สิ่งเดียวที่ท่านไตรภูมิยืนกรานเสียงหนักแน่น คือการที่ทั้งสองคนต้องแต่งงานกันเท่านั้น ถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการด้วยกันทั้งคู่ ไม่รักกันก็ไม่เห็นเป็นไร.. ท้ายที่สุดเหตุการณ์วุ่นวายก่อนหน้านี้ก็จบลง ด้วยการที่อิงจันทร์ลากเอกชยินทร์มานั่งประจันหน้าพูดคุยได้สำเร็จ ต่อให้สีหน้าเขาจะไม่ค่อยน่าเสวนาด้วยก็ตาม “ถ้าเกิดว่าเราทั้งคู่ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เธอกับฉันจะหย่ากันภายในหนึ่งปี ตกลงมั้ย” เอกชยินทร์ลูบคมหน้ากับอาการมึนตึงที่ขมับ พลางกวาดสายตามองพื้นห้องที่มีแต่ขวดเหล้าวางเกลื่อน “ในสัญญาคุณลุงบอกขั้นต่ำ 3 ปีค่ะ” “บ้าไปแล้ว นานขนาดนั้นใครมันจะทนได้” พอได้เห็นเขาระเบิดอารมณ์ อิงจันทร์ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเปรยสายตาขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ฟังนะคะ” น้ำเสียงที่ไร้ซึ่งแวว ส่งผลให้อีกคนหยุดฟังทันที “ฉันไม่ใช่คนที่จะอ้อนวอนขอความรักจากพี่ ที่ทำลงไปก็เพราะฉันมีสิ่งที่ต้องการเหมือนกับพี