เมื่อเข็มนาฬิกาหมุนเวียนผ่านไปตามปกติเช่นเมื่อวาน แต่สำหรับกันตพล วันนี้แต่ละนาทีช่างเชื่องช้า ทว่าในเวลา 20.34 น. เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมหน้าจอที่บ่งบอกว่า... แพรดาวโทรมาแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณกันต์”
“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มทำเสียงให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่ทำได้
สำหรับเขา คำที่เปล่งออกมานั้นสั่นเหมือนมีแผ่นดินไหวอยู่ในลำคอ แต่สำหรับคนฟังอย่างแพรดาว เธอไม่รับรู้ถึงความตื่นเต้นเลยแม้แต่นิดเดียว
“แพรโทรมาเพราะอยากเล่าให้ฟังว่าทำไมแพรถึงทำตัวแปลก ๆ ที่ลานจอดรถทุกวันค่ะ”
“อ่อ... ครับ” เขาทำเป็นเฉยเมยกับเรื่องของคนอื่น ทว่าภายในใจนั้นอยากรู้อยากเห็นมานานแล้ว
“คือ... แพรกลัวคุณกันต์เข้าใจว่าแพรเป็นโรคจิต แล้วแพรก็ไม่อยากให้คุณกันต์มองแพรเป็นผู้หญิงโง่ที่รู้ว่าแฟนนอกใจแต่ยังทำเป็นตาบอดค่ะ”
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นครับ สำหรับผมคุณไม่ใช่คนแบบนั้นครับ”
“...ขอบคุณค่ะ” ไม่ใช่แค่เสียงของเขาเท่านั้นที่จริงใจ แต่เป็นการกระทำที่ผ่านมาด้วย สองครั้งสองคราที่เขาเห็นเต็มสองตาว่ารับบทสาวถ้ำมอง แต่มีอีกหลายครั้งในรอบหนึ่งเดือนที่เขาทำเป็นไม่เห็น
และก่อนที่บทสนทนาจะขาดตอนเพราะอีกฝ่ายมัวแต่ตีปากตัวเองที่เผลอพูดจาน้ำเน่า ส่วนหญิงสาวก็เอาแต่เผลอยิ้ม หัวหน้าฝ่ายการตลาดทีมบีก็รีบกลับเข้าประเด็น เพื่อไม่ให้รบกวนเวลาพักผ่อนของผู้บริหาร
“แพรกับเขาเราคบกันมาแปดปีแล้วค่ะ ตกลงครบกันตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง ระหว่างเรียนเราทำงานพิเศษไปด้วยเพราะอยากเก็บเงินไปเที่ยวรอบโลก ตอนเรียนจบก็เก็บเงินด้วยกันต่อ และเราสัญญากันว่า ถ้าใครนอกใจ เงินต้องตกเป็นของอีกคน แพรก็เลยพยายามเก็บหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อที่เขาจะได้หมดข้ออ้างในการให้เงินนั้นกับแพรค่ะ สองคนนั้นนัดเจอกันที่อื่นบ้าง แต่แพรตามไปจับผิดไม่ได้ เลยต้องใช้ช่วงเวลาหลังจากที่เขามาส่งแพรแล้วนัดเจอกับผู้หญิงคนนั้นที่ลานจอดรถค่ะ”
“ครับ” กันตพลเข้าใจ แต่การตอบเพียงสั้น ๆ ของเขา ทำให้เธอกังวลไม่น้อย
“คุณกันต์... คิดว่าแพรเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินหรือเปล่าคะ”
“เปล่าครับ เปล่า ผมไม่ได้คิดแบบนั้น” เขารีบปฏิเสธและยืนยันว่าสิ่งที่พูดคือเรื่องจริง
“ผมแค่สงสัยแต่ไม่กล้าถามว่าเงินก้อนนั้นมีกี่บาท แต่ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก คุณแพรทำถูกแล้วล่ะครับ คุณต้องได้รับอะไรชดเชยจากการที่เขาทรยศคุณบ้าง”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ เงินก้อนนั้นมี 1,002,000 บาทค่ะ”
“เยอะมากเลยนะครับ คุณสองคนเก็บเงินเก่งมาก”
“ถ้าจะพูดให้ถูก แพรเก็บเงินเก่งต่างหากค่ะ จากจำนวนทั้งหมด มัน... เอ่อ... เขาฝากไปสามแสนเองค่ะ”
“แล้วเมื่อไหร่คุณแพรจะบอกเลิกเขาเหรอครับ”
“ก็... รอให้เขาฝากเงินของเดือนนี้ก่อนค่ะ”
“พรุ่งนี้เหรอครับ?”
“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็ว่าจะจัดการให้เรียบร้อย” แพรดาวบอกสบาย ๆ ไม่รู้เลยว่าถูกกันตพลหลอกถาม และเขาก็ได้แต่นอนมองเพดานด้วยรอยยิ้มเมื่อเธอกำลังจะโสด... สักที!
“คุณกันต์คะ”
“ครับ...”
“ขอบคุณที่เข้าใจและไม่มองว่าแพรเป็นคนโรคจิตนะคะ แพรไม่รบกวนเวลาพักผ่อนคุณกันต์แล้วค่ะ”
"ครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“ฝัน...” กันตพลหยิบโทรศัพท์มาดูให้แน่ใจว่าเธอวางสายไปแล้วจริง ๆ เมื่อเห็นว่าตอนนี้แพรดาวไม่อยู่แล้วก็ถอนหายใจ เสียดายที่ไม่ได้อวยพรให้ฝันดี และก่อนหน้านี้ไม่ได้ถามไถ่ว่าจิตใจเธอโอเคหรือเปล่ากับสิ่งที่จะทำ แต่คิดไปคิดมาก็คลี่ยิ้ม เพราะเชื่อมั่นว่าเธอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่แล้ว
เช้าวันต่อมากันตพลตื่นมาด้วยความสดใส แม้เมื่อคืนจะนอนดึกไปสักหน่อยเพราะมัวแต่คิดถึงแพรดาว แต่ความรักก็เป็นเกราะป้องกันความหม่นหมองได้เป็นอย่างดี ทว่าเมื่อจอดรถและกำลังจะเดินเข้าไปทำงานในออฟฟิศ กลับมามีคนเดินมาหาและทักทายด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร
“สวัสดีครับ”
เขาไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าคุยกับตัวเองหรือเปล่า แต่เมื่อมองซ้าย มองขวาและมองไม่เห็นใครก็ตอบกลับไปอย่างมีมารยาท
“สวัสดีครับ”
“ผมมีเรื่องจะคุยด้วยครับ”
“คุณ... เป็นใครเหรอครับ” กันตพลแกล้งตีหน้าซื่อ แต่รู้ดีว่าคนตรงหน้าคืออัศวิน คนรักของแพรดาว
“ผมวิน... เป็นแฟนของแพร คนที่คุณคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อคืน”
“อ่อ...”
“แน่ใจเหรอครับว่าไม่รู้จักผม หรือคุณไม่รู้ว่าแพรมีแฟนแล้ว”
“ผมรู้ครับว่าคุณแพรมีแฟนแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ยังไงก็ขอบคุณที่บอกนะครับ” กันตพลยอมรับว่าเขากวนตีน ทั้งหมดที่ทำไปไม่มีเหตุผลไหนเหมาะสมไปมากกว่า ‘หมั่นไส้อัศวิน’ และอีกสิ่งที่กวนใจเขาคือความสงสัยว่าหลังจากแพรดาววางสายไป... เธอต้องเผชิญกับเรื่องราวอะไรบ้าง
“ผมจะบอกว่าผมไม่มีทางเลิกกับแพร” คนหวงแฟนบอกเบา ๆ แต่ทุกคำชัดเจนอยู่ในโสตประสาทคนฟัง ถ้าเธอสัมผัสได้ว่ากำลังถูกนอกใจ เขาเองก็สัมผัสได้เหมือนกันว่ากันตพล... อยากเข้ามาแทนที่
ย้อนกลับไปเมื่อหกเดือนก่อน อัศวินตัดสินใจย้ายจากชลบุรีมาทำงานตำแหน่งวิศวกรที่บริษัทเดียวกับแพรดาว เพราะวางแผนจะแต่งงานกันและกลับมาอยู่กับครอบครัวที่พื้นเพอยู่ในกรุงเทพมหานคร
เริ่มทำงานได้ไม่กี่วันและยังไม่ค่อยมีคนรู้ว่าเขามีแฟนทำงานอยู่ในส่วนของสำนักงาน คนงานก็มักพูดถึงเจ้าของบริษัทที่หล่อ รวย เก่งกาจในการทำงาน หากเรื่องจบแค่นี้ก็แล้วไป ถือซะว่าฟังไว้เป็นความรู้รอบตัว แต่เมื่อเรื่องเล่ายังดำเนินต่อไปว่าถึงกันตพลจะโสด แต่เขามีผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้... นั่นคือหัวหน้าฝ่ายการตลาดทีมบี คนที่ชื่อว่า ‘แพร’ นั่นเอง
ทว่าคำพูดเหล่านั้นก็จบลงด้วยการที่ไม่มีใครแน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะไม่เคยมีใครเห็นผู้บริหารหนุ่มพยายามเข้าหาหรือสานความสัมพันธ์ด้วยตาตัวเอง เขาทิ้งเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมและไม่เคยลำเอียงเข้าข้างผลงานของเธอ
แต่สายตามันหลอกกันไม่ได้ หลายครั้งที่แวะมารับแพรดาวที่นี่ ผู้บริหารคนนี้มักจะเลิกงานพร้อมเธอเสมอ บางวันอาจจะมีคนอื่นอยู่ด้วย และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่กันตพลเผลอมองเธอด้วยแววตาเป็นประกาย แต่เป็นครั้งแล้วและครั้งเล่าที่เขาไม่สามารถละสายตาจากแพรดาวได้เลย
ทีแรกอัศวินไม่สนใจเพราะรู้ว่ายังไงคนรักไม่มีทางปันใจให้ชายอื่นแน่ แต่ช่วงหลังมานี้เธอคล้ายจะมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ แม้จะพูดคุยกันปกติ แต่การที่เธอเลี่ยงให้เข้าใกล้หรือออดอ้อนอย่างที่เคยเป็นมาเสมอ อีกทั้งยังปล่อยให้ไปไหนต่อไหนโดยไม่ถามว่าปลายทางคือที่ใด ไม่ถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ หนำซ้ำเมื่อคืนขอไปหาก็ไม่ให้ไป รวมทั้งวันก่อนที่มีเพื่อนถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่าเห็นแพรดาวกับกันตพลยืนคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งหมดยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องที่ได้ยินมานั้นมีความเป็นไปได้มากเหลือเกิน
“อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะครับว่าคุณชอบแฟนผม คุณคิดจะแย่งแพรไปจากผมอยู่ ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะครับว่าผมไม่มีทางปล่อยให้คุณทำสำเร็จแน่”
“ผมไม่ได้คิดจะแย่งครับ” กันตพลตอบอย่างหนักแน่น เพราะมันคือความจริงทุกประการ
“ไม่น่าใช่นะครับ ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรกับแพร”
“ผมยืนยันนะครับว่าผมไม่ได้คิดจะแย่ง ผมไม่ชอบแย่งแฟนใคร แต่บอกตามตรงว่าถ้าคุณแพรโสดเมื่อไหร่ คุณไม่มีโอกาสได้กลับมายืนที่เดิมอีกแน่”
“คุณคิดว่าคุณจะแทนที่ผมได้เหรอครับคุณกันต์ ผมคบกับแพรมาแปดปี เราเป็นทั้งเพื่อน ทั้งแฟน เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณไม่มีทางทำได้หรอก”
“ผมไม่ได้พูดถึงผมคนเดียวครับ ยังมีคนในออฟฟิศอีกหลายคนที่รอคุณแพรโสด คนคนนั้นอาจเป็นผมหรือคนอื่นก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากพิสูจน์ว่าคุณหรือผมกันแน่ที่พูดถูก คุณก็ลองเลิกกับคุณแพรสิครับ แล้วมาดูกันว่าคุณจะทำได้แบบที่พูดหรือเปล่า”
อัศวินพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ยกหมัดต่อยกันตพล ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่เมื่ออีกฝ่ายส่งยิ้มเป็นมิตรแต่แสนจะจอมปลอมมาให้ และมิวายพูดจายั่วโมโหจนทนแทบไม่ไหว
“ถึงจะเป็นลานจอดรถชั้นใต้ติน แต่ที่นี่มีกล้องวงจรปิดนะครับ คุณอาจจะไม่รู้ว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง เพราะผมให้ผู้รับเหมาออกแบบให้กลมกลืนไปกับโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อเอาไว้จับผิดพนักงานที่แอบมาอู้งานหรือทำอะไรลับล่อ ๆ เช่นสูบบุหรี่ พี้กัญชา หรือป้องกันเวลาเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นถอยรถชนกันแต่หาคู่กรณีไม่ได้ แต่ผมเฉลยให้คุณรู้ที่นึงแล้วกันนะครับ...” กันตพลชี้นิ้วไปด้านหลังอัศวิน ซึ่งเป็นจุดที่เขาแอบมาพลอดรักกับผู้หญิงคนอื่นเป็นประจำ
“ตรงนั้นมีกล้องอยู่สองตัว ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” เขาพูดจบก็เดินผ่านคนชอบหาเรื่อง ปล่อยให้อัศวินยืนร้อน ๆ หนาว ๆ แล้วรีบส่งข้อความไปหาชู้รักว่าวันนี้... อย่าลงมาเจอกันที่นี่เลย