“คุณกันต์คะ!”
กันตพลทำเป็นตกใจที่อยู่ดี ๆ รถยนต์ใกล้ตัวก็ปลดล็อก ก่อนจะพยายามหุบยิ้ม แกล้งทำหน้านิ่งแล้วหันไปตามเสียงเรียก
“อ้าว... คุณแพร”
“กำลังจะกลับบ้านเหรอคะ”
“ครับ”
“จอดรถไว้แถวนี้เหรอคะ” เธอชี้นิ้วอย่างไร้จุดหมาย ลานจอดรถนั้นกว้างเกินกว่าจะเจาะจงทิศทางได้
“เปล่าครับ ผมกำลังจะเดินไปขึ้นแท็กซี่”
“อ้าว...” แพรดาวสงสัยในใจ แล้วเพื่อนที่มาด้วยกันล่ะไปไหน แต่หน้าตาของเธอก็แสดงออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“เพื่อนผมมีธุระด่วนน่ะครับ”
“อ๋อ... แบบนี้นี่เอง แพรไปส่งไหมคะ คุณกันต์พักอยู่แถวไหน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่แถวนี้แหละ” กันตพลตอบสบาย ๆ ทว่าวินาทีต่อมาก็ใจสลายเมื่อเธอไม่เซ้าซี้ขอไปส่งตามที่คาดหวังเอาไว้
“โอเคค่ะ งั้น... เจอกันพรุ่งนี้นะคะ บ๊ายบายค่ะ” แพรดาวบอกลา ไม่มีการยืดเยื้อจนเขาได้แต่ยืนไว้อาลัยให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเอง
แต่ในขณะที่กันตพลกำลังเดินคอตกไปเรียกรถแท็กซี่ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาจอดข้าง ๆ พร้อมเปิดประตูทักทาย
“มึงนี่มันกากจริง ๆ ขึ้นรถ ไอ้เชี่ยเอ๊ย...”
จอมทัพส่ายหัว ผิดหวังในตัวเพื่อนรักจนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำไหน กันตพลก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นอย่างว่า แต่เขาก็คิดในใจว่าดีเหมือนกันที่แยกย้ายกันแบบนี้ ไม่อย่างนั้นความใกล้ชิด อาจทำให้คิดแย่งแพรดาวจากอัศวินจริง ๆ
“อีกแล้วเหรอครับ” กันตพลก้มไปถามแพรดาว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเธอแอบถ่ายรูปอัศวินกับผู้หญิงคนอื่น แต่วันนี้แปลกไปตรงที่เธอหลบอยู่ข้างรถยนต์ของคนอื่น
“นั่นสิคะ เจอคุณกันต์อีกแล้ว” เธอเองก็ทำหน้างงไม่ต่างกัน ทว่าจากที่เคยร้องไห้ วันนี้ไม่มีน้ำตาไหลอาบน้ำแก้ม มีเพียงรอยยิ้มอาย ๆ ที่ส่งกลับไป
แต่ก่อนที่เขาจะตอบอะไรกลับมา แพรดาวก็ดึงกันตพลเข้ามาใกล้ตัว เพราะเป้าหมายมีการเคลื่อนไหว จากที่อยู่ด้านข้างรถก็ค่อย ๆ ขยับไปอยู่ด้านหลัง เพื่อไม่ให้อัศวินที่กำลังขับรถผ่านไปมองเห็น
เมื่อเธอชะเง้อมองจนแน่ใจว่าปลอดภัย ก็รีบลุกขึ้นยืนก่อนที่ขาทั้งสองข้างจะเกิดอาการชา ทว่าคนข้าง ๆ คล้ายจะมีอาการแบบนั้นไปแล้ว เขาเลยเลือกที่จะนั่งลงกับพื้นและเหยียดขาแทน
“ขอ... ขอโทษค่ะคุณกันต์” แพรดาวยกมือไหว้ แววตามีแต่ความรู้สึกผิด ทำเอาคนมองไม่กล้าต่อว่า
“ไม่เป็นไรครับ คุณแพรน่าจะย่อบ่อยจนชินนะครับ ขาไม่สั่นเลย” เขาชี้ไปที่ขาเรียว แล้วกลับมาสนใจขาตัวเอง ยื่นมือไปนวดให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย แพรดาวอยากจะช่วยนวดไถ่โทษแต่รู้ว่าไม่ควรทำ มือเลยเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้วางไว้ตรงไหนดี
“ผมไม่เป็นไรครับจริง ๆ ครับ คุณเข้าออฟฟิศเลยก็ได้”
“แต่...”
“ถ้าคุณไม่ไป ผมจะถามนะครับว่าทำไมคุณทำแบบนี้ทุกเช้า แล้วคราวนี้ผมต้องการคำตอบด้วย”
“งั้นแพรขอตัวนะคะ ขอโทษที่ทำให้ลำบากค่ะ” แพรดาวก้มหัว หลังโค้งจนตัวแทบจะหักครึ่ง เสี้ยววินาทีต่อมาก็ก้าวขาเดินออกไปตามคำขู่ของเขา แต่เมื่อยิ่งเดินออกห่าง สิ่งที่ตามมาติด ๆ คือความรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับเจ้านาย และก่อนจะถูกมองว่าเป็นคนโรคจิต เขาควรได้รู้เหตุผลที่แท้จริง
“มีอะไรอีกหรือเปล่าครับ” กันตพลเอ่ยถาม เมื่อครู่คุยงานกับแพรดาวเสร็จแล้ว แต่แทนที่เธอจะเดินออกจากห้องทำงาน ตัวกลับนั่งอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือส่งยิ้มแปลก ๆ มาให้
“...มีค่ะ”
“อะไรครับ” เขาปิดแฟ้มเอกสารที่เพิ่งเปิดไม่ถึงหนึ่งนาที สบตากับคนตรงหน้าเพื่อให้รู้ว่ากำลังรอฟัง
“เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ”
กันตพลแทบหยุดหายใจเมื่อได้ยินคำถาม พอตั้งสติได้ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ลุกขึ้นยืนแล้วโน้มตัวไปหาแพรดาว ก่อนจะใช้นิ้วแตะลงบนหน้าผากเธอ
“ทำอะไรคะ...” เธอเอนตัวด้านหลัง ถอยห่างออกไปอีกหนึ่งก้าว แต่ไม่ได้วิ่งหนีหรือหวาดกลัว เพราะคนตรงหน้าไม่ได้ทำให้รู้สึกถูกคุกคาม
“ไล่ผีครับ คนที่ชวนผมกินข้าว ไม่น่าจะใช่คุณแพรตัวจริงนะครับ” กันตพลนั่งลงดังเดิม ทำตัวสบาย ๆ คล้ายว่าเมื่อครู่เธอพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ
"แพรตัวจริงเสียงจริงค่ะ”
“แล้วคุณลืมเหรอครับว่าหัวหน้าฝ่ายการตลาดชวนผู้จัดการบริษัทกินข้าวมันไม่เหมาะสม คุณเองก็เลี่ยงเรื่องนี้มาตลอด ตอนมีงานเลี้ยงคุณยังนั่งห่างผมเป็นโยชน์ เพราะกลัวถูกเข้าใจผิดว่าประจบผมเพื่อให้แผนงานของคุณชนะทีมของคุณเจต”
แพรดาวไม่รู้ว่าที่เขาพูดเป็นการปฏิเสธเรื่องที่เพิ่งร้องขอหรือตัดพ้อเรื่องในอดีตกันแน่ เลยได้แต่ยืนเม้มปากเพราะกำลังครุ่นคิดว่าจะตอบกลับไปยังไงดี
“สรุปว่าชวนผมกินข้าวเพราะอะไรครับ”
“ถ้าคุณกันต์ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ”
คราวนี้เป็นกันตพลที่ไม่พูดอะไร อยากต่อยตัวเองสักหมัดข้อหาทำตัวกวนประสาทจนเธอเปลี่ยนใจ
“แต่... คืนนี้ขอโทรหาได้ไหมคะ แพรมีเรื่องจะคุยกับคุณกันต์ค่ะ”
“ได้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ คุณกันต์สะดวกช่วงไหนคะ”
“ทุกช่วงครับ คุณอยากโทรมาตอนไหนก็โทรมาได้เลย”
“ขอบคุณนะคะ ขอโทษที่รบกวนด้วยค่ะ” แพรดาวยกมือไหว้ รอยยิ้มสดใสของคนตรงหน้า ทำให้เขาอยากหยิกแก้มเบา ๆ และแทนที่หันหลังไปแล้วก็น่าจะเดินออกจากห้องไป เธอกลับหันมาทิ้งท้ายว่า...
“ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรนะคะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานด้วย แพรอยากเกริ่นไว้ก่อน คุณกันต์จะได้สบายใจค่ะ”
“ครับ...” กันตพลตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย แล้วมองจนเธอออกจากห้องทำงานไป เมื่ออยู่คนเดียวก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่ปิดเสียงไว้ตลอดมาเปิดเสียงเรียกเข้าให้อยู่ในระดับที่ดังที่สุด