EP 18

1176 Words
หัวใจดวงนี้เต้นไม่เป็นส่ำเอาเสียเลย เพราะเขาหล่อบาดใจ กับส่วนสูงร้อยแปดสิบเก้า ทำเอาคุณป้าดวงเตี้ยลงไปถนัดเวลายืนอยู่ใกล้กัน ทักซิโดดำ เสื้อตัวในสีขาวนั้น ส่งให้เขาโดดเด่นกว่าผู้ชายคนไหนในงาน ใบหน้านั้นก็เกลี้ยงเกลา รอยเขียวครึ้มตรงกรามทั้งสองข้าง เพิ่งผ่านการโกนหนวดมานั้นดูมีเสน่ห์เหลือร้าย ใต้จมูกโด่งเป็นสันก็มีรอยเขียวครอบคลุมไว้ ส่งให้ใบหน้าเขาดูเข้มนิดๆ แต่เวลายิ้มกลับทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าอายุลงมาเป็นสิบปี และเธอก็ชอบเห็นเวลาเขายิ้มไม่น้อย จำได้ว่าคืนนั้นตอนเดินออกจากห้องน้ำแล้วเห็นเขากำลังเดินตรงไป หัวใจให้เกิดอาการไหวหวิวขึ้นหนักกว่าเดิม สองขาก็สั่นน้อยๆ และบ่นตัวเองในใจไม่ได้ ว่าไม่ควรเลือกรองเท้าส้นเข็มเลย เพราะมันเกือบจะพาเท้าพลิกไปแล้ว “เจอกันอีกแล้วนะครับ” เสียงของเขานั้นช่างนุ่มนวล ใบหน้าเวลายิ้มนั้นก็ดูช่างอบอุ่น รองเท้าของเขาถูกขัดเงาจนมันปลาบ ผมยักศกตัดสั้นทรงเจนเทิลแมนหรือทรงคุณชายได้รับการปาดเจลไว้อย่างดีนั้น ช่วยส่งให้เขาดูสุขุมลุ่มลึก และเหมาะกับบุคลิกที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงอย่างเหลือร้าย แน่นอนว่ามันทำเอาสาวสวยอย่างเธอตะลึงแล้วตะลึงอีก “ค่ะ” แต่ก็พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น พยายามควบคุมริมฝีปากไม่ให้คลี่ยิ้มมากเกินไป ด้วยจำคำสอนของแม่กับยายได้อย่างแม่นยำ ว่าเมื่อยามเจอชายโดนใจไม่ควรเผลอแสดงให้เขารู้เป็นเด็ดขาด “ที่ร้านคุณเว มีเมนูอะไรเป็นซิกเนอเจอร์ครับ เผื่อพาลูกค้าไปผมจะได้สั่งมาชิม” แม้จะเห็นว่าการยืนคุยกับผู้ชายตรงหน้าทางจะเข้าห้องน้ำดูไม่ค่อยเหมาะ แต่เมื่อเขามีคำถามแบบกลางๆ และเป็นการเป็นงานมาให้ขนาดนี้ มีหรือจะหลีกเลี่ยงไม่ตอบได้ “ก็มีหลายอย่างค่ะ ถ้าเมนคอร์สก็จะเป็นสไปซี่วากิวออสเตรเลี่ยนสเต๊กค่ะ” “ชื่อน่าสนใจจังครับ พอจะขยายความได้หรือเปล่าครับ ว่าหน้าตาเป็นยังไง” “ก็เป็นสเต๊กเนื้อวากิวที่เลี้ยงในประเทศออสเตรเลียค่ะ ชิ้นหนึ่งมีน้ำหนักตั้งแต่สองขีดครึ่งถึงหนึ่งกิโล แล้วแต่ลูกค้าจะสั่งค่ะ เราจะเสิร์ฟพร้อมเฟรซสลัดกับกิลสลัดคือเห็ดออรินจิ ฟักทองญี่ปุ่น หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ พริกหวาน กระเทียมค่ะ ถ้าคุณดรณ์เป็นมีตเลิฟเว่อร์และชอบเนื้อแบบไขมันน้อย ให้ได้เคี้ยวหนึบหนับมากกว่าเนื้อนุ่มแบบละลายในปาก ก็น่าจะพอใจเมนูนี้ค่ะ” “คุณเวอธิบายซะผมหิวไปเลยครับ มั่นใจว่าได้ไปเชียงใหม่เมื่อไหร่ ผมต้องไม่พลาดแน่เลย ว่าแต่เจ้าของร้านจะลดให้กี่เปอร์เซ็นต์กันน้า” เจ้าของร้านสาวยิ้มกว้างกว่าเดิมนิดหนึ่ง ด้วยไม่คิดว่าคนมีเงินอย่างเขาจะกล้าถามหาส่วนลด แม้จะรู้ว่าเขาเองคงไม่ได้จริงจังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ “ถ้าเป็นลูกค้าพิเศษของคุณแม่หรือคุณยาย ส่วนใหญ่จะลดให้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ” “เอ! แล้วผมต้องทำยังไงกันครับ ถึงจะได้เป็นลูกค้าพิเศษของคุณน้ากับคุณยายคุณเวบ้าง” “ก็ต้องไปทานบ่อยๆ ค่ะ ครั้งแรกเวลดให้สิบเปอร์เซ็นต์ก่อนก็ได้ค่ะ” “ได้เลยครับ ว่าแต่คุณเวจะกรุณาเป็นเชฟให้ผมหรือเปล่าครับ” “ถ้าคุณดรณ์ไปตรงช่วงวันหยุดของเชฟ เวก็จะเข้าครัวเองอยู่แล้วค่ะ” “บอกได้หรือเปล่าครับว่าเชฟหยุดวันไหนบ้าง” “เดือนนี้ตารางยังไม่ออกค่ะ ไว้ถ้าคุณดรณ์จะไปวันไหนก็โทรถามที่ร้านได้ค่ะ” “ได้เลยครับ ว่าแต่คุณเวจะอยู่ในกรุงเทพอีกกี่วันครับ พักบ้านหรือโรงแรมครับ” “ทริปนี้พักบ้านคุณป้าดวงค่ะ” “จะเที่ยวอยู่กรุงเทพอีกนานหรือเปล่าครับ” “คุณแม่จะอยู่หลายวันหน่อยค่ะ เพราะคุณป้าดวงเหงาเลยโทรตามคุณแม่ให้มาคุยเป็นเพื่อน” “แล้วคุณเวล่ะครับ” “เวต้องรีบบินกลับไปดูร้านกับอยู่เป็นเพื่อนคุณยายค่ะ เดี๋ยวขออนุญาตไปหาคุณแม่ก่อนนะคะ ใกล้จะได้เวลาเข้างานแล้วค่ะ” แม้อยากจะยืนคุยกับเขาให้นานกว่านั้น แต่ก็จำต้องตัดใจจากมา ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมสักนิด ที่จะทำตัวให้เข้าถึงง่าย อีกทั้งผู้ชายที่พึงจะพาตัวไปให้เห็นบ่อยๆ คือเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งเป็นแม่งานจัดกาล่าดินเนอร์การกุศลมากกว่า เพราะแม่ตรวจสอบมาดีแล้ว ว่าเป็นหนุ่มโสด ฐานะการเงินมั่นคง แต่ไม่รู้ทำไมในหัวถึงมีแต่ภาพใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาตามติดมาด้วยกันนะ ใจก็ยังไม่หายสั่น ยิ่งในตอนสายของวันรุ่งขึ้น มีเขาเข้าไปอยู่ในบ้านคุณป้าดวงด้วยแล้ว ยิ่งใจสั่นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า พร้อมกับเฝ้าถามตัวเองอยู่ไม่ขาด ว่าเขาจงใจจะพาตัวเข้ามาหาหรือเปล่านะ “ก็เมื่อคืนตอนนั่งกินข้าวด้วยกัน สรวงก็บอกคุณอ้อ คุณส้ม ว่าเที่ยงนี้คุณดวงชวนมาชิมอาหารฝีมือเชฟสุดสวย สองสาวก็อยากจะมาใหญ่ สรวงเลยโทรบอกคุณดวงตั้งแต่เช้าไงคะ ว่าจะมีแขกเพิ่มสองคน แต่หลังจากนั้นชั่วโมงเดียว สองสาวก็ดันโทรหาสรวงว่าติดงานด่วนให้มาคนเดียวก่อน เสร็จแล้วจะตามมา แถมไม่บอกด้วยว่าเป็นตอนไหน สรวงรู้เลยล่ะค่ะว่าถูกลอยแพแล้ว นึกขึ้นได้ว่าคุณดรณ์เปรยๆ ไว้ ว่าถ้าได้ไปเชียงใหม่จะลองหาเวลาไปชิมอาหารที่ร้านคุณภา สรวงเลยโทรไปจิกให้มาเป็นเพื่อนทันทีค่ะ นี่ถึงขนาดหนีประชุมมาเชียวนะคะคุณดวง” สรวงสุดานั่งไขว่ห้างอยู่ในห้องรับแขกจีบปากจีบคอเล่า อาภาภัทรก็เห็นดวงดารายกมือขึ้นทาบอกทันที “อุ๊ยตายแล้ว! ทำไมคุณสรวงทำแบบนี้กับหนุ่มหล่อของเราคะ เล่นไปลากมากจากออฟฟิศเชียว ว่าแต่นี่วันหยุดไม่ใช่เหรอคะ คุณดรณ์ยังทำงานอีกเหรอคะ” “พอดีเรียกบรีฟงานที่บ้านก่อนไปเท่านั้นครับ ไม่ได้อยู่ออฟฟิศหรอกครับ” ดรณ์อธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่ม ขณะนั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างสบาย สายตานั้นก็มองไปหาคู่สนทนาอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ก็ไม่วายแอบชำเลืองไปหาเชฟสาว ซึ่งวันนี้มีกระโปรงผ้าชีฟองสีฟ้ายาวระดับเข่า กับเสื้อยืดพอดีตัวสีขาวหุ้มไว้ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD