แม้ในวันแต่งงานของเทวาและพี่สะใภ้ พิลาลศจะไม่ได้อยู่ร่วม แต่เธอก็พอจะรู้สถานการณ์
การที่คุณหญิงพลับพลึงไม่ยอมรับลูกสะใภ้ แต่ด้วยเหตุบังคับแบบที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มุกรินตั้งท้องหลังจากคบพี่เทวาได้ไม่กี่ปี
คู่บ่าวสาวเองก็ไม่มีทาางเลือกมากนักกับการแต่งงาน พิธีจึงจัดขึ้นแบบกะทันหัน
มุกรินไม่เคยแม้แต่ลองชุดเจ้าสาวด้วยซ้ำ
"น้องลศวางแผนจะแต่งงานเหรอคะ"
"เปล่าค่ะ ลศยังโสด โสดแบบ โสดสนิทมากๆ" เธอรัวพูดออกมาอย่างไม่เป็นตัวเอง
อันที่จริงวันนี้พิลาลศไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองมากเท่าไหร่ เพราะการที่ได้อยู่ใกล้ชิดมุกริน
"แล้วชวนพี่เข้ามาทำไมคะ"
"ก็แค่อยากลองค่ะ"
"ลองชุดเจ้าสาวเนี่ยนะคะ"
"ก็เผื่อสักวันได้แต่งไงคะ"
"อย่าเลยค่ะ โบราณเค้าถือนะคะ"
"งั้นก็เผื่อไม่ได้แต่งก็ได้ค่ะ คืออย่างน้อยก็มีโอกาสได้ใส่"
"ความคิดแปลกๆ นะคะ"
"คุณมุกก็มาลองด้วยกันสิคะ"
"ไม่ดีกว่าค่ะ มันจะดูไม่ดี"
"คุณมุกก็อยากลองใส่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ"
"คะ?"
"ในงานแต่งงาน คุณมุกใส่แต่ชุดไทย ไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดเจ้าสาวด้วยซ้ำ"
"แต่แค่ตอนนี้ ลองสักครั้ง มันก็น่าสนุกใช่มั้ยล่ะคะ"
"เอ่อ พี่ว่า..."
"เดี๋ยวลศใส่เป็นเพื่อนค่ะ"
"งั้นก็ได้ค่ะ"
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพิลาลศจะกลายเป็นคนจัดการแทนมุกรินเองเสียทุกอย่าง ทั้งช่วยเลือกแบบ เลือกสี และเลือกเครื่องประดับ
แบบที่ตัวเองยังสวมชุดเดิม
"ตกลงแล้ว พี่หรือน้องลศกันแน่คะที่อยากลองใส่" มุกรินถึงกับเอ่ยแซว
"งั้น... ลศใส่ชุดนี้ค่ะ" เธอเลือกแบบที่ไม่ได้ใส่ใจนัก และมุกรินคงจะดูออก
"น้องลศดูคล่องตัว ใส่ชุดที่ฟูๆ แบบนั้นไม่เหมาะค่ะ"
"งั้นคุณมุกช่วยเลือกให้หน่อยได้มั้ยคะ เอาแบบที่คุณมุกคิดว่าเหมาะกับลศ"
มุกรินเพียงส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ก่อนจะช่วยสำรวจดูชุดจากหุ่นที่ตั้งเรียงรายและ
"ชุดนี้เป็นไงคะ" พูดพร้อมชี้ไปที่ชุดเจ้าสาวสีขาวนวล ไร้ลวดลายหรือลูกไม้แต่งแต้ม เพียงเป็นชุดเรียบๆ แต่ปาดไหล่เพียงนิดให้ดูไม่ตัน
"เลือกได้ดีมากเลยค่ะ ลศชอบชุดนี้"
จากนั้นพวกเธอทั้งคู่ก็แยกกันเข้าห้องลองเพื่อเปลี่ยนชุด
สำหรับพิลาลศ มันไม่หวือหวาเท่าไหร่ คงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การแต่งกายประจำวันของเธอด้วยซ้ำ ที่มันน้อยชิ้น แต่จะต่างออกไปแค่เป็นสีขาว
เธอออกมายืนรอพี่สะใภ้ ที่หล่อนช้ากว่าเพราะมีอุปกรณ์หลายชิ้น ก็การลองชุดเจ้าสาวครั้งแรกทั้งที ก็ขอจัดเต็มให้หล่อน โดยมีเหล่าพนักงานคอยช่วยแต่งตัว
รออยู่ครู่ใหญ่ ม่านตรงกลางก็เปิดออก
พิลาลศตาค้าง ก็คนมันชอบอยู่แล้ว ยิ่งเห็นมุกรินสวมชุดเจ้าสาว ก็พาให้เธอคิดไปไกล
วันนี้พี้สะใภ้สวยโดดเด่น จนไม่อาจละสายตาได้ ถึงขนาดที่ต้องรู้สึกขอบคุณพี่เทวาด้วยซ้ำที่เขาตายจากไป
เพราะไม่เช่นนั้น เธอคงไม่มีโอกาสได้เห็นคนที่แอบรักสวมชุดเจ้าสาว แถมยังมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเธออีก
"สวยมากเลยค่ะ" เสียงพนักงานหลายคนที่เอ่ยชมไม่ขาดปาก
ไม่ใช่แค่ชมมุกรินแต่ยังเผื่อแผ่คำคมมาถึงพิลาลศด้วย
"ตะลึงเลยเหรอคะ" และเป็นมุกรินที่เอ่ยถามเธอก่อน
"ค่ะ สวยมากจนตะลึง" พิลาลศพูดพร้อมกับสายตาที่เอาแต่มองคนตรงหน้า
"ในวันแต่งงานของพี่ น้องลศไม่ได้อยู่ด้วย"
"อ่อ ค่ะ ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สวิสฯ นี่คะ" พิลาลศตอบพร้อมเผลอยกมือขึ้นสัมผัสต้นคอตัวเองไปด้วย
"ขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้อยู่"
"พี่จะชมต่างหากค่ะ อายุแค่สิบห้าแต่กล้าไปต่างประเทศคนเดียว" หล่อนพูดออกมาพร้อมส่งยิ้มให้
"คือเราไม่เคยคุยกันแบบนี้ หลังจากนี้ก็สนิทกันไว้นะคะ" มุกรินพูดออกมาอีก
"ค่ะ" แล้วมีหรือที่พิลาลศจะปฏิเสธ พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจใบหน้าสวยๆ ของพี่สะใภ้แบบใกล้ๆ
ชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตาที่ย้ายจากบนหุ่นมาอยู่บนร่างกายมุกรินช่างเข้ากับหล่อน
ลายลูกไม้ที่ประดับประดาบนแขนช่างขับผิวขาวนวลให้น่ามอง
"ถ้ามีสร้อยเล็กๆ ที่คอจะเข้ากันมากเลยนะคะ" พนักงานที่ช่วยมุกรินแต่งตัวเอ่ยออกมา
ซึ่งพิลาลศก็เห็นด้วยเพราะที่คอหล่อนยังว่างอยู่
นั่นจึงทำให้เธอนึกอะไรขึ้นได้อย่างหนึ่ง
"งั้นรอเดี๋ยวนะคะ"
พิลาลศเดินกลับไปที่กระเป๋าตัวเอง และเปิดออกเพื่อค้นหาบางอย่าง
และก็ต้องยิ้มออกมา ก็อุส่าเก็บรักษาไว้อย่างดีในช่องลับ
เธอเดินกลับมาหาเจ้าสาวแสนสวย พร้อมกับในมือที่มีห่อผ้าเล็กๆ
"ลศขออนุญาตใส่ให้นะคะ" พูดพร้อมโชว์สร้อยเพชรเส้นบางพร้อมจี้ไข่มุกให้คนตรงหน้าได้ชื่นชม
"มีของแบบนั้นด้วยเหรอคะ"
แต่ดูเหมือนพิลาลศจะไม่สนใจกับคำพูดนั้น เธอเดินอ้อมไปด้านหลังมุกริน และสวมสร้อยให้
แบบที่จงใจขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ซอกคอยาวระหงของพี่สะใภ้
ซึ่งสายตาไม่รักดีของพิลาลศคงจะปิดไม่มิด จนมุกรินคงจะแอบเห็น
"ขอบคุณค่ะ" หล่อนพูดออกมาพร้อมลอบมองคนด้านหลังผ่านกระจกเงา
"จริงๆ แล้ว ลศตั้งใจจะให้เป็นของขวัญคุณมุกในวันแต่งงาน"
"ซื้อไว้เมื่อสิบสี่ปีก่อนน่ะเหรอคะ"
"ค่ะ"
"แล้วทำไมพึ่งจะเอาให้พี่ล่ะคะ"
"ก็ที่คอคุณมุกไม่เคยว่างไงคะ ลศเลยเก็บไว้กับตัวเองมาตลอด"
แต่การสนทนาของคนทั้งคู่ก็ต้องหยุดลง
"สตูดิโอพร้อมแล้วค่ะ"
"เอ๊ะ.. สตูดิโอเหรอ" มุกรินทักออกไปอย่างไม่เข้าใจ
"มาทั้งทีก็ไม่ควรเสียเที่ยวค่ะ" พิลาลศรีบบอกคนตรงหน้าทันทีเพื่อไม่ให้หล่อนเปลี่ยนใจกลับบ้านในตอนนี้
มุกรินเองคงจะคิดว่าแปลกจนต้องดึงตัวพิลาลศมาอีกทาง
"จะดีเหรอคะน้องลศ แบบนั้นน่ะ" หล่อนกระซิบถาม
"แต่งตัวสวยก็ควรต้องเก็บภาพไว้ดูสิคะ"
"แต่ว่ามันแปลกนะคะ ไม่มีเจ้าบ่าวด้วยซ้ำ"
"มีแค่เจ้าสาวกับเจ้าสาวไม่ได้เหรอคะ"
"เอ๊ะ... คือแบบนั้น พี่ว่า"
"คิดซะว่า ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ค่ะ"
"แบบนั้นก็ได้ค่ะ เผื่อเราจะสนิทกันมากขึ้น" มุกรินสรุปออกมาแบบนั้น
การถ่ายภาพในสตูดิโอแต่งงานของพวกเธอทั้งคู่ไม่ได้หวือหวาและหวานหอมเหมือนคู่รักที่กำลังจะแต่งงาน
เพียงถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกแบบที่พิลาลศบอกก็เท่านั้น
โดยมีทั้งภาพเดี่ยวและภาพคู่ ซึ่งส่วนมากพิลาลศจะเป็นคนออกปากให้สิทธิพี่สะใภ้เป็นผู้ถูกถ่ายเสียมากกว่า
ก็อยากให้คนตรงหน้ามีความสุข
"ขอไฟล์ภาพส่งให้ด้วยนะคะ" พิลาลศบอกกับพนักงานก่อนจะเดินไปหามุกริน พร้อมส่งแก้วน้ำให้พี่สะใภ้ที่ท่าทางเหนื่อยอ่อนเพราะการเป็นนางแบบให้ช่างภาพ
"ขอบคุณค่ะ" หล่อนพูดพร้อมส่งมือมารับแก้วน้ำ
"พนักงานจะส่งภาพมาให้วันนี้ค่ะ ไว้ลศจะรีบส่งให้คุณมุกนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ วันนี้สนุกมากเลย" พูดพร้อมโปรยยิ้มละลายใจให้พิลาลศด้วย
เล่นเอาเธอตัวแข็งทื่อ หันหลังให้ทันทีพร้อมกับยกมือขึ้นมาทาบที่อกตัวเอง ก็แค่อยากจะลองเช็กดูว่าหัวใจยังเต้นอยู่หรือไม่
เพราะวันนี้ที่มุกรินสวยเป็นพิเศษในชุดเจ้าสาว มันยิ่งทำให้พิลาลศเตลิดไปไกล
เมื่อรถยนต์เข้ามาจอดในรั้วบ้าน พิลาลศก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเพื่อเช็กอิเมลทันที
ก็มั่นใจว่านั่นคือรูปจากร้านชุดแต่งงาน
รูปคู่แสนธรรมดาของเธอและพี่สะใภ้ที่ยืนจับมือกัน
พิลาลศเลือกรูปนี้ และใช้มันเป็นภาพพักหน้าจอ
ก่อนจะหันไปหาคนข้างๆ
ใบหน้ามุกรินดูจะมีความสุขกับกิจกรรมวันนี้ ทั้งตอนที่หลับก็ยังยิ้ม
พิลาลศเอาแต่มองคนที่ผลอยหลับไป ทั้งที่รถเข้ามาจอดในรั้วบ้านแล้วแท้ๆ แต่เธอก็เอาแต่มองใบหน้าเนียนใสของมุกริน
มือเรียวๆ ของคนที่คิดไม่ซื่อเลื่อนไปปัดปอยผมที่รกปกหน้าอย่างเบามือ
"อ อื้อ" และเสียงของมุกรินก็ทำให้พิลาลศรู้สึกตัว และขยับออกห่างเพียงนิด ก็หล่อนเริ่มรู้สึกตัวตื่น
"ถึงแล้วเหรอคะ" งัวเงียถามขึ้นมาเมื่อสายตาเริ่มปรับความชัดของบริเวณรอบข้างที่เห็น
"ค่ะ"
"พี่คงเพลียมาก จนเผลอหลับไป"
"วันนี้ลศอาจจะทำให้คุณมุกเหนื่อย"
"ไม่เลยค่ะ" มุกรินพูดพร้อมเลื่อนมือมาจับที่แขนของพิลาลศไปด้วย
นั่นทำให้คนถูกสัมผัสใจเต้น
"พี่สนุกมากที่ได้ไปกับน้องลศ ไว้เราไปด้วยกันอีกนะคะ"
ใจเต้นตึกตัก ยิ่งคำพูดที่เหมือนเป็นการให้ความหวัง ยิ่งทำให้พิลาลศอยากจะเข้าใกล้หล่อนมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
เธอคิดว่า มุกรินทำเกินไป
ทั้งคำพูดและการเกาะเกี่ยวแขนนี่อีก แล้วแบบนี้จะเลิกชอบหล่อนได้อย่างไรกัน
แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจ
"กับคุณคเชนท์"
"คะ?"
"ถ้าเขาจะจีบจริงๆ ล่ะคะ"
"ก็เรื่องของเขาค่ะ"
"เหมือนถูกด่าว่าเผือกเลยค่ะ"
"ไม่ค่ะ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พี่แค่บอกให้น้องลศอย่าใส่ใจ เพราะพี่เองก็จะทำเป็นไม่สนใจ"
"คุณมุกสวยมากค่ะ ต่อจากนี้คงมีผู้ชายหลายคนจ้องจะเข้ามาจีบ" น้ำเสียงงอนๆ ออกจากปากพิลาลศ
นั่นทำให้มุกรินเผลอยิ้มออกมา ก่อนจะเลื่อนมือไปบีบแก้มคนตรงหน้าและวางมือไว้แบบนั้น
"ทำเหมือนเป็นลูกสาวพี่อีกคนเลยนะคะ ขี้งอนจัง"
"ไม่ค่ะ ลศไม่ได้อยากเป็นลูกสาวของคุณมุก"
"แล้วอยากเป็นอะไรล่ะคะ" คนถามถามออกมาอย่างไม่จริงจังนัก
"เป็นคนรักค่ะ"
เงียบ มุกรินนิ่งเงียบไปในทันที
"ลศจะเป็นได้มั้ยคะ"
"ได้สิคะ ตอนนี้น้องลศก็เป็นคนที่พี่รักอยู่นะ"
รับรู้ได้ทันทีว่าพี่สะใภ้พูดออกมาเพื่อบ่ายเบี่ยง
และไม่วาย มุกรินดึงพิลาลศเข้ามากอด
"คนในครอบครัวเดียวกันนี่คะ" พร้อมเอ่ยออกมาแบบนั้นด้วยเสียงหวาน
หล่อนทำเหมือนการปลอบใจมากกว่าการกอดที่มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น
คำที่เอ่ยอ้างว่าครอบครัวเดียวกัน มันยิ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเธอและมุกริน
หล่อนคงไม่ได้คิดไปไกลเกินกว่าพี่สะใภ้