ตอนที่3 กลัวจูบ
“บ้านะสิ! ปล่อยฉันนะ”
เพียงฟ้าพูดตะกุกตะกักเอียงหน้าหนีสายตาคมของเขา พลางใช้มือของตัวเองผลักไสร่างที่ทาบทับเธอออกแต่มันก็ไร้ผลสิ้นดี ก็เขาตัวโตหยังกับยักษ์ปักหลั่น
“อะไรกันครับคุณผู้หญิง อุตส่าห์ลงทุนยั่วผมจนถึงขั้นขึ้นเตียงขนาดนี้แล้ว จะให้ผมปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไงกัน ลองมาหาอะไรทำสนุกๆ หน่อยไม่ดีกว่าเหรอ”
อัษฎายุธยิ้มขำคนใต้ร่างที่นอนตัวสั่นเป็นลูกนกอยู่ในอ้อมกอดของเขา กระนั้นก็ยิ่งอยากจะแกล้งเธอต่อ เขามองริมฝีปากบางได้รูปนั่นอย่างเผลอๆ ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาหาเธอช้าๆ จากตอนแรกที่คิดว่าจะหยุดเมื่อเธอร้องจนบ้านแตก
ทว่าริมฝีปากของเธอดันเหมือนมีมนต์ตราสะกดให้เขาเกิดความปรารถนาอยากจะครอบครองเรียวปากของเธอขึ้นมาดื้อๆ
“คุณจะทำอะไรน่ะ อย่านะ อย่า กรี๊ดดด!!”
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นจนบ้านแทบแตกสมใจอยากทว่าหลังจากเธอตะเบ็งเสียงออกมาเสร็จร่างบางก็แน่นิ่งไป ปล่อยให้ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไปมาเพราะความปวดแก้วหูกับเสียงกรี๊ดๆ ของเธอเมื่อกี้ อัษฎายุธดันกายลุกขึ้นเท้าสะเอวมองร่างของหญิงสาวพลางส่ายหน้าไปมา
นี่กลัวเขาถึงขนาดสลบไสลไปเชียวหรอเนี่ย เขาไม่อยากจะนึกว่าถ้าเมื่อคืนเขาไม่ผ่านไปพบเธอเข้าโดยบังเอิญ ป่านนี้ร่างบอบบางหน้าสวยนี่ไม่รู้ว่าจะยับเยินไปถึงไหนแล้วด้วยฝีมือของไอ้เดนท**นสามคนนั่น นึกแล้วก็ยังเจ็บใจไม่หายที่เขากับไอ้ชาจับตัวพวกมันไว้ไม่ได้สักคน ไม่งั้นจะส่งตัวพวกมันกับตำรวจให้พวกมันรับกรรมอย่างสาสม
“โถ่นึกว่าจะเก่งแค่ไหน แค่แกล้งนิดเดียวสลบไปซะแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะนายหัว”
นางฉวีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องวิ่งขึ้นมาในห้องของเจ้านายอีกครั้งพร้อมกับร่างของชาตรีมือขวาของเจ้าของเกาะตามหลังมาด้วย
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ป้าฉวีไปจัดหาชุดมาเปลี่ยนให้เธอแล้วก็คอยดูแลจนกว่าเธอจะฟื้นก็แล้วกัน ส่วนแกไอ้ชาไปกับฉัน ฉันจะไปที่ท้ายเกาะสักหน่อย”
สองคนที่มาทีหลังมองหน้ากันไปมา กระนั้นก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากซักถามอะไรออกไปอีก ด้วยรู้ว่าถ้าเจ้านายบอกว่าไม่ต้องถามก็คือคำประกาศิตขืนถามซอกแซกมีหวังเกิดเรื่องแน่
“ค่ะนายหัวเดี๋ยวดิฉันจัดการให้”
ป้าฉวีรับคำสั่งพลางมองไปยังร่างอรชรที่นอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงของเจ้านายนางอย่างหมดฤทธิ์หมดเดชนั่น
“อ้อ แล้วถ้าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วล่ะก็ป้าฉวีก็ช่วยเล่าเรื่องที่เธอมาอยู่ที่นี่ให้กับเธอฟังด้วยล่ะ จะได้ไม่ต้องอาละวาดอีกแล้วถ้าเธออยากจะไปจากเกาะนี้เมื่อไหร่ก็ให้ไปได้ทันที”
นายหัวหนุ่มสั่งการเสร็จก็หมุนตัวกลับออกจากห้อง ตามด้วยชาตรีคนสนิทที่หันมามองป้าฉวีพร้อมกับเบะปากให้อย่างไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเสียงร้องเมื่อครู่นี้ของหญิงสาวเกิดจากอะไรกันแน่ สองคนงานจึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ต่อไป