"ระ...ร้อนจังอึก...ร้อน...มะ..ไม่ไหวแล้ว"
อาการของฟารินเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้านั้นแดงก่ำจากพิษเหล้าที่ดื่มเข้าไป เธอนั่งบิดตัวไปมาด้วยความทรมานแทบขาดใจ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศในห้องสี่เหลี่ยมไม่ทำให้ร่างกายเธอหายร้อนรุ่มได้เลย
โจชัวนั่งมองฟารินต่อสู้กับฤทธิ์ของยากล่อมประสาทพลางยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสมเพช เขาวางแก้วไวน์ชั้นเลิศลงโต๊ะกระจกแล้วหันไปมองเจด้าคนที่พาเด็กโง่เขลาคนนี้มาหา
"พามาทำไม?"
"ช่วยน้องเขาหน่อย ฉันรู้ว่านายมียาที่จะช่วยถอนยากล่อมประสาท"
"หึ...ทำไมฉันจะต้องช่วยเด็กนี่ด้วย โง่เองนิ" เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะหยิบบุหรี่ยี่ห้อที่ชอบสูบออกมาคาบไว้ในปาก ตามด้วยใช้ไฟแช็คลนปลายกระบอกจนเกิดควันสีเทาลอยคละคลุ้งกระจายไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม
"แต่น้องเขาน่าสงสารนะ น้องเขาถูกหลอกมาโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย" เจด้าพยายามหว่านล้อมให้โจชัวช่วย ความจริงเธอไม่พาเด็กคนนี้มาให้โจชัวช่วยเหลือก็ได้นะแต่เพราะถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นเลยตัดสินใจพามาหาโจชัว
"เด็กคนนี้เป็นญาติเธอรึไง" มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเรียบแล้วพ่นควันสีเทาออกจากปาก พร้อมกลับชำเลืองหางตามองฟารินที่ตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวเต็มทนแล้ว
"ฉันแค่สงสาร นายช่วยน้องเขาหน่อยนะ"
"ฉันไม่ได้เตรียมยามาด้วย ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำให้แม่เล้าอย่างเธอเสียเวลามาหา"
เจด้านั่งกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจในคำตอบของโจชัว ผู้ชายอะไรหล่อซะเปล่าแต่ร้ายกาจชะมัด ผู้หญิงแบบไหนนะถึงจะปราบผู้ชายเย็นชาและร้ายกาจคนนี้ได้อยู่หมัด
"อื้อ...ร้อน...ระ...ร้อนจัง...ทำไมถึง...ร้อนแบบนี้"
ฟารินเริ่มนั่งไม่ติดโซฟา เธอคลานมาหาโจชัวขึ้นนั่งบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะทำเอาเจด้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่ผิดกับมาเฟียหนุ่ม เขานั่งนิ่งมองใบหน้าสวยหวานแดงก่ำที่ยื่นหน้ามาใกล้ๆก่อนจะหันไปมองเจด้าเล็กน้อย
"ถ้าเธอไม่พาเด็กโง่คนนี้ไปให้พ้นหน้าฉัน ฉันไม่รับประกันนะว่าเด็กคนนี้จะอยู่รอดถึงพรุ่งนี้เช้าไหม"
"นายก็เอายาให้น้องเขากินก่อนสิ"
"ไม่" มาเฟียหนุ่มตอบสั้นๆพร้อมพ่นควันสีเทาใส่หน้าของฟาริน จนเธอสำลักออกมาหน้าดำหน้าแดง
"แค่กๆ!" เด็กสาวฝังใบหน้าลงอกแกร่งของโจชัวเพื่อหลบกลิ่นเหม็นไหม้ โดยมือสองข้างกำคอเสื้อเชิ้ตสีดำเขาไว้แน่น
"นายอย่าใจร้ายไปหน่อยเลย ยาเม็ดเดียวจะเท่าไหร่กันเชียว"
"มีปัญญาจ่ายแทนเหรอ"
"เม็ดเท่าไหร่กันเชียว"
"ฉันไม่ขายเป็นเม็ดรู้ไว้ซะด้วย" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มใส่เจด้าก่อนจะก้มมองเด็กน้อยบนตัก "แต่ถ้าให้ช่วยด้วยวิธีอื่นก็พอไหว"
"เหอะ! หนีเสือมาปะจระเข้ชัดๆ" เจด้าแค่นหัวเราะออกมาในลำคอ เธอเอนตัวพิงพนักโซฟาตวัดขาเรียวสวยไขว้กันมองหน้ามาเฟียหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยถามอีกเป็นครั้งสุดท้าย "สรุปจะช่วยไม่ช่วย"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เอายามาด้วยถึงเอามา เธอก็ไม่มีปัญญาซื้อหรอก"
"ดูถูก?"
มาเฟียหนุ่มไหวไหล่ขึ้นเล็กน้อย บอกตรงๆเลยนะกลิ่นหอมของเด็กวัยแรกแย้มอย่างเด็กโง่คนนี้ มันกระตุ้นอารมณ์กระสันของเขาได้ดีไม่น้อยแถมยังเป็นคนแรกที่ทำให้เขา...เกิดอารมณ์
"ถ้างั้นก็..."
ครืด ครืด~
เสียงเรียกเข้าทำเจด้าจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด เธอล้วงเอาสมาร์ทโฟนหรูออกจากกระเป๋าแบรนด์เนมหรูกดรับสายแล้วเอาแนบหู
"มีไร ว่าไงนะ! ได้ๆเดี๋ยวฉันรีบไป"
"จะไปก็เอาเด็กของเธอไปด้วย อย่ามาทิ้งไว้ในห้องทำงานของฉันให้เกะกะ"
"ฝากไว้แป๊บเดียว พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อย" เจด้าไม่รอช้าผลุนผลันลุกขึ้นวิ่งบนส้นสูงหกนิ้วออกไปจากห้องทำงานโจชัวอย่างรวดเร็ว
"อื้อ~" เสียงครางในลำคอทำมาเฟียหนุ่มก้มลงมองอีกครั้ง ตอนนี้ฟารินกำลังแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของโจชัวออก กลิ่นหอมจากเพศตรงข้ามเป็นตัวกระตุ้นยากล่อมประสาทให้ทำงานหนักขึ้น
"ถ้าไม่อยากตายก็ควรจะรู้ไว้นะว่าไม่ควรทำแบบนี้"