาตลอดสัปดาห์ แต่ไม่พบอะไรเลย ให้เพื่อนที่มีเส้นสายช่วยตามหาว่าลินด์อาจจะไปสมัครที่อื่นแต่ก็ไม่พบ ถามแมทธิวก็เพิ่งรู้ข่าวทีหลังเขาไม่นาน
เขาร้อนใจมากจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ภาพลักษณ์การวางตัวดีของเขานั้นผิดไป
เพราะลินด์ เพราะผู้หญิงคนนั้นทำให้เขาเป็นแบบนี้...
จากที่คิดว่ารอแล้วมันจะดี แต่แล้วทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ ถ้าเขาคิดรวบหัวรวบหางตั้งแต่แรกตัวเองคงไม่อยู่ในสภาพนี้แน่ๆ
“คนสวย ออกมาคุยกันดีๆ หน่อย”
ดัสตินกวาดสายตาชั่วๆ ออกมาอย่างเปิดเผย มองไปรอบๆ ร้านที่มีเด็กมัธยมนั่งอยู่ ซัมเมอร์ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อ แต่ที่แน่ใจตอนนี้คือไม่ดีแน่ๆ หากไม่ทำตามที่เขาบอก
หญิงสาวพยักหน้าระรัวดัสตินจึงปล่อยมือ เธอเลยรีบออกมาจากเคาน์เตอร์คิดเงินเพื่อมาคุยกับเขาทันที
ร่างเล็กตัวสั่นมองคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว ก่อนหันไปก้มโค้งขอโทษลูกค้าที่กำลังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า
“บอกว่ามาลินด์อยู่ไหน...” เอ่ยลากเสียงช้าๆ ด้วยสายตาที่พร้อมจะคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้
“พี่ลินด์... ทำไมคะ” ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ปนสงสัยเล็กน้อยที่เจ้าของรีสอร์ตอย่างเขามาถามหาอดีตพนักงานอย่างพี่สาวเธอ และยังมาถามด้วยสภาพเละเทะแบบนี้ด้วย
“ตอบมา!”
“ฮึก!”
ร่างอรชรสะดุ้งตกใจเมื่อคนตรงข้ามตะคอกใส่เสียงดัง อารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของดัสตินทำให้ลูกค้าในร้านต่างตกใจและหวาดกลัวมากขึ้น บางคนเดินออกไปนอกร้าน บางคนยังนั่งอยู่ที่เดิมเพื่อรอฟัง
“มะ ไม่รู้ค่ะ พี่ลินด์ไม่เคยติดต่อกลับมา”
ถึงจะติดต่อกลับมาเธอก็ไม่มีทางบอกเด็ดขาด เพราะดูท่าทางแล้วคุณดัสตินไม่ประสงค์ดีกับพี่ลินด์แน่ๆ
“โกหก!!”
ดัสตินตะคอกเสียงดังกว่าเดิม หนำซ้ำยังจับต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวอย่างแรงจนเจ็บร้าวไปถึงกระดูก
ซัมเมอร์เม้มริมฝีปากหลับตาปี๋ข่มความเจ็บที่ต้นแขนเอาไว้ เธอกลัวจนสั่น น้ำตาเริ่มเอ่อไหลล้นขอบตาแม้เธอกำลังหลับตาอยู่ก็ตาม
“โถ่โว๊ย!!” ดัสตินตะโกนเสียงดังด้วยความหงุดหงิด ผลักหญิงสาวอย่างแรงจนร่างเล็กกระเด็นไปไกลหลายก้าว
ปึก!
“โอ๊ย!”
แผ่นหลังเล็กกระแทกขอบโต๊ะอย่างแรงจนรู้สึกร้าวระบม น้ำตาเม็ดใสไหลรินอาบแก้มด้วยความสั่นกลัว
ในจังหวะนั้นลูกค้าเริ่มลุกออกไปนอกร้านจนหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ดวงตาสวยมองชายหนุ่มที่กำลังโมโหจ้องมองมาที่เธออย่างโกรธเคือง
“อื้อ!”
มือใหญ่ของดัสตินบีบที่แก้มนุ่ม แต่เธอรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วใบหน้า
“ถ้าไม่บอก ฉันจะพังร้านเธอให้เละเลย บอกมา!” ตะคอกใส่พร้อมสะบัดมือปล่อยจากใบหน้าสวย
พลัก! ตุบ!
ผลักหน้าคอมพิวเตอร์ตรงเคาน์เตอร์ลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำเป็นการขู่
“หยุดนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ลินด์อยู่ไหน” เอ่ยบอกเสียงสั่น
“เหรอ...” มองด้วยสายตาเยือกเย็นแล้วถีบโต๊ะถีบเข้าอี้จนล้มระเนระนาศพังไปหมด
ตุบ! ตุบ!
หญิงสาวใช้จังหวะที่ดัสตินเผลอเตรียมวิ่งออกไปนอกร้าน ร่างเล็กตัวสั่นกลัวจนแทบก้าวขาไม่ออก แต่ยังไม่พ้นประตูหน้าร้านเธอก็ถูกดัสตินกระชากกลับเข้าไปจนล้มพับลงกับพื้น
ฟุ่บ!
“โอ๊ย!”
“มึงจะหนีไปไหนคนสวย”
ตามไปคร่อมหญิงสาวกับพื้น ง้างมือเตรียมตบสั่งสอนที่กล้าไม่บอกเขาแล้วยังจะหนีไปโดยที่เขายังไม่ได้รับคำตอบ
หมับ!
คนที่เข้ามาใหม่จับแขนดัสตินไว้ทันก่อนที่ฝ่ามือจะกระแทกหน้าหญิงสาว
สายตาคมมองคนที่กำลังจะทำร้ายเด็กของเขาด้วยความไม่พอใจ ยกเท้าถีบดัสตินออกจากร่างเล็กอย่างเร็ว
ซัมเมอร์มองคนที่เข้ามาช่วยเธอไว้ด้วยหัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำแทบระเบิดออกมา เธอสบตากับเขาครู่หนึ่งรับรู้ถึงความไม่พอใจของเขาผ่านทางสายตา ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะหันไปสนใจอีกคนที่นอนกองอยู่บนพื้นโดยไม่ทันตั้งตัว
หญิงสาวคลานหลบออกห่างจากตรงนั้นไปหลบมุมโต๊ะ พลางเอามือกุมหน้าอก กุมหัวใจที่กำลังเต้นแรงขณะมองชายหนุ่มสองคนกับลังต่อสู้กัน แต่เหมือนจะมีคนหนึ่งที่เสียเปรียบมากกว่า
ตุบ เพล้ง!
ดัสตินถูกถีบหน้าอกตอนเผลอจนเซไปชนชั้นวางแก้ว แก้วคริสตัลบนชั้นหล่นแตกกระจายบนพื้นรวมถึงร่างดัสตินด้วย
เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้น มองลูกน้องคนสนิทของหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ตด้วยความโกรธที่กล้าทำร้ายเขา และกล้ามายุ่งกับเรื่องของเขา
“มึง ไอ้เจคอบ นายมึงเอา อัก!”
ถูกหมัดหนักกระแทกปากเป็นครั้งที่ห้าก่อนจะพูดจบประโยค ดัสตินร่วงกับพื้นอีกครั้งโดนเศษแก้วบาดตามตัวจนเลือดไหล
เจคอบล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อตนเองออกมาเช็ดเลือดเต็มหลังมือออกตนเอง มองดัสตินด้วยท่าทางกวนๆ ยกยิ้มท้าทายก่อนขว้างผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดใส่หน้าดัสติน ก่อนกระหน่ำหมัด ทั้งถีบทั้งเตะจนดัสตินตัวงอ เจ็บระบมไปทั้งตัว
เขาอยากจะกระทืบให้ตายคาตีนซะตรงนี้ที่กล้ามาคร่อมเด็กของเขา ถ้าเขาไม่ตัดสินใจแวะมาดูก่อนกลับลอนดอนซัมเมอร์คงโดนได้เวรนี่ทำร้ายไม่ก็ข่มขืนตามสันดาน
“นับหนึ่งถึงสาม ถ้ามึงไม่ออกไปมึงได้ตายคาตีนกูแน่”
“มึงกล้าดียังไงมาพูดกับกูแบบนี้วะ! นายมึงต้องรับผิดชอบ ราม! อึก!!”
หัวเข่ากระแทกคางอย่างจังก่อนจะพูดจบทำให้ดัสตินหงายหลังล้มตึง นอนหายใจรวยรินแทบหมดแรง
“ไสหัวไป!” เสียงเข้มของเจคอบตวาดดังลั่นจนหญิงสาวที่นั่งหลบมุมอยู่ถึงกับสะดุ้งตกใจตาม
ในตอนนั้นเองลูกน้องดัสตินรีบวิ่งเข้ามาปกป้องเจ้านาย ชายชุดดำสองคนนั้นเตรียมตั้งท่าจะต่อสู้เอาคืนคนที่ทำร้ายเจ้านาย แต่เมื่อได้เห็นหน้าชัดๆ แล้วกลับรีบช่วยกันพยุงตัวเจ้านายออกไปอย่างไว
เจคอบมองตามพวกนั้นออกไปจนพ้นหน้าร้าน เขาหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่ใกล้ขอบโต๊ะมาเช็ดเลือดที่มือก่อนถอดเสื้อสูทออกแล้วคลายเนกไทระบายความอึดอัด
มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อตรงข้อมือทั้งสองข้างพับขึ้นจนถึงข้อศอกขณะเดินไปหาหญิงสาวที่ยังนั่งหลบอยู่ในซอกในมุมโต๊ะ
ยื่นมือให้คนตัวเล็กจับและพยุงตัวเองขึ้นมา
“ออกมาได้แล้ว” เอ่ยเสียงเรียบ ไม่ดุดันเหมือนที่เจอกันคราวก่อน
เธอสบตากับเขาครู่หนึ่งก่อนเม้มริมฝีปากราวกับกำลังคิดกำลังตัดสินใจ ก่อนจะจับมือที่ยื่นรอตรงหน้าและพยุงตัวเองลุกขึ้น
คนตัวเล็กตัวสั่นไม่หายและเจ็บร้าวระบมแทบทั้งตัวจึงทำให้พยุงตัวไม่อยู่ โชคดีที่อีกคนรวบกอดรับไว้อย่างเร็วและช้อนอุ้มขึ้น
เธอนิ่งเงียบขณะโดนอีกคนอุ้ม ในหัวกำลังคิดและปักใจเชื่อในสิ่งที่เขาเคยบกไว้คืนนั้นคือความจริง ดวงตาสวยเหลือบใบหน้าหล่อเหลามีรอยฟกช้ำบางจุดอย่างลืมตัว
“มองแบบนี้นานๆ ฉันจับจูบจริงๆ นะ”
วางคนตัวเล็กบนโซฟานุ่มที่เสียหายน้อยที่สุดในร้าน มองดวงตาคู่สวยและใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาเช่นเดียวกับที่เธอมองเขาเมื่อครู่
“เจ็บตรงไหน” เอ่ยถามต่อเมื่อคนตัวเล็กเหมือนยังมีความตกใจอยู่ เธอนิ่งและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา
“คุณ... เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ” ถามกลับเมื่อรวบรวมสติมาได้นิดหน่อย
“กล่องยาอยู่ไหน”
“เดี๋ยวฉันไปหยิบให้ค่ะ” เหมือนหลุดจากภวังค์ รีบลุกลี้ลุกลนจะไปหยิบกล่องยามาทำแผลให้เขา
เธอทั้งสั่นทั้งตื่นเต้นและใจเต้นแรงมากกว่าตอนที่เจอดัสตินเมื่อครู่ซะอีก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน...
หมับ! ข้อมือเล็กถูกจับไว้และถูกดึงให้นั่งลงเช่นเดิม
“นั่งรอตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องยาที่อยู่บนชั้นวางใกล้บันได
เด็กดื้อที่ตัวเองก็เจ็บยังจะลุกเดินนั่นนี่อีก...
“ฉันทำแผลให้นะคะ”
เปิดกล่องยาแล้วหยิบอุปกรณ์อย่างคล่องมือ เจคอบมองนิ่งๆ ก่อนยกยิ้มมุมปากและปล่อยให้เธอทำแผลที่โหนกแก้มซ้ายให้
“หันหลัง ฉันจะทำแผลให้เธอบ้าง”