“เฮ้ย!”
“เฮ้ยเชี่ยอะไรล่ะ ตกใจหมด เรียกเบา ๆ ก็ได้” จอมทัพที่กำลังตั้งใจเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือต่อว่า หนำซ้ำยังทำหน้าไม่พอใจเมื่อเป็นฝ่ายแพ้ เลยโทษว่าเป็นความผิดของกันตพล
“กูแพ้เพราะมึงเลยไอ้กันต์”
“พูดไปเรื่อย แต่มึงก็สมควรแพ้นะ ชวนกูมากินเบียร์แต่นั่งเล่นเกม มันใช่เหรอวะ”
“โทษนะเพื่อน มึงมาช้าครั่งชั่วโมง กูเลยนั่งเล่นเกมรอ แล้วตอนที่มึงนั่งลงเนี่ย กูเล่นเกมค้างไว้อยู่”
“เออ เอาเป็นว่า กูมีอะไรจะถาม”
“ถามอะไร” จอมทัพส่งแก้วเบียร์ให้เพื่อน รอฟังจากตั้งใจ เพราะนาน ๆ ทีกันตพลจะขอคำปรึกษา
“การที่ผู้หญิงคนหนึ่งเห็นว่าแฟนตัวเองกำลังนอกใจ แต่ทำเหมือนไม่มีเห็น มันแปลว่าอะไรวะ”
“แปลว่าไม่ต้องเสือกเรื่องคนอื่นครับ”
“โธ่! ไอ้จอม”
“หรือไม่จริง กูพูดไปก็เท่านั้นแหละ เพราะมันเป็นแค่การคาดเดา คนเราความคิดซับซ้อนจะตายไป แต่ถ้ามึงบอกกูว่าผู้หญิงคนนึง คนหนึ่งของมึงเนี่ยคือคนไหน กูอาจจะมีความเห็นนะ”
“ก็...”
“ก็...?”
“ก็คนเดิมนั่นแหละ”
“คนเดิม?”
“เออ”
“คนเดิมกับคนที่เคยพูดถึงเมื่อปีที่แล้ว?”
“ใช่”
“คนที่มึงเสียดายว่ามีแฟนแล้วใช่ไหม”
“ใช่”
“อ่อ... คนนี้นี่เอง”
“เออ! มึงจะย้ำทำไมวะ”
“อ้าว! กูต้องการแน่ใจว่ามึงยังชอบผู้หญิงคนเดิมอยู่ไง แต่กูแน่ใจแล้วแหละว่ามึงชอบมาก ชอบมาเกือบสองปีแล้วเนอะ”
“แล้วมึงจะตอบคำถามกูไหม”
“ตอบสิ”
“ตอบว่าอะไรล่ะ”
“ไม่รู้ว่ะ... กูไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยคุยด้วย เลยไม่รู้จะเอาอะไรมาเดาว่าเธอมีเหตุผลอะไรถึงทำแบบนั้น แต่ถ้าออกความเห็นแบบเผิน ๆ ทั่ว ๆ ไป คิดว่ามีอยู่สองอย่าง หนึ่ง รักจนโง่ สอง รอวันแก้แค้น”
“แล้วมึงว่า... แบบไหนมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน”
“ก็อยู่ที่ว่าคนที่มึงแอบชอบเป็นคนแบบไหน เป็นคนรักคนอื่นมากกว่าตัวเองก็ข้อหนึ่ง แต่ถ้ารักตัวเองมากกว่าคนอื่นก็ข้อสอง”
“ขอบใจมาก แล้วนัดกูมาทำอะไรวะจอม คงไม่ได้นัดมากินเบียร์เฉย ๆ หรอกมั้ง”
จอมทัพหมั่นไส้ที่อยู่ดี ๆ กันตพลก็เปลี่ยนเรื่อง แต่ก็เข้าประเด็นในทันที “กูเหงา”
“เหงา!” กันตพลแทบสำลักเบียร์ที่กำลังกลืนลงคอ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นจะพูดคำนี้ออกมา
“ใช่ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยว่ะ หรือแก่แล้วก็ไม่รู้”
“ไม่แก่หรอก เพิ่งอายุสามสิบสี่ ยังมีเวลาให้ใช้ชีวิตอีกเยอะ”
“แล้วทำไมกูเหงาจังวะ หรือว่าพรุ่งนี้วันวาเลนไทน์”
“ก็... เป็นไปได้”
“มึงรู้ใช่ไหมกันต์ว่าตั้งแต่เลิกกับลิน กูเที่ยวแทบทุกวัน” จอมทัพถามเพื่อนซี้ ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาคือการพยักหน้า
“แต่หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา กูทดลองไม่เที่ยว แล้วกูพบว่ากูมีความสุขว่ะ ตอนกลับบ้านมาทุกอย่างมันเงียบ เงียบแบบที่ว่ามึงได้ยินว่าตัวเองต้องการอะไร”
“แล้วมึงต้องการอะไรล่ะจอม”
“กูต้องการแบบนี้แหละ”
“แบบเหงา ๆ เนี่ยนะ”
“ไม่ใช่”
“แล้วแบบไหน”
“แบบที่กลับบ้านไปแล้วรู้สึกสงบ”
กันตพลกะพริบตาปริบ ๆ คนตรงหน้าน่ะเพื่อนที่คบกันมาทั้งชีวิตแน่นอน แต่จิตวิญญาณที่อยู่ข้างในน่ะใครกันแน่ ทว่าพอเห็นจอมทัพก้มหน้ายิ้ม เขาก็ได้คำตอบแล้วว่าเพื่อนเป็นอะไรกันแน่
“กูรู้แล้ว มึงหลงรักแม่ชีอยู่นี่เอง”
“รู้ดี แต่ไม่ใช่แม่ชีหรอก เอาไว้ถ้ากูแน่ใจว่าชอบจริง ๆ แล้วจะเล่าให้ฟังนะ” จอมทัพทำหน้ากรุ้มกริ่ม ทว่ารอยยิ้มไม่ได้มีสาเหตุจากกันตพล แต่เป็นผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตรู้สึกสงบสุขนั่นเอง
“ตามใจ ยังไงก็โชคดีแล้วกัน”
“เออไอ้กันต์ แล้วงานมึงเป็นไงบ้าง”
“มึงนี่ก็เปลี่ยนเรื่องเร็วไม่แพ้กูเลยนะ” กันตพลยิ้มมุมปาก ก่อนจะหยิบแก้วชนกับจอมทัพแล้วดื่มจนหมด
“ว่าไง งานเป็นไงบ้าง พ่อนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง”
“ภาพรวมก็โอเค อยู่ในจุดที่กูพอใจ แต่ก็ไม่ใช่จุดที่กูฝันไว้ เออไอ้จอม มึงรู้จักวงเคพีเจไหมวะ”
“เจพีเค!”
“มึงรู้จักเหรอวะ”
“รู้จักสิ รู้จักดีเลยด้วย”
“ทำไมวะ” เขาถามด้วยความสงสัย แปลกใจที่เพื่อนมีความรู้เรื่องนี้ด้วย
“ก็เพราะไอ้วงเจพีเคนี่แหละที่ทำให้กูเลิกกับลิน”
“ถามจริง”
“ก็เออสิวะ คือลินน่ะ...” จอมทัพถอนหายใจ ไม่อยากพูดถึงแฟนเก่า แต่สุดท้ายก็พูดออกมา
“ลินน่ะชอบวงนี้มาก แล้ววันที่วงนี้มาเล่นคอนเสิร์ตในไทยเมื่อปีที่แล้วเป็นวันที่กูกลับมาจากอเมริกาพอดี ไม่เจอกันมาเกือบปี กูกลับมา กูก็อยากจะอยู่กับลิน แต่ลินขอกูไปดูคอนเสิร์ต กูก็เลยไม่ยอม แล้วก็เถียงกันจนทะเลาะกัน แล้วสุดท้ายก็เลิกกัน”
“เพราะลินเลือกไปดูคอนเสิร์ตแทนที่จะอยู่กับมึงเหรอ”
“เปล่า ลินเลือกอยู่กับกู แต่เลิกกันหลังจากนั้นเพราะอีกสี่เดือนคนในวงที่ชื่อพีทมีแฟนมีตติง แต่กูไม่ให้ลินไป ตอนนี้แหละที่ทำให้เลิกกัน”
“เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง มึงไม่เคยเล่าให้พวกกูฟังว่าเลิกเพราะอะไร ก็คิดว่าเลิกกันเพราะระยะทางซะอีก”
“เปล่าหรอก แต่ต่อไปนี้กูจะไม่ชอบผู้หญิงที่เป็นติ่งอีกแล้ว แล้วมึงถามถึงวงเจพีเคทำไมวะ”
“ฝ่ายการตลาดเสนอชื่อวงเจพีเคให้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าใหม่”
“ก็ดีนะ ถึงกูจะไม่ชอบ แต่กูว่าดี ถ้าเงินมึงถึงก็จ่ายไปเถอะ ยังไงก็กำไร”
“ทำไมมึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะ”
“ก็เพราะลินอีกนั่นแหละ กูจะบอกอะไรให้มึงฟังนะ ขนาดแค่รูปใบเล็ก ๆ ยังขายกันใบละเป็นร้อย นับประสาอะไรกับ... มึงจะขายอะไรนะ”
“น้ำ”
“เออ นับประสาอะไรกับน้ำขวดละ... จะขายเท่าไหร่?”
“สามสิบห้า”
“นั่นแหละ ถ้ามึงแปะหน้าเจพีเคลงไปในขวดด้วย มึงเตรียมผลิตให้ทันขายก็แล้วกัน” จอมทัพพูดไปก็คิดถึงกระป๋องน้ำอัดลมที่แฟนเก่าซื้อมาตั้งโชว์หน้าโทรทัศน์ กระป๋อง... ที่มีหน้าสมาชิกแต่ละคนอยู่บนนั้น แต่เมื่อกลับมามองกันตพลก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเพื่อนรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่บอกกล่าว
“สวัสดีครับ”
จอมทัพชำเลืองมองคนที่กันตพลทักทาย คิดว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือคนสูงอายุเพราะนอบน้อมเหลือเกิน แต่คนตรงหน้ากลับเป็นผู้หญิงที่น่าจะอายุน้อยกว่า
“สวัสดีค่ะคุณกันต์” แพรดาวทักทายเจ้านายที่บังเอิญเจอกันนอกสถานที่และหันมาทักทายจอมทัพ “สวัสดีค่ะ”
“คุณแพร... มาคนเดียวเหรอครับ” เขาถามเพื่อชวนคุย แต่ใจจริงอยากรู้ว่าเธอไม่ได้ไปกินชาบูกับคนรักตามที่ได้ยินหรอกหรือ...
“แพรมากับเพื่อนค่ะ เพื่อนรออยู่ข้างในแล้ว ไม่รบกวนคุณกันต์กับเพื่อนแล้วนะคะ ขอตัวค่ะ” เธอรีบตอบรีบร่ำลา ไม่ชอบเจอคนที่ทำงานในเวลาพักผ่อน รู้สึกอึดอัดยังไงชอบกล ว่าแล้วก็โปรยยิ้มอย่างมีมารยาทก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
“ใครวะ” จอมทัพถามทันทีที่แพรดาวเดินไปไกลมากพอจะไม่ได้ยินคำถาม
“คนที่ทำงาน”
“ก็ต้องคนอยู่แล้วหรือเปล่า กระดาษเอสี่ในออฟฟิศมึงจะเดินมาร้านอาหารได้เหรอ กูหมายถึงชื่อ เธอชื่ออะไร”
“มึงจะอยากรู้ไปทำไม”
“อยากรู้เพราะน่ารักดี” จอมทัพกวนบาทากันตพล เหตุผลก็เป็นเพราะเพื่อนตอบอ้อมไปอ้อมมาไม่ตรงประเด็นเลย
“ชื่อแพร เป็นหัวหน้าทีมการตลาด คนนี้แหละที่เสนอให้เอาวงเจพีเคมาเป็นพรีเซนเตอร์”
“แค่นี้เหรอ?”
“แล้วต้องมีอะไรต่อล่ะ”
“ก็อย่างเช่น... ชื่อแพร เป็นหัวหน้าทีมการตลาด คนนี้แหละที่เสนอให้เอาวงเจพีเคมาเป็นพรีเซนเตอร์ แล้วก็เป็นคนที่กูแอบชอบมาสองปี เป็นต้น” จอมทัพรู้ใจกันตพลมาแต่ไหนแต่ไร เพื่อนคนนี้ชอบผู้หญิงเก่ง ขยันทำงาน ยิ่งหน้าตาสไตล์เดียวกับแพรดาว ยิ่งดึงดูดความสนใจของเพื่อนได้เสมอ แล้วมีหรือที่เห็นหน้ากันแทบทุกวันเพื่อนจะไม่หลงเสน่ห์ แถมเมื่อครู่ยังรีบลุกขึ้นทักทายเหมือนตัวเองเป็นพนักงาน ส่วนเธอเป็นเจ้าของบริษัทขนาดนั้น
“ถ้ารู้ดีขนาดนี้ มึงก็ถอนคำพูดที่บอกว่าเธอน่ารักด้วยนะ ไม่งั้นกูจะเตะปากมึงให้เลือดกลบเลย”
จอมทัพหัวเราะชอบใจ แบบนี้แหละที่แปลว่ากันตพลชอบมาก และยังจริงจังกับเธอด้วย
“เออ! กูถอนคำพูด กูก็ชมเพื่อลองเชิงมึงไปงั้นแหละ แต่พอเห็นหน้าเธอแล้ว ที่มึงถามก่อนหน้านี้ กูขอตอบข้อสองอย่างมั่นใจเลยนะ ว่าเธอยังไม่เลิกกับแฟนเพราะรอวันแก้แค้น ต่อไปนี้มึงก็เตรียมตัวจีบได้เลย อีกไม่นานก็โสด ฟันธง!”
กันตพลถอนหายใจเมื่อได้ยินคำพูดของจอมทัพ คำพูดที่มันช่างเกินจริงและมั่นอกมั่นใจเกินความจำเป็น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึก ๆ แล้วก็รอวันนั้นอยู่เหมือนกัน... วันที่แพรดาวจะโสดสักที
ย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ในฐานะลูกชายคนเล็กของครอบครัวที่สมาชิกเก่งกาจเรื่องธุรกิจ กันตพลถูกปรามาสมาเสมอว่างานใหญ่ของเขาไม่มีทางรอด ไม่เกินหนึ่งปีก็เจ๊งไม่เป็นท่าและต้องกลับมาสานต่อธุรกิจที่ครอบครัวปูทางไว้ แต่พวกเขาก็คาดเดาผิดไปมาก เพราะเพียงเวลาแค่หนึ่งปีเศษ เขาสามารถทำให้บริษัทถูกจับตามองและถูกพูดถึงในวงการ ว่านี่คือคลื่นลูกใหม่ที่ต้องระวังไว้ให้ดี
และในขณะที่กิจการกำลังไปด้วยสวย เขาจึงต้องรับพนักงานในหน่วยงานต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งแพรดาวก็เป็นหนึ่งในนั้น ทว่าไม่ได้ถูกตาต้องใจเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แต่เพราะความสามารถและความน่ารักสดใสของเธอที่เปล่งประกายจนเตะตามากขึ้นทุกวัน เมื่อนั้นเขาก็รู้ว่าหัวใจหวั่นไหวให้กับหัวหน้าฝ่ายการตลาดทีมบีเข้าซะแล้ว
ระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมากันตพลจึงทำได้แค่แอบชอบ แอบมองแพรดาวอยู่ห่าง ๆ เพราะต้องให้เกียรติเธอกับคนรัก และพยายามตัดใจให้ได้ แต่ต่อให้รู้จักผู้หญิงคนใหม่ ก็ไม่มีคนไหนแทนที่แพรดาวได้เลย
“ขอโทษที่ต้องกลับก่อนนะกันต์ ไว้เจอกันเพื่อน”
“อะไรวะ...” กันตพลงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อจอมทัพตบบ่าแถมยังพูดจาแปลก ๆ เหมือนจะทิ้งกันไว้ที่นี่
“มึงอย่าหันไปนะ คุณแพรกำลังเดินมา มึงให้คุณแพรไปส่งนะ สู้ ๆ เพื่อน” จอมทัพกระซิบแล้วเดินไปขึ้นรถ ก่อนจะลดกระจกลงแล้วพูดดัง ๆ ว่า...
“ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งนะมึง มีเรื่องด่วนจริง ๆ ว่ะ” เขาพูดจบก็ขับรถออกไป ปล่อยให้เพื่อนซี้ยืนด่าตามหลังในใจ
ทว่าสายตาของกันตพลก็ไม่หันไปมองข้างหลัง แต่แอบมองซ้ายมองขวา ว่ารถของแพรดาวจอดอยู่ข้าง ๆ รถของจอมทัพที่เพิ่งขับออกไปหรือเปล่า และเมื่อเห็นว่ารถคันคุ้นตาและจำเลขทะเบียนได้แม่นจอดอยู่ทางขวามือ แถมยังเป็นทางออกของร้าน ก็แกล้งเดินไปแล้วลุ้นว่าเธอจะทักทายกันไหม
ส่วนแพรดาวก็ลังเลอยู่ในใจ เห็นเพียงแผ่นหลังก็จำได้ว่าผู้ชายที่ห่างออกไปไม่ไกลเป็นใคร แต่จะเรียกดีไหม ถามว่าเขากลับบ้านยังไงดีหรือเปล่า... หรือทำเป็นไม่เห็น เขาอาจจะกำลังเดินไปที่รถก็ได้นี่
ทว่าจิตสำนึกฝ่ายดีก็เอาชนะความไร้มิตรไมตรีในใจ มือกดรีโมตเปิดรถและตัดสินใจเรียกเจ้านายที่กำลังเดินผ่านรถของตัวเองพอดี