บทนำ(จบตอน)

1829 Words
ซึ่งขณะนั้นเหรินซินยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6พอดีแต่ก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใดที่ต้องย้ายมาเรียนต่อที่นี่ ทว่าช่างน่าเศร้าใจนักที่เมื่อราว3ปีก่อนพี่ชายของเหรินซินนามว่าเหรินเซียวก็ถึงแก่ความตายขณะไปปฏิบัติภารกิจหนึ่งที่เป็นความลับสุดยอดของทางการทิ้งเอาไว้เพียงเงินประกันชีวิตและเงินช่วยเหลือจากทางการเอาไว้ให้น้องสาวคนเดียวหนึ่งก้อนไม่มากมายแต่ก็พอให้เหรินซินเรียนต่อจนจบระดับมหาวิทยาลัยได้โดยไม่ต้องดิ้นรน เรียกว่าชะตาของเหรินซินนั้นอาภัพญาติพี่น้องอย่างแท้จริงคนที่ดีและจริงใจก็จากเธอไปหมดส่วนที่มีอยู่ปักกิ่งก็กระหายแต่ทรัพย์สินของเธอเท่านั้นคิดมาถึงตรงนี้เรียวปากจิ้มลิ้มก็กดรอยยิ้มเล็กน้อยคล้ายขบขันเมื่อความทรงจำพร้อมเอกสารของเหรินซินนั้นปรากฏว่าอีกฝ่ายแต่งงานอย่างถูกต้องกับผู้ชายคนหนึ่งมาได้3ปีแล้วเช่นกัน เสียพี่ชายแต่กลับได้สามีมาแทน1คน …เช่นนี้ไม่เรียกว่าญาติแต่ก็นับได้ว่าเป็นคนในครอบครัวหรือเปล่านะ?… ช่างน่าตลกสิ้นดีเพราะตลอดหกเดือนที่เธอมาอยู่ในร่างนี้ยังไม่เคยพบหน้าผู้ชายคนนั้นเลยสักครั้งนอกจากมีเงินจำนวนหนึ่งโอนเข้าบัญชีธนาคารของเหรินซินทุกเดือนเท่านั้นดีจริงมีสามีที่เลี้ยงดูภรรยาด้วยเงิน หากแต่ความทรงจำเดิมก็บอกแก่เธอว่าเหรินซินคนเก่าฝากความหวังเอาไว้กับชายหนุ่มผู้เป็นสามีคนนั้นมากพอดูต่างจากผู้ชายคนนั้นที่กลับไม่เคยโผล่หน้ามาพบเด็กสาวอีกเลยนับจากวันจดทะเบียนสมรสและยกน้ำชากับท่านย่าเมื่อสามปีก่อน แต่ก็คงไม่แปลกอะไรเนื่องจากผู้ชายคนนั้นแต่งงานกับเหรินซินก็คงเพราะเหตุผลแค่เขาคิดจะตอบแทนบุญคุณที่พี่ชายของหญิงสาวนั้นเอาร่างของตนเองรับลูกปืนแทนอีกฝ่ายจนถึงแก่ความตายเท่านั้นหากแต่เหรินซินคนเก่าน่าจะไม่ได้คิดเช่นนั้น ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ? อ้อ เหมือนจะแซ่จ้าว'จ้าวลู่เฉิน'สินะและน่าจะอายุเหมือนจะ29ปีนอกจากนั้นในความทรงจำของเหรินซินก็ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเขาอีกเลยถึงจะพอจดจำหน้าตาได้แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจ้าวลู่เฉินคนนั้นเขามีนิสัยใจคอแบบไหนและยิ่งไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ที่ไหนทำงานอะไร แต่เธอที่มาแทนที่เหรินซินคนเดิมเองก็ไม่คิดจะสนใจสามีตีทะเบียนคนนั้นอยู่แล้ว ถ้วยกาแฟราคาปานกลางไม่หรูหราแต่น่ารักสำหรับเธอที่มีกาแฟร้อนบรรจุอยู่ภายในส่งกลิ่นหอมชื่นใจหายง่วง ถูกหญิงสาวยกขึ้นดื่มช้าๆ พร้อมกับสายตาทอดทองไปยังแปลงผักที่ตนเองเพาะปลูกมันขึ้นมากับมือมาตลอด2เดือนที่ว่างการกลับมาอยู่บ้านเฉยๆ ด้วยว่าถึงฐานะของเหรินซินถึงไม่ได้ยากจนแต่ก็ไม่นับว่าร่ำรวยมีเงินเก็บและเงินจากการเสียชีวิตของพี่ชายนั้นไม่ได้มากมายอะไรถึงจะมีเงินของสามีตามกฎหมายเช่นจ้าวลู่เฉินคนนั้นคอยส่งมาให้ทุกเดือนไม่ได้ขาดก็ตามเพราะชีวิตคนเรามันมีค่า ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร คนไหนยังจะอาหารแมว หากไม่มีเงินจะอยู่ได้อย่างไร ไหนจะเพราะเหรินซินนั้นสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังของหางโจวด้วยล้าค่าใช้จ่ายตลอด4ปีที่ผ่านมาย่อมหมดไปไม่น้อยเลยไม่เหลือเงินเอาไว้เก็บมากนักบวกกับช่วง2ปีหลังมานี้ร่างกายของคุณย่านั้นไม่แข็งแรงเจ็บป่วยจึงต้องใช้เงินไปไม่น้อย ดังนั้นพอเธอมาแทนที่เหรินซินคนเก่าจึงต้องใช้อย่างระมัดระวังยิ่งอนาคตไม่รู้ว่าสามีตามกฎหมายคนนั้นจะส่งเสียเลี้ยงดูเธอไปอีกนานเท่าไหร่เธอยิ่งต้องใช้เงินอย่างมีสติที่สุดก่อนที่ผลงานเขียนของตนเองจะขายได้ก่อนจะประสบความสำเร็จเธอคงต้องมีเงินเอาไว้สำรองอีกมาก ถึงบัดนี้เธอในฐานะเหรินซินจะเรียนจบมาได้2เดือนเศษไม่ต้องมีรายจ่ายหนักทางการศึกษาเหมือนช่วงยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทว่าเธอก็ยังว่างงาน เพราะเหรินซินในอดีตนั้นเธอได้วางแผนชีวิตว่าหากตนเองเรียนจบแล้วจะย้ายไปทำงานกับสามีตามกฎหมายที่เมืองหนานจิ้งเลย เธอจึงไม่ได้คิดหาสมัครงานในหางโจวเอาไว้เลยสักที่ต่อให้อีกฝ่ายฝึกงานมาตั้งแต่ปี2 แล้วเมื่อพอเธอมาแทนที่เหรินซินคนเก่าเมื่อหกเดือนก่อนถึงไม่ได้คิดจะไปอยู่หนานจิ้งกับสามีตามทะเบียนสมรสตามความตั้งใจเดิมของร่างนี้แต่เธอก็มีความฝันเป็นของตนเองเช่นกันเลยไม่คิดจะหางานประจำทำเพราะเธอนั้นไม่ชอบการแข่งขันและเข้าสังคมปั้นหน้า เธอมีความฝันอยากเป็นนักเขียนอาชีพมาตั้งแต่สมัยยังเป็นมนต์จันทรา ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้จะล้าสมัยกว่าโลกที่เธอตายจากมาอยู่20ปีเต็มแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากใจของคนเรานั้นมันรักในสายอาชีพนี้ ดังนั้นเธอมาอยู่ที่นี่หกเดือนหลังจากปรับตัวกับชีวิตใหม่และค้นพบว่าโลกนี้ต่างจากโลกใบเก่าและตนเองไม่สามารถกลับไปตามหาครอบครัวของตนเองที่อาจจะยังไม่ตายเนื่องจากเธอย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่เป็นเวลา20ปีได้แล้วหญิงสาวจึงเริ่มลงมือสานความฝันทันทีทันจนอาทิตย์ก่อนนิยายเรื่องแรกของเธอแต่งจบแล้ว และเพิ่งส่งไปให้สำนักพิมพ์พิจารณาเมื่อวานนี้นี่เองถึงจะย้อนมาในยุคอดีตแต่เธอจะไม่จมอยู่กับอดีตเธอต้องคิดก้าวไปข้างหน้าให้เร็วจะได้ไม่เสียเวลาชีวิตไปเปล่าๆ เช่นสมัยยังเป็นมนต์จันทราอีกเธออยากเป็นนักเขียนก็ต้องลงมือเขียนทันที เหมียว… เสียงของเจ้าแมวอ้วนนาม'ฟาโรห์'ที่เธอตั้งตามความชอบในพระเอกนิยายที่ตนเองเคยอ่านเธอพบมันเป็นลูกแมววัยราวเดือนเศษกำพร้าแม่ที่กำลังเปียกฝนระหว่างทางกลับบ้านเมื่อสามเดือนก่อนจึงเก็บมาเลี้ยงเอาไว้ตรงเข้ามาพันแข้งพันขาของเธออย่างตั้งใจอ้อนขออาหารหลังจากเธอปล่อยให้มันนอนสบายอยู่บนเตียงต่อเมื่อครู่ใหญ่ เหรินซินก้มลงมองมันก่อนจะลุกขึ้นไปจัดการเทอาหารให้เจ้าแมวอ้วนสีส้มแซมสีขาวหน้าเหวี่ยงดูไม่ค่อยพอใจชาวโลกอยู่ตลอดเวลาเห็นแล้วใจมันก็นึกถึงแต่พระเอกนิยายร้ายๆ ทุกครั้งไป "ที่ตื่นนี่คือหิวสินะ มากินมื้อเช้าด้วยกันมาฟาโรห์" "เหมียว" เจ้าเหมียวอ้วนร้องรับคล้ายคนพูดตอบโต้ได้ เหรินซินนั้นหมั่นไส้แต่ก็คลายเหงาได้มากก็เพราะมีมันนี่แหละ หกเดือนนอกจากที่มหาวิทยาลัยเธอก็แทบไม่ค่อยได้คุยกับใครเพื่อนบ้านก็อยู่ห่างออกไปเลยมีแค่เจ้าแมวส้มตัวนี้นี่แหละที่คอยเป็นเพื่อนแท้ถึงในอดีตเก็บมาเลี้ยงมันจะเป็นแมวกำพร้าเช่นเดียวกับตนเองแต่เดี๋ยวนี้กินอิ่มนอนหลับสุขสบายดีก็กลายเป็นแมวกำแหงไปเสียแล้ว "นอกจากกินกับนอน ฉันคิดว่านายควรออกกำลังกายเสียบ้างนะฟาโรห์ เช่นออกไปเดินที่สนามหน้าบ้านอะไรแบบนี้" ขวับ! เจ้าแมวกำแหงหันขวับมามองนางทาสด้วยใบหน้าเหวี่ยงคอแทบเคล็ด เหรินซินเลยหัวเราะเพราะเจ้าฟาโรห์จนน้ำตาไหล แมวกำแหงของตนเองแปลกที่สุดก็คือไม่ชอบออกไปส่องนกเช่นแมวทั่วไป ชอบแต่จะนอนอาบแดดราวกับเป็นพืชรอสังเคราะห์แสงมากกว่าจะเป็นแมว "ตามใจเถอะ หากน้ำหนักเกินจนสาวไม่มองจะมาคิดโทษว่าฉันไม่แนะนำนายไม่ได้นะฟาโรห์" กล่าวจบหญิงสาวก็หันไปเก็บถ้วยกาแฟไปล้างเช็ดทำความสะอาดภายในครัวอีกครู่หนึ่งจึงค่อยออกไปดูแลผักที่ตนเองปลูกเอาไว้ทำผลัดโรลกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนขายในช่วงเย็นเป็นรายได้หลักช่วงที่ตนเองยังไม่มีรายได้จากงานเขียนที่เพิ่งเริ่มลงมือเขียนเมื่อหลายเดือนก่อน ในหนึ่งวันของชีวิตเหรินซินหลังจากเรียนจบได้เป็นบัณฑิตใหม่เช่นเดียวกับชาติที่ตนเองเป็นมนต์จันทรานั้นไม่มีอะไรมาก เธอทำซาลาเปาหรือเสี่ยวหลงเปากับสลัดโรล ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน และพวกขนมลูกชุบบ้างในบางวันหากขายที่หน้าบ้านซึ่งสมัยของคุณย่านั้นยังอยู่ก็ขายเป็นอาชีพ แต่หยุดไปนับตั้งแต่ท่านจากไป พอเธอเรียนจบจึงกลับมาสานต่อจึงยังมีลูกค้ามาอุดหนุนทุกวัน ก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวกับรายได้ตรงนี้ ยิ่งเธอทำมันด้วยความสุข ไม่ว่าจะเป็นปลูกผักอินทรีย์ตามความรู้ที่ตนเองเลือกเรียนสมัยเมื่อเป็นมนต์จันทรากับการทำของว่างและขนมที่ตนเองก็เรียนรู้มาจากมารดาในภพชาติเก่า ไหนจะยังมีความรู้จากร่างเดิมในสูตรซาลาเปาอีกด้วย แล้วหน้าบ้านแห่งนี้ก็เคยเป็นร้านของคุณย่ามาก่อนย่อมมีฐานลูกค้าเดิมจึงขายหมดทุกวันกำไรก็งาม เมื่อเสร็จจากงานขายปิดร้านหน้าบ้านแล้ว ทำความสะอาดทุกสิ่งแล้วทีนี้ก็เป็นเวลาพักผ่อนกับเตรียมหาข้อมูลเตรียมตัวเขียนนวนิยายเรื่องใหม่ เรียกว่าเธออาจชะตาอาภัพต้องไร้ญาติขาดมิตร แต่กลับโชคดีที่ค้นพบตนเองเร็ว ได้ทำอาชีพที่รัก มีบ้าน ที่ดินพอสมควร กับรถจักรยานหนึ่งคันและแมวหนึ่งตัว ชีวิตนี้เหรินซินในวัย21ปีรู้สึกว่าตนเองมีความสุขมากจริง ทว่าชีวิตที่หญิงสาวคิดว่าสงบสุขกลับสั้นกุดยิ่งนัก เพราะกลางดึกคืนนั้นนั่นเอง กลับมีคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาลักพาตัวเธอกับเจ้าแมวอ้วนออกจากบ้านไปอย่างที่เหรินซินไม่ทราบจริงๆ ว่าคนพวกนั้นมันเป็นใคร ต้องการอะไร ในเมื่อเธอก็ไม่ได้ร่ำรวยมากพอจะให้ใครจับตัวไปเรียกค่าไถ่สักนิด!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD