“คุณแพรครับ”
แพรดาวรีบกลืนแซนด์วิชที่กำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ ในปาก ดึงกระดาษทิชชูเช็ดมุมปากที่เปื้อนซอส เมื่ออยู่ ๆ กันตพลก็เดินมาหาที่โต๊ะทำงานและพูดจาด้วยท่าทีรีบร้อน สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“...คะ?”
“รบกวนมาผมที่ห้องทำงานหน่อยครับ”
“ค่ะ” ในฐานะลูกน้องเธอรีบตอบรับคำสั่ง แต่ก็คิดไม่ออกว่าไปทำอะไรให้เจ้านายไม่ชอบใจ เมื่อเห็นเจตรินส่งยิ้มเยาะเย้ย ก็เริ่มเคลือบแคลงใจว่าแผนงานอาจถูกปัดทิ้ง เพราะเมื่อวานตอนเย็นกันตพลคุยกับคู่แข่งนานสองนาน แถมเจตรินยังเดินหน้าบานออกมาจากห้องทำงานเขาด้วย
ระหว่างทางเดินไปหากันตพล แพรดาวได้รับกำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน เพราะทุกคนรู้ว่าท่าทีของผู้บริหารแบบเมื่อครู่ นาน ๆ จะเกิดขึ้น และไม่ใช่เรื่องดีแน่ที่เขาเรียกไปพบก่อนเวลาเริ่มงาน หญิงสาวที่หวาดหวั่นกับชะตาชีวิตตัวเองเลยไม่กล้ายกมือขึ้นเคาะประตู แต่คนข้างในก็เปิดประตูต้อนรับ หมดข้ออ้างในการถ่วงเวลา
“ทำไม... ทำหน้าแบบนี้ล่ะครับ ไม่สบายเหรอ?” เขามองแพรดาวที่หน้าซีดกว่าปกติ จะว่าลิปสติกลดน้อยลงเพราะแซนด์วิชเมื่อครู่ก็ไม่น่าใช่
“ส... สบายดีค่ะ งานที่แพรเอามาส่งเมื่อวานมีปัญหาเหรอคะ” เธอคิดว่าต้องเป็นเรื่องนี้แน่
การต่อสู้กับทีมของเจตรินจนได้ข้อสรุปในห้องประชุมว่ากันตพลจะเลือกพรีเซนเตอร์ระหว่างวงเจพีเค วงไอดอลชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้กับคู่จิ้นซีรีส์วายชื่อดังในประเทศไทย แผนงานของแต่ละทีมก็ต้องแก้แล้วแก้อีก เพื่อให้มีกลเม็ดเด็ดมาพิชิตใจผู้บริหาร
“ไม่ใช่เรื่องงานครับ”
“แล้ว...”
“ผมขอโทษครับ”
“เรื่อง... อะไรคะ?” แพรดาวสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเขาให้มาหาทำไม มีเรื่องอะไร แล้วอยู่ดี ๆ จะขอโทษทำไมเนี่ย
“ผมมีเรื่องอื่นจะคุยด้วย ขอโทษที่เดินเข้าไปหาแบบนั้นนะครับ ผมใจร้อนไปหน่อยเลยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง”
“ไม่... ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพยักหน้าหงึก ๆ ความสงสัยในใจเริ่มหายไปบ้าง แต่ก็ยังมีอีกเรื่องค้างคา
“แล้วคุณกันต์มีเรื่องอะไรจะคุยกับแพรเหรอคะ”
“เรื่องเมื่อคืนครับ” เขาตอบเสียงดังฟังชัด ก่อนเงียบไปหลายวินาทีแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อ
“เมื่อคืนที่คุณรีบวางสายไป เพราะแฟนคุณมาหาใช่ไหมครับ”
“เปล่าค่ะ แค่โทรมาเฉย ๆ ทำไมเหรอคะ”
“เมื่อกี้แฟนคุณเขามาหาผมที่ลานจอดรถครับ”
“มาหาเหรอคะ?”
“ครับ”
“เขาไปหาคุณกันต์ทำไมคะ”
“เขากลัวว่าผมจะแย่งคุณแพรไปจากเขาครับ”
“อะไรนะคะ!”
“ก็... อย่างที่ผมพูดไปครับ” กันตพลถอนหายใจ ไม่อยากมองหน้าแพรดาวเพราะกลัวตัวเองเผลอยิ้ม แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ เลยต้องทำหน้าเข้มในขณะที่อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปาก
“ขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ ตั้งแต่รู้ว่าเขานอกใจ แพรก็พยายามเลี่ยงที่จะเจอเขา เลี่ยงที่จะคุย เขาเลยคิดว่าแพรอาจจะมีคนอื่น แต่การที่เขาคิดว่าคนคนนั้นเป็นคุณกันต์มันเพ้อเจ้อมากเลยค่ะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะที่ทำให้คุณกันต์ต้องปวดหัวกับเรื่องไม่จริงแต่เช้าเลย แล้วเขาพูดอะไรอีกหรือเปล่าคะ แพรจะไปจัดการให้ค่ะ”
“ก็พูดเยอะครับ แต่จำไม่ได้ทุกคำ” เขาพยายามหุบยิ้ม ไม่เคยเห็นเธอหัวเสียขนาดนี้มาก่อน การได้เห็นเธอโกรธขนาดนี้เป็นครั้งแรก ถือเป็นการเรียนรู้ตัวตนของเธออีกขั้น
“สรุปก็พอค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
“เขาบอกผมว่าเขาจะไม่มีทางเลิกกับคุณแพร ผมเลยคิดว่าเขาคงทำแบบเดียวกับที่คุณทำ วางแผนหาหลักฐานเพื่อให้ได้เงินก้อนนั้นมาเป็นของตัวเองครับ”
“โอ้โห...”
กันตพลฟังเฉย ๆ สายตาจับจ้องคนที่กำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ อยากพูดอะไรบางอย่างแต่รู้ว่าไม่ควรและหากพูดออกไป ทุกวินาทีต่อจากนั้นจะไม่มีอะไรเหมือนเดิม
“คุณกันต์คะ ไหน ๆ ก็ไหนแล้ว แพรขอปรึกษาได้ไหมคะว่าจะเอายังไงต่อดี แพรรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องงาน แต่พูดตามตรงเลยนะคะ ไม่มีใครรู้เรื่องเงินก้อนนั้นเลยค่ะ”
“คุณแพรไม่มีเพื่อนสนิทเหรอครับ”
“เอ่อ...” แพรดาวเม้มปากพร้อมกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ดี ๆ ก็จุกกับคำถาม
“ขอโทษครับ ผมแค่คิดว่าเรื่องแบบนี้น่าจะบอกคนสนิทได้ครับ” กันตพลรีบอธิบาย เบื่อตัวเองเหมือนกันที่บางครั้งเลือกใช้คำพูดได้ผิดที่ผิดที่เวลา
“อ๋อ แพรมีเพื่อนสนิทค่ะ แต่เพื่อนเคยเตือนว่าอย่าเปิดบัญชีฝากเงินกับแฟนเพราะอาจจะมีปัญหาในอนาคต เลยไม่กล้าเล่าให้เพื่อนฟังค่ะ”
“ตอนรักก็รัก ไม่มีใครคิดว่าจะเลิกกัน ผมเข้าใจครับ แต่ผมคงให้คำปรึกษาไม่ได้หรอกนะครับ”
“ทำไมล่ะคะ...”
“อีกสิบนาทีจะถึงเวลาเริ่มงาน ผมต้องเตรียมตัวครับ”
แพรดาวมองเจ้านายที่อยู่ ๆ ก็จริงจังกับแฟ้มเอกสารบนโต๊ะ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจฟังทุกคำพูด แต่พอคิดได้ว่าตัวเองคงทำตัวน่ารำคาญเลยขอตัวออกไปเตรียมตัวทำงานเหมือนกัน ทว่าก่อนประตูจะเปิด เขาก็เรียกให้หันกลับมา
“เดี๋ยวครับคุณแพร”
“คะ?”
“รบกวนตามคุณเจตมาหาผมด้วยนะครับ คนอื่นจะได้เข้าใจว่าเมื่อกี้คุณกับผมคุยเรื่องงานกัน”
“ค่ะ...” เธอคลี่ยิ้มส่งกลับไป ดีใจที่กันตพลใส่ใจในเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจก็ได้ ตอนเดินไปหาเจตรินเลยยิ้มแบบเดียวกับที่คู่แข่งเคยยิ้มให้ กดดันให้เขารู้ว่าตัวเองก็ซวยเหมือนกันนั่นแหละ
และเมื่อก้นแตะลงบนเก้าอี้ แพรดาวก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้พูดคำที่ควรพูดออกไปเลยเลยหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ข้อความว่า... ‘ขอบคุณนะคะ’ แล้วส่งไปหากันตพล แต่พอส่งไปปุ๊บเขาก็อ่านปั๊บ แถมยังตอบกลับมาภายในเสี้ยววินาทีว่า... “คืนนี้ผมโทรไปหาได้ไหมครับ”