“อะไรคะ”
อาภาภัทรผละจากอกยาย แล้วหันไปหาแม่ มือก็ดึงทิชชูจากโต๊ะกลางขึ้นมาซับหยดใสๆ ไป ตาก็มองของที่แม่กำลังพูดถึงไป ก็เห็นว่าเป็นถุงใบใหญ่ด้านในเป็นซองเงินคนมาช่วยงาน
“แม่รีบเอามาให้แต่เช้า ไม่อยากเก็บไว้นาน กลัวจะหาย แกะออกนับดูนะจ๊ะ แล้วอย่าลืมลงบัญชีไว้ด้วยว่าใครช่วยเท่าไหร่ ตอนงานของเขา เราจะได้ช่วยกลับไปถูก แล้วก็เก็บเข้าบัญชี เป็นเงินขวัญถุงในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ห้ามถอนออกมาใช้เด็ดขาด หรือคุณดรณ์ว่ายังไงคะ” อาภาหันไปหาลูกเขยที่นั่งนิ่งมาครู่หนึ่งแล้ว
“แล้วแต่เลยครับคุณแม่”
เขาหมายความอย่างที่บอกไว้จริงๆ ด้วยคิดว่าเงินแค่นั้นไม่ได้ทำให้เขาล่มจมแน่ อยากจะเอาไปทำอะไรหรือเอาไปให้ใครก็แล้วแต่
“ถ้าแล้วแต่อย่างนี้ แม่แนะนำให้เวเอาไปเปิดบัญชีต่างหากไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกๆ ก็แล้วกัน รู้มั้ยว่ากว่าจะเลี้ยงโตจนได้แต่งงานแต่ละคน ต้องใช้เงินกี่สิบล้าน”
อาภาภัทรเกิดอาการอึ้งจนพูดไม่ออก มือที่กำลังจะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบก็ถึงกับหยุดกึกอยู่กลางอากาศ ด้วยไม่รู้จะบอกแม่ยังไง ว่าไม่มีทางที่แม่จะได้อุ้มหลานแน่ มิหนำซ้ำแม่ยังจะต้องอับอายอีกต่างหาก ที่แม่จะมีลูกเป็นม่ายตั้งแต่ยังอายุแค่นี้
“นับเงินในซองเสร็จแล้ว ก็แกะของขวัญพวกนี้นะจ๊ะ ถ่ายรูปเก็บไว้ว่าใครให้อะไรมา ตอนช่วยกลับจะได้ประมาณถูกว่าต้องซื้ออะไร หรือจะต้องช่วยเงินเท่าไหร่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก็ห้ามละเลยนะเว เพราะแต่ละคนสำคัญเรามาก โดยเฉพาะแขกของคุณดรณ์ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าสนิทกันมาหลายสิบปีด้วย”
“ค่ะ”
“แล้วเสื้อผ้าของเราที่ขนมาวันก่อนล่ะ จัดเข้าตู้เสร็จหรือยัง”
“ยังค่ะ”
“งั้นก็รีบจัดให้เสร็จก่อนวันไปฮันนีมูนนะ แม่จะรีบกลับไปดูแลร้าน เมื่อวานผู้จัดการโทรมาบอก ว่าลูกค้าเต็มร้านเลย”
“ไหนคุณแม่กับคุณยายบอกว่าจะย้ายมานอนที่นี่ แล้วอยู่กับเวสักสองอาทิตย์ถึงจะกลับไงคะ”
“ตอนแรกก็คิดไว้อย่างนั้นล่ะจ้ะ แต่มาคิดอีกที มีแม่กับคุณยายมาอยู่ด้วยจะเกะกะเปล่าๆ เวกับคุณดรณ์จะได้อยู่ด้วยกันแบบไม่มีคนอื่นมาแทรก”
“คนอื่นที่ไหนกันครับคุณแม่”
ดรณ์รีบแย้ง ด้วยไม่คิดจะแยกสามคนให้ห่างกันเร็วนัก เพราะรู้ดีว่าสนิทกันมากแค่ไหน
“แม่รู้ค่ะว่าคุณดรณ์ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่แม่ต้องรีบกลับไปดูร้านค่ะ ทิ้งผู้จัดการกับเชฟไว้นานไม่น่าจะดี”
“เวก็คอยดูอยู่นี่คะคุณแม่”
“ดูผ่านไลน์มันจะไปได้เรื่องอะไรล่ะเว สู้แม่ไปคุมเองได้เหรอ”
“แล้วคุณแม่จะไปวันไหนคะ”
“กินมื้อเที่ยงเสร็จ ดูเราแกะของขวัญเสร็จก็จะไปแล้วจ้ะ แม่เปลี่ยนไฟล์เรียบร้อยแล้ว อย่ามัวแต่ทำตัวเป็นลูกแหง่สิเว แต่งงานแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว รีบกินของนั่นแล้วก็รีบแกะซองซะ”
“ค่ะ”
เสื้อคลุมผ้ากำมะหยี่สีชมพู ถูกเอาจากตู้มาสวมทับชุดนอนผ้าบางเบาสีขาวยาวเกือบจะถึงตาตุ่มไว้ เมื่อรู้ว่าจะต้องนั่งอยู่กับพื้นเป็นเวลานาน อาภาภัทรไม่วายมองซองสีน้ำตาลที่ด้านในมีเงินช่วยงานเกือบล้านบาทอีกครั้ง
ตั้งมั่นว่าพรุ่งนี้จะเอาไปเปิดบัญชีใหม่อย่างที่แม่บอกไว้ ก็ในเมื่อเขาไม่แยแสเงินอันน้อยนิด เรื่องอะไรตัวเองจะไม่เก็บไว้ เพราะรู้ว่าเวลาไม่มีจะกินนั้นมันเป็นยังไง
ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเม็ดแรก ที่แอบไปซื้อตอนพาแม่กับยายไปเดินช้อปปิ้ง ถูกเอาจากลิ้นชักตู้หัวเตียงมากินทันที ในเมื่อรู้ดีว่าชีวิตแต่งงานจะอยู่ไม่ยืด จึงไม่อยากให้มีปัญหาใหญ่เรื่องลูกตามมา
และแม้จะเสียใจอย่างล้นเหลือ เมื่อวิมานอันสวยหรูที่วาดหวังไว้ว่าจะสร้างร่วมกันพินพังลง แต่ก็บอกตัวเองว่าไม่ให้คร่ำครวญใดๆ จะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป
ห้องโถงด้านนอกที่เจ้าของบ้านบอกว่าเอาไว้ใช้ต้อนรับแขกคนสนิทจริงๆ คือจุดหมายที่เดินไปหยุดยืนอยู่ตรงนั้น ไฟในสวนอันกว้างใหญ่เปิดสว่างไสวเมื่อเดินไปมองตรงหน้าต่าง
เมื่อแรกมาเห็นบ้านนี้และบนเนื้อที่สามไร่ ทำเอาใจสั่นไม่น้อย ด้วยราคาของมันนั้นร่วมสองร้อยล้าน และจินตนาการไม่ออกว่าตัวเองจะมีความสุขมากแค่ไหน
ถ้าได้เป็นภรรยาของเขา ได้ร่วมเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติที่มีมากมาย ทั้งจากมรดกและจากน้ำพักน้ำแรงของเขาที่ทำต่อยอดขึ้นอีกทอด
“แม่ชอบคุณดรณ์ตรงที่ไม่ได้นั่งๆ นอนๆ ใช้เงินที่ครอบครัวหาเอาไว้ให้ แต่รู้จักเอามาทำต่อยอดจนมันงอกออกไปอีกมากมาย คนแบบนี้ต่อให้เจอปัญหายังไง สุดท้ายก็จะพาตัวเองและลูกสาวแม่รอดด้วย แม่คิดว่าคุณดรณ์คือผู้ชายที่แม่อยากได้มาเห็นลูกเขย คุณยายก็เห็นด้วย แต่ครั้งนี้แม่จะไม่บอกให้เวเลือกหรอกนะจ๊ะ เวจะต้องคิดเองตัดสินใจเอง และต้องอยู่บนพื้นฐานของความรัก ไม่ใช่บนพื้นฐานของปัญหาที่เรามี”
อาภาภัทรผละจากหน้าต่างเดินกลับไปหากองกล่องของขวัญ ที่ให้คนในบ้านยกจากห้องนั่งเล่นขึ้นมาไว้บนนี้ตั้งแต่ตอนบ่าย เพราะเขามีงานด่วนเข้ามา
เลยเสนอให้ยายกับแม่ออกไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าใกล้ออฟฟิศ เพื่อจะได้เจียดเวลามากินมื้อเย็นด้วย แล้วเขาก็จะกลับไปเคลียร์งานต่อ ส่วนตัวเองก็ไปส่งแม่กับยายที่สนามบินคนเดียว
สองทุ่มแล้วเขาก็ยังไม่กลับ และไม่มีทางที่อาภาภัทรคนนี้จะโทรตาม แถมไม่อยากละเลยคำสอนของแม่กับยายด้วยการนอนก่อน เลยคิดว่ามานั่งแกะกล่องของขวัญรอจะดีกว่า ไม่เป็นการเสียเหลี่ยมด้วย เมื่อเขามาเห็นว่ายังไม่นอน นั่นเพราะฉันไม่ได้รอคุณ แต่ฉันมีงานต่างหาก
กล่องแรกนั้นปรากฏว่าเป็นน้ำหอม จัดเป็นชุด มีหกขวด แยกอย่างชัดเจนระหว่างชายหญิง แถมยังเป็นยี่ห้อที่ตัวเองกับเขาใช้ด้วย พอดูการ์ดถึงได้รู้ว่าเป็นของคุณป้าดวง ผู้ซึ่งเปิดเผยข้อมูลของเขาให้แม่รู้ทีละนิดละน้อย นับตั้งแต่เจอกันในงานกาล่าดินเนอร์ อาภาภัทรยังจำความรู้สึกแรกที่ได้เห็นหน้าเขาได้ดี