#สองวันต่อมา
@มหาลัย
อีกสองวันก็จะถึงวันประกวดแล้ววันนี้ทางมหาลัยเลยให้ผู้ประกวดมาซ้อมเดินที่หอประชุม หลังจากเลิกเรียนแล้วฉันก็รีบมาที่หอประชุมใหญ่ของทางมหาลัย….
“ฝันทางนี้” เมื่อเห็นมุกฉันก็รีบเดินไปหาเธอ
“คนอื่นละ”
“อยู่หลังเวทีแล้ว” จากนั้นมุกก็พาฉันเดินไปที่หลังเวที ที่เต็มไปด้วยผู้เข้าประกวดของแต่ละคณะ
“แค่ซ้อมเดินเฉยๆ ใช่ไหม” ฉันหันไปถามมุก
“ใช่”
“นักศึกษาทุกคนเดี๋ยวอาจารย์จะแจกหมายเลขแล้วพวกเราก็เดินเรียงกันออกไปตามหมายเลขเลยนะ” จากนั้นอาจารย์ก็เริ่มแจกหมายเลขผู้เข้าประกวด ซึ่งฉันก็ได้หมายเลขห้า
“เลขดีนะฝัน” มุกกระซิบลงที่ข้างใบหูของฉัน ฉันไม่ได้ตอบอะไรขณะนั้นคนอื่นๆ ก็เริ่มเดินเรียงกันออกไปที่หน้าเวทีตามหมายเลขที่ตัวเองได้ เอาจริงขนาดแค่วันซ้อม ถ้ามองไปยังคนที่นั่งดูก็ตื่นเต้นแล้ว
ตอนนี้ทุกคนยืนเรียงหน้ากระดานตามหมายเลขที่หน้าเวที ก่อนที่หมายเลขหนึ่งจะเดินไปยังจุดกลางข้างหน้าของเวทีเพื่อโชว์ชุดและความสวยของตัวเองและเดินกลับมายังจุดเดิมจากนั้นหมายสองก็เดินไป ซึ่งฉันก็ยืนรอคิว จนกระทั่งมาถึงคิวของฉันที่กำลังจะเดินไปยังจุดกลางข้างหน้าเวที ขณะนั้น…
“เอาไว้ตรงไหนวะ” ทุกสายตามองไปยังคนที่เดินเข้ามาใหม่ ก่อนจะเห็นเด็กวิศวะสองคนที่เดินเข้ามาในหอประชุม แต่เมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาใกล้ๆ ดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดๆ แต่ในขณะที่ทอฝันกำลังจะหลบ อาจารย์ก็พูดขึ้นก่อน
“ทอฝัน เดินไปสิถึงคิวแล้ว” ครั้งแรกเทอร์โบก็ไม่เห็นฉันหรอก แต่พออาจารย์เรียกชื่อฉันเท่านั้นแหละ เขาก็หันมามองฉันทันที สายตาคมจ้องมองฉันและยกยิ้มขึ้นจากนั้นเขาก็เดินมานั่งลงที่เก้าอี้หน้าเวที
แต่ขณะนั้นที่ฉันกำลังจะก้าวเดินไปก็ได้ยินเสียงพูดของนักศึกษาที่ประกวด
“เทอร์โบเหรอมึง”
“หล่อมาก”
“ฉันเขิน”
“เขามาดูฉันเหรอแก”
ฉันเลือกที่จะไม่สนใจก่อนจะเดินไปยังจุดกลางของเวทีซึ่งมีเขานั่งมองอยู่ด้านล่าง ทำให้ตอนนี้เราสบตากัน จากครั้งแรกที่ตื่นเต้นอยู่แล้วตอนนี้ก็ตื่นเต้นเข้าไปอีกเพราะมีเทอร์โบนั่งอยู่ข้างหน้า เมื่อฉันเดินมาหยุดตรงกลางนายนั้นก็ตบมือเสียงดังลั่น
แปะ แปะ
“สวยจัง” แล้วคนหน้าด้านอย่างเขาก็พูดชมฉันเสียงดังลั่น ไม่คิดเลยว่าฉันจะอายคนอื่น จะด่าออกไปก็ด่าไม่ได้ด้วย คนอยู่เยอะ ฉันจึงทำได้แค่เมินเขาแค่นั้น แต่เมื่อเดินกลับมายืนที่เดิม ก็เจอกับเด็กในสต๊อกของนายนั้นมองฉันตาเขียว
......แล้วไงก็ผู้มานั่งเชียร์ฉันเองช่วยไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้สนใจพวกเธอก่อนจะเดินสะบัดผมลงจากเวทีไปทันที
หลังจากที่ฉันซ้อมเสร็จฉันกำลังจะกลับบ้านแต่ก็เห็นเทอร์โบยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
“งั้นฉันกลับก่อนนะ” มุกหันมาบอก ฉันจึงพยักหน้าตอบก่อนที่เทอร์โบจะเดินเข้ามาหาฉันพร้อมยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม
“ลงประกวดด้วยเหรอ”
“ถ้าเห็นแล้วก็ไม่ควรถามซ้ำไหม?”
“ปากร้ายๆ แบบนี้ชอบ”
“ชอบมากเลยเหรอ” ฉันเดินเข้าไปหยุดยืนด้านหน้าเขาก่อนจะยกยิ้มขึ้น
“รู้ไหมกำลังเล่นกับไฟ”
“แต่ไฟตรงหน้าทำไมเห็นร้อนเลย” ฉันพูดพร้อมกอดอกมองเขาด้วยแววตาท้าทาย
“มันยังไม่ปะทุมากกว่า” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากของเขามันทำให้ฉันรู้ว่าแบดบอยยังไงก็คือแบดบอยอยู่ดี
“งั้นฉันจะรอดูตอนมันปะทุแล้วกันนะ” ปากเล็กกัดเข้าหากันเล็กน้อยเป็นการอ่อยเขา จากนั้นเธอก็เลือกเดินออกมาจากหอประชุมเมื่อเห็นคนอื่นเดินออกกันหมดแล้วเหลือแค่เธอกับเทอร์โบสองคน
“เดี๋ยวเดินไปส่งที่รถมันมืดแล้ว”
“นายไม่ต้องลำบากเดินไปส่งหรอกฉันเดินไปเองได้” เพราะหอประชุมกับรถของฉันมันก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่ แต่ก็พอเดินเหนื่อยแต่แค่ไม่อยากเดินไปกับเขาแค่นั้น
ในขณะที่ทั้งสองเดินออกมาจากหอประชุมสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ซ่าๆ
“ตกตอนไหนเนี่ย” ฉันพูดด้วยท่าทีหัวเสีย
“นั่นสิ” ฉันกำลังคิดว่าจะวิ่งฝ่าฝนไปดีไหม แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฉันใส่รองเท้าส้นสูงด้วย ไหนจะฝนที่ตกหนักมากจนมองแทบจะไม่เห็นทางแล้วด้วย กว่าจะไปถึงรถก็คงจะต้องเปียกหมดทั้งตัวแน่
“นายมีร่มไหม?”
“มีแต่เบียร์เอาไหม” เขาตอบด้วยท่าทีกวนๆ มันใช่เวลามาเล่นไหมเนี่ย
“รออีกหน่อยก็ได้เดี๋ยวก็คงหยุดตก” ปากหนาพูดพร้อมยกเบียร์กระดกดื่มด้วยท่าทีใจเย็น แต่ต่างกับอีกคนที่รู้สึกหงุดหงิด ที่ต้องมาติดฝนกับเขา
แต่เมื่อคิดได้ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเพื่อนของฉันให้มารับ แต่ทว่า
“แบตหมด!”
“นายโทรหาเพื่อนนายให้เอาร่มมาให้หน่อย”
“แบตหมด”
“ไม่เชื่อ” เทอร์โบยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ฉัน ซึ่งมันก็แบตหมดตามที่เขาบอกจริงๆ ให้มันได้ยังนี้สิ
#ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ฉันยืนกอดอกมองฝนที่ตกลงมาโดยไม่มีท่าทีที่จะหยุดเลย
“บอกให้มานั่งนี่ก่อน” ฉันหันไปมองเทอร์โบที่ตอนนี้เขายังนั่งดื่มเบียร์ด้วยท่าทีใจเย็น เมื่อเลือกไม่ได้ฉันจึงเดินไปทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างนายนั้น เพราะมันมีเก้าอี้แค่ตัวเดียว ที่อยู่ข้างหน้าหอประชุม
“ดื่มไหม”
“ไม่อ่ะ” คนยิ่งหงุดหงิด ใครจะมีอารมณ์มานั่งกินเบียร์อย่างเขา
ทอฝันนั่งลูบแขนตัวเองเมื่อรู้สึกหนาวเพราะโดนละอองฝนที่สาดเข้ามา สายตาคมเหลือบมองร่างเล็กก่อนจะรีบถอดเสื้อช็อปแล้วยืนไปให้เธอ
“เอาไปใส่ก่อน” ฉันมองเสื้อของเทอร์โบครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปรับมาใส่
“ขอบใจ” เขาพยักหน้าตอบก่อนจะกระดกเบียร์ดื่มต่อ
“นายไม่หนาวเหรอ”
“ไม่ เพราะแอลกอฮอล์มันทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น ไม่เชื่อลองดื่มดู” มือหนายื่นเบียร์มาให้ฉันอีกครั้ง ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจรับมันขึ้นมากระดกดื่ม
“ถ้าคิดจะมอมฉันทางอ้อม ฝันไปเถอะว่าเบียร์แค่นี้จะทำอะไรฉันได้”
“รู้ทันอีก” ร่างสูงตอบไปแบบกวนๆ
#ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ตอนนี้มันเริ่มจะมืดมากแล้วแต่ฝนก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกเลย ฉันยังคงนั่งดื่มเบียร์กับเทอร์โบอยู่เงียบๆ จนรู้สึกเริ่มจะมึนนิดๆ
“เพราะนายนั่นแหละมัวแต่ชวนฉันคุยอยู่นั่นแหละ”
“โทษกันอีก”
“ก็มันจริง ถ้าตกหนักอย่างนี้ คืนนี้จะไม่ได้นอนนี้เลยเหรอ” ฉันพูดประชดประชันเขาออกไป
“ไปนั่งรอข้างในไหม ตอนนี้เริ่มหนาวแล้ว” ปากหนาพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในหอประชุม ฉันรีบเดินตามเขาเข้าไปข้างในเพราะไม่กล้านั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว
“รอด้วย” เราสองคนก้าวเดินกลับเข้ามาในหอประชุมอีกครั้ง แต่ข้างในตอนนี้มันกลับมืดแทบจะมองไม่เห็นอะไรแล้วมีเพียงแสงไฟจากข้างนอกสาดส่องเข้ามาเท่านั้น ฉันจึงรีบก้าวเดินไปจับชายเสื้อของเทอร์โบ
“กลัวเหรอ” เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาถาม
“อืม”
“ปากเก่งแบบนี้ไม่น่ากลัวความมืดนะ”
“พูดมากเดินนำไปเลย”
“หึ” ฉันเดินตามเทอร์โบไปทิ้งตัวนั่งลงยังเก้าอี้ บรรยากาศในหอประชุมตอนนี้มันดูน่ากลัวมาก เพราะมันกว้างและมีเพียงเราแค่สองคนที่นั่งอยู่ด้านใน
“……”
“รู้ไหมที่นี่มีประวัตินะ”
“ปะ ประวัติอะไร” ฉันหันหน้าไปถามเทอร์โบที่พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เคยมีนักศึกษาคนหนึ่งมา….” เขายังพูดไม่จบฉันก็เอื้อมมือไปปิดปากเขาก่อน เพราะกลัวเขาจะพูดเรื่องผีออกมาในเรื่องเวลานี้ ซึ่งฉันกลัวมาก
“หุบปากไปเลยนะ ใครใช้ให้นายมาพูดอะไรแบบนี้เวลานี้ห้ะ” ฉันตะคอกใส่หน้าเขาเสียงดังลั่น
มือหนาเอื้อมมือมาจับมือของฉันออกก่อนจะยื่นหน้ามาถามใกล้ๆ
“กลัวเหรอ?”
“ใช่”
“ดื่มอีกไหม”
“นายพกมากี่กระป๋องเนี่ย” ฉันถามเมื่อเห็นเทอร์โบหยิบเบียร์ออกมาจากกระเป๋าอีกหนึ่งกระป๋อง
“เหลือกระป๋องสุดท้ายแล้ว” ฉันไม่ได้ตอบอะไรเอาออกไป แต่เอื้อมมือไปจับกระป๋องเบียร์ของเขามาเปิดและกระดกดื่ม เวลานี้ฉันอยากจะทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองเมาจะได้เอาความกลัวตอนนี้ออกไปจากสมองให้หมด
“อึก อึก”
“พอแล้ว เดี๋ยวก็เมาหรอก” มือหนาแย่งกระป๋องเบียร์ในมือออก
“เอามานะ” แต่ฉันก็ดึงมันกลับมาดื่มอีกครั้ง โดยครั้งนี้เทอร์โบไม่ได้ห้าม เขาปล่อยให้ฉันนั่งดื่มมันจนหมด
“มีอีกไหม” ร่างเล็กถามออกไปด้วยน้ำเสียงยานและตาปรือๆ หวานหยาดเยิ้ม ร่างกายของเธอตอบสนองกับแอลกอฮอล์เร็วเพราะเธอยังไม่ได้กินอะไรรองท้องไปก่อนเลย มีแค่เบียร์เท่านั้น
“หมดแล้ว” สายตาคมมองใบหน้าสวยของเธอที่ยื่นหน้ามาถามใกล้ๆ เขาจึงเผลอกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง
“ทำไมนายชอบกลืนน้ำลาย”
“ก็บอกแล้วว่าคอแห้ง” เทอร์โบเหยียดยิ้มขึ้น
“แล้วทำไมไม่พกน้ำมาด้วย”
“แล้วใครกินหมด?”
“แหะๆ งั้นเสียใจด้วยแล้วกัน” ร่างเล็กทิ้งตัวนั่งพิงไปกับเก้าอี้เมื่อรู้สึกมึนเมาจนไม่สามารถประคองตัวนั่งให้ตรงๆ ได้
“แต่มีอยู่อีกน้ำแทนกันได้นะ” ร่างสูงพูดพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“น้ำอะไร?” ทอฝันถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย….