บทที่ 1
สองปีก่อน...
แสงไฟสลัวภายในคลับหรูใจกลางเมืองเสียงเพลงสากลเปิดคลอเบา ๆ ขับกล่อมอารมณ์ให้คล้อยตามไปกับของเหลวสีสวยในแก้วค็อกเทลที่ถูกเสิร์ฟมาวางไว้ตรงหน้า นิ้วเรียวแตะที่ขอบแก้วเบา ๆ ส่วนมืออีกข้างก็ยกแก้วนั้นขึ้นมาพิจารณามองถึงสีสันที่สวยงามและรสชาติหวาน ๆ ของมันแต่ร้อนแรงและร้ายกาจไม่แพ้เครื่องดื่มชนิดไหน
"เอ่อ...คุณเฌอลินณ์ครับ คือ...ตอนนี้ได้เวลาปิดร้านแล้วครับ" เสียงทุ้มของผู้จัดการร้านเอ่ยด้วยความตะกุกตะกักมองหญิงสาวก่อนจะรีบหลบสายตาลง
"เดี๋ยวฉันปิดเอง" หญิงสาวตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สาผิดกับอีกฝ่ายที่มองหน้าพนักงานและบาร์เทนเดอร์ด้วยความกังวลใจ
"เอ่อ...คุณเฌอลินณ์ปิดเองไม่ได้นะครับ" ผู้จัดการร้านรีบท้วงทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าจะหาคำอธิบายอะไรมาเจรจา
ถึงหญิงสาวคนนี้จะเป็นน้องสาวของเจ้าของที่นี่แต่หน้าที่ปิดร้านและตรวจสอบความเรียบร้อยนั้นเป็นหน้าที่ของผู้จัดการ หากเจ้านายรู้เข้าว่าปล่อยให้น้องสาวแท้ ๆ ปิดร้านมีหวังโดนเฉ่งหูดับแน่
"พี่ลันไม่ว่าหรอกค่ะ กลับไปเถอะเดี๋ยวฉันปิดให้เอง" เธอโบกมือแทนคำตอบก่อนจะเท้าคางมองคนตรงหน้าและพนักงานคนอื่น ๆ
"แต่ว่า..."
"นี่มันเป็นร้านของพี่ชายฉันนะ ฉันรับรองว่าจะปิดร้านให้อย่างดี พวกเธอก็กลับกันไปเถอะ"
"เอ่อ..." มือหนาแตะที่ไหล่ของผู้จัดการร้านเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงสัญญาณว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้แทน ร่างสูงพเยิดหน้าบอกกับพนักงานทุกคนให้ออกไปจากร้านก่อนจะเดินไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้เอาแต่ทำหน้าบึ้งตึงบอกบุญไม่รับ
"เป็นอะไรลินณ์" เสียงทุ้มของร่างสูงข้างกายทำให้ใบหน้าหวานหันไปมอง ชายหนุ่มผิวขาวจัดที่ตอนนี้กำลังถือแก้ววิสกี้ส่วนมืออีกข้างก็สอดไปใต้กระเป๋ากางเกงจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
"มาทำไรอะพี่พอร์ช"
"พี่มานั่งตั้งนานแล้วไม่เห็นเลยหรือไง" ชายหนุ่มหัวเราะและส่ายหน้าออกมา เขานั่งอยู่ด้านบนโซนวีไอพีมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วทั้งยังเห็นทุกการกระทำของเธออีกด้วยว่านั่งถอนหายใจอยู่หน้าบาร์นี้ตั้งแต่ต้น
"ไม่อะ สายตาของลินณ์มีไว้มองผู้ชายหล่อ ๆ เท่านั้นแหละ" พูดจบก็ถูกมือหนายีที่เรือนผมจนยุ่งด้วยความมันเขี้ยว ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนผู้หญิงคนนี้ก็มักจะชอบกวนประสาทเขาอยู่ตลอด
"แล้วพี่ไม่หล่อรึไง" คนตัวโตเลิกคิ้วมองหญิงสาวอย่างเอาคำตอบ หากพูดออกมาว่าไม่หล่อคงต้องหาไม้มาตีก้นทำโทษให้เข็ด อาจจะมองว่าหลงตัวเองแต่พอร์ชจัดว่าเป็นคนที่รูปร่างและใบหน้าสมบูรณ์แบบและที่สำคัญเรื่องผู้หญิงก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน
"ไม่อะ ไม่เห็นจะหล่อเลย"
โกหก...มันเป็นคำโกหกที่เธอเลือกพูดออกไปเพื่อจบประเด็น ทั้งที่จริงแล้วเขาคือคนที่เธอเคยแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอร์ชคือผู้ชายคนแรกที่เธอชอบแต่ก็ไม่รู้เลยว่าเขาคือเพื่อนสนิทของพี่ชาย
"ไม่หล่อแต่วันวาเลนไทน์ตอนที่พี่อยู่เกรด 12 ก็เราไม่ใช่เหรอที่เอาดอกไม้มาให้น่ะ" พอร์ชยกยิ้มอย่างนึกหยอกล้อเมื่อจำได้เป็นอย่างดีว่าในตอนนั้นมีเด็กสาวผิวขาวใส่แว่นหนาเตอะหอบดอกกุหลาบมาให้เขาแล้วก็รีบวิ่งหนีไปทั้งที่เขายังไม่ได้กล่าวอะไรกับเธอสักคำ
"ตอนนั้นมันหน้ามืดตามัว ผู้ชายมีน้อยก็เลยทำให้ลินณ์คิดว่าพี่หล่อยังไงเล่า!" หญิงสาวโพล่งขึ้นพร้อมกับทำหน้าวีนใส่
"โอ้โห! ตัวแสบ หน้ามืดตามัวเหรอ" ชายหนุ่มหัวเราะกอดอกมองหญิงสาวข้างกายที่กล้าพูดคำนั้นออกมา อยากจะจับเธอมาหยิกให้เขียวเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นกันแต่แม่ตัวดีในตอนนี้ก็โตมากแล้วคงไม่ยอมให้พี่ชายอย่างเขาทำโทษได้ง่าย ๆ อีกเหมือนเคย
"แล้วทำไมไม่กลับสักทีเนี่ย กลับไปสักทีลินณ์อยากอยู่คนเดียว"
"เป็นอะไร ทำไมดูเศร้า ๆ" เมื่อเห็นสีหน้าของเธอก็ทำให้พอร์ชยอมอ่อนข้อลง เขานั่งลงที่เก้าอี้หน้าบาร์ข้าง ๆ ก่อนจะเลื่อนแก้วไวน์ที่เขาตั้งใจรินให้ไปบริเวณด้านหน้าของเธอ
"โดนผู้เทอะ" เธอตอบออกไปตามตรงอย่างไม่คิดปิดบัง ที่เธอนั่งเศร้าแบบนี้เป็นเพราะถูกบอกเลิกกับคุยคนจนทำให้เสียศูนย์
"ถามจริง! ไอ้หน้าไหนมันกล้าเทน้องพี่เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้" พอร์ชมองหน้าคนข้างกายอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ชื่อเสียงของเฌอลินณ์นับว่าเป็นสาวเปรี้ยวไม่แคร์ใคร เขาไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างเธอจะโดนหนุ่ม ๆ ในสต๊อกหักอกจนมีอาการแบบนี้
"มันชื่อไอ้อ๊บ เป็นลูกเจ้าของสายการบิน พี่พอร์ชไปจัดการให้ลินณ์หน่อยดิ มันกล้าทิ้งลินณ์ให้เจ็บปวดแบบนี้ได้ไง น่าโมโหชะมัด!"
"อ๊บ?" ชายหนุ่มถึงกับเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม เขาอยู่ในวงการธุรกิจรู้จักคนก็มากมายแต่ก็ไม่รู้จักกับชื่อนี้เลย
"มันชื่อโอบแต่ลินณ์เรียกว่าอ๊บ เพราะหน้ามันอ๊บ ๆ ไง!
อ๊บ ๆ อะไรเล่ายัยเบ๊อะ!
พอร์ชส่ายหน้าและถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เขาวางแก้ววิสกี้ในมือก่อนจะหยิบแก้วไวน์ของตัวเองชนกับแก้วของเธอแทน
"อะไร" เฌอลินณ์มองแต่ก็ยอมหยิบแก้วตรงหน้าขึ้นมา
"ชน"
"จะมอมลินณ์รึไง ลินณ์กินค็อกเทลไปแล้วจะให้กินไวน์อีกเหรอ" ถึงจะเป็นสายปาร์ตี้สายดื่มสุดเหวี่ยงแต่เธอก็ไม่ใช่คนคอแข็งมากพอที่จะสามารถดื่มเครื่องดื่มหลายชนิดด้วยกันได้
"ดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อย ตอนนี้ชีวิตพี่ก็คล้าย ๆ ลินณ์เลย" แววตาคมแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด ชีวิตของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากหญิงสาวข้างกายเพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ถูกทิ้งแต่เขายังไม่ลืมคนรักเก่าที่ยังคงอยู่ในหัวใจมากกว่า
"อย่าบอกนะว่าพี่เศร้าเรื่องพี่มายด์"
พอร์ชไหวไหล่เบา ๆ ซึ่งนั่นก็คือคำตอบแทนคำพูด มายด์คือคนรักเก่าที่เขาคบกับเธอมานานถึงหกปีตั้งแต่เรียนมัธยม จนกระทั่งเธอได้บอกเลิกกับเขาเพราะความห่างไกลที่เธอต้องไปเรียนต่างประเทศ พอร์ชเศร้าและเสียหลักไปพักใหญ่จนได้รู้ความจริงว่าเธอนั้นมีคนอื่นนั่นก็คือเพื่อนในคลาสของเธอ จากคนเงียบขรึม สุขุม กลายเป็นเสือร้ายลึกที่ซ่อนเล็บและเขี้ยวเอาไว้เวลาล่าเหยื่อ...ในเมื่อซื่อสัตย์ในความรักแล้วต้องเจ็บปวดเขาก็จะเป็นเสือร้ายที่ไม่คิดจะรักใคร
"เลิกกันไปหลายปีแล้วนะยังคิดถึงเขาอีกเหรอ" เฌอลินณ์ถอนหายใจพลางตบไหล่ของชายหนุ่มเบา ๆ เธอเข้าใจความรู้สึกของเขาว่าเจ็บปวดมากเพียงใดเพราะความรักครั้งนี้พอร์ชตั้งใจและจริงจังกับมันมาก
ตอนนั้นเธอรู้ว่าพอร์ชมีแฟนอยู่แล้วเธอเลยตัดใจและกลายเป็นน้องสาวที่น่ารักของเขา เฌอลินณ์พยายามทำตัวให้เป็นปกติเพราะต้องใกล้ชิดและพบเจอกับเขาบ่อย ๆ เนื่องจากพอร์ชเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายเธอ...ถึงแม้มันจะฝืนมากแค่ไหนก็ตาม
"พี่เพิ่งเจอเขาเมื่อไม่กี่วันนี่เอง คิดว่าลืมแล้วนะแต่พอเจอหน้ากลับเสียศูนย์เฉย" พอร์ชเอ่ยปนเสียงขำแต่มันเป็นเสียงขำเยาะเย้ยกับความรู้สึกของตัวเองมากกว่า รู้สึกเจ็บใจที่เขายังคิดถึงคนรักเก่าที่ทรยศจนเจ็บช้ำ
"เจอที่ไหน"
"เจอที่นี่แหละ ไม่รู้มาได้ไงโลกกลมฉิบ!" เขาไม่รู้ว่าการเจอคนรักเก่าในครั้งนี้คืออะไรแต่รู้เพียงว่าเขาไม่อยากเจอเธออีกแล้ว ถึงจะยังคิดถึงแต่ก็ไม่คิดกลับไปโง่อีกแน่นอน
"โอ้โห ดื่มเพื่อลืมเธอแต่ดันมาเจอเธอที่ร้านเหล้า!"
พอร์ชตวัดสายตามองน้องสาวของเพื่อนสนิททำให้เธอรีบยกมือปิดปากตัวเองอย่างกวน ๆ ไม่ว่าจะสถานการณ์เธอก็มักจะกวนเขาได้ตลอดจริง ๆ
ยัยตัวแสบ!
"อะ โอเค ๆ มาชนแก้วกันดีกว่า" เมื่อเห็นสายตาของคนข้าง ๆ ก็ทำให้เธอต้องรีบปรับอารมณ์และหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับแก้วของเขา
หญิงสาวดื่มมันจนหมดแก้วผิดกับอีกฝ่ายที่ยังคงถือมันไว้อยู่อย่างนั้น เมื่อรู้สึกขัดใจทำให้มือเล็กรีบดันแก้วของเขาขึ้นจนกระทั่งพอร์ชดื่มมันจนหมดรวดเดียวเหมือนกันกับเธอ
"ยัยบ้า นี่มันไวน์นะไม่ใช่เหล้าเป๊ก!"
"เหมือนกันแหละน่า มา ๆ เดี๋ยวลินณ์เทให้ใหม่"
พอร์ชถึงกับกุมขมับไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่พูดเรื่องนี้กับเธอ ตั้งใจจะมาระบายความเครียดแต่ดันเครียดกว่าเดิมเพราะแม่ตัวป่วนแสบซ่าจนเขาระอา
ทั้งสองคนนั่งดื่มด้วยไปจนเวลาผ่านไปถึงตีสาม เปลี่ยนเครื่องดื่มไปหลายชนิดจากไวน์สลับมาเป็นเบียร์ถัดมาคนตัวโตก็รับหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์่เสิร์ฟค็อกเทลให้กับเธอตามคำขอ เมื่อดื่มไปหลายอย่างผลที่ตามมาก็คืออาการมึนเมาจนแทบไม่รู้ความหรือรับรู้สิ่งใดได้อีก รวมถึงบาร์เทนเดอร์ป้ายแดงที่จัดว่าคอแข็งระดับตำนานก็ยังต้องเสียอาการให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มผสมปนเปแทบไม่รู้ชนิด
"อื้อ!" เสียงหวานร้องขึ้นหลังจากที่ฟุบใบหน้าลงกับบาร์ เธอดีดตัวคว้าจับสะเปะสะปะจนกระทั่งจังไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างกายที่กำลังเท้าคางมองเธออยู่ข้าง ๆ
"ยังตื่นขึ้นมาอีก" พอร์ชหัวเราะกับท่าทางของเธอที่เมาจนไม่รู้เรื่องและคว้าสิ่งโน้นสิ่งนิี้ไปทั่ว
เขานั่งมองเธอหลับพลางยิ้มไปคนเดียวโดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่าเขาทำแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่และทำแบบนี้ไปทำไม
"อื้อ เมาแล้ว"
"ไม่เมาดิแปลก"
คนตัวเล็กลุกขึ้นก่อนจะประคองตัวเองเดินเข้าไปหาคนตรงหน้า มือเล็กกอบกุมใบหน้าหล่อเหลาของพอร์ชเอาไว้ขณะที่ใบหน้าของเธอก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจ
แววตาคมจดจ้องใบหน้าสวยของน้องสาวเพื่อนสนิทด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวก็ขยับเข้ามาใกล้ อยู่ ๆ เสียงหัวใจก็เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ยิ่งใกล้กลิ่นกายหอมหวานจากร่างกายของเธอก็ทำให้ความรู้สึกปลุกตื่นโดยไม่รู้ตัว
"อย่าเสียใจไปเลยนะพี่พอร์ช เดี๋ยวลินณ์จะปลอบพี่เอง" เสียงหวานเอ่ยแผ่วก่อนจะที่ริมฝีปากบางของเธอจะทาบทับลงที่ริมฝีปากของเขาอย่างบางเบา
พอร์ชหลับตาลงตอบรับสัมผัสของหญิงสาวราวกับถูกต้องมนตร์ ความหวานจากริมฝีปากบางที่เพียงสัมผัสเบา ๆ แต่มันกลับทำให้เขาอยากลิ้มลองความหวานนั้นมากยิ่งขึ้น
มือหนาจับใบหน้าหวานก่อนจะบดริมฝีปากลงและสอดแทรกเรียวบิ้นเข้าไปกวาดชิมในโพรงปากนุ่มของเธอเมื่อรู้สึกมัวเมาและควบคุมตัวเองไม่ได้นับต่อจากนี้
พอร์ชจับไหล่มนเอาไว้ก่อนจะดันร่างของเธอจนแผ่นหลังชิดติดกับบาร์หลังจากนั้นก็บดขยี้และเพิ่มความรุนแรงเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากเธอให้มากที่สุด มือเล็กเกาะเกี่ยวบ่าแกร่งของเขาเมื่อเริ่มรู้สึกเหมือนอากาศเลือนหายทั้งจิกเกร็งและผลักไสแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตัวโตหยุดการกระทำลงได้เลย
"อือ" เฌอลินณ์ร้องประท้วงขณะที่ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และความเขินอาย พอรู้ตัวอีกทีเธอก็จูบเขาอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน
ใบหน้าหล่อเหลายอมผละออกอย่างอ้อยอิ่งทำให้แววตาของสองคนสบประสานกันอย่างลึกซึ้ง ไม่มีคำใดเอ่ยออกมามีแต่ความเงียบงันอยู่ล้อมรอบจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน เหมือนกับว่าเป็นดนตรีขับกล่อมให้ความรักของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นเพียงชั่วคืน
พอร์ชโน้มใบหน้าลงอีกครั้งและครอบครองริมฝีปากสีแดงสดเอาไว้ จูบครั้งนี้หนักหน่วงและลึกซึ้งจนคนตัวเล็กแทบตั้งรับไม่ทัน เธอตกใจแต่ก็ตอบรับสัมผัสของเขาเป็นอย่างดี ในใจได้แต่ตะโกนร้องเรียกชื่อเขาซ้ำ ๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นภวังค์ความฝันหรือเรื่องจริงเธอรู้เพียงว่าเธอมีความสุขที่สุดและอยากให้มันเป็นแบบนี้นาน ๆ
เมื่อถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์มอมเมาความกล้าหาญก็เพิ่มมากขึ้น ยิ่งได้อยู่กับเขาเพียงลำพังก็ทำให้ความรู้สึกในอดีตย้อนหวนกลับมา ไม่ใช่...มันไม่ได้ย้อนหวนกลับมาแต่มันไม่เคยไปไหนเลยต่างหาก
ความรู้สึกทุกอย่างยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของเธอตลอดไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี พอร์ชคือคนที่เธอรักมาโดยตลอดถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขามันเป็นไปไม่ได้
เธอพยายามคบกับคนอื่นมากมายแต่ในหัวใจก็ยังคงเป็นเขาเสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลง...
"พี่คงหยุดไม่ได้" เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยข้างแก้มใสก่อนจะบดริมฝีปากลงที่ริมฝีปากของเโออีกครั้ง เหมือนกับว่าตอนนี้เขามัวเมาและลุ่มหลงในตัวเธอจนไม่สามารถควบคุตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว
วงแขนแกร่งโอบอุ้มคนตัวเล็กเอาไว้ขณะที่ริมฝีปากยังบดคลึงประสานกันอยู่ ร่างสูงพาเธอขึ้นไปชั้นบนที่เป็นห้องพักส่วนตัว เวลาที่ดื่มหนักกลับไม่ไหวเขามักจะพักที่นี่อยู่เสมอ แต่ในตอนนี้เขาจะใช้ห้องนี้เป็นห้องเชือดไว้กัดกินเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น!