“คุณกันต์ปวดท้องมากไหมครับ” ธนนท์ถามอย่างห่วงใย ตั้งแต่เจอหน้าเจ้านาย ไม่เห็นมีท่าทีแบบที่ว่าเลยแม้แต่น้อย และแทนที่กันตพลจะเดินเข้าห้องน้ำ เขากลับเดินไปยังห้องทำงาน
“นิดหน่อย” เขาตอบสั้น ๆ นั่งสบาย ๆ บนโซฟา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาดูนั่นนี่บนหน้าจอ
“คุณกันต์ครับ”
“ว่า...” กันตพลเงยหน้ามองธนนท์ ทำงานด้วยกันมาหลายปี ทุกครั้งที่ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง คำพูดที่เลขาจะเอื้อนเอ่ย มักเป็นเรื่องสำคัญเสมอ
“คุณกันต์ต้องระวังตัวไว้หน่อยนะครับ”
“ทำไมพูดแบบนี้?” คนถูกเตือนวางมือจากทุกอย่าง เมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน
“ผมไม่รู้นะครับว่าคุณแพรมีปัญหาอะไร เธอถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา แต่คุณกันต์ต้องระวังสายตาของตัวเองหน่อยนะครับ ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ผมเห็นคุณกันต์เหลือบมองคุณแพรไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง”
“นนท์...”
“ครับ...”
“ผมไม่ได้มอง” กันตพลปฏิเสธราบเรียบ ไม่มีทางที่ตัวเองจะทำแบบนั้นไปได้ ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องทำงาน ตรงไปเข้าห้องน้ำเพื่อให้สมบทบาทว่าท้องไส้ไม่ค่อยดี โดยที่เบื้องหลังมีธนนท์ยกยิ้มมุมปาก เขาตลกที่เจ้านายปากแข็งยิ่งกว่าเพชร แต่สายตาน่ะอ่อนโยนทุกครั้งเวลาเห็นหน้าแพรดาว
“สวัสดีค่ะ แพรนะคะ ตัวแทนจากฝ่ายการตลาดทีมบี ก่อนอื่นต้องชี้แจงก่อนนะคะว่าทีมของแพรกับของคุณเจต... เรามีแนวคิดในการทำการตลาดที่คล้ายกันอีกแล้วค่ะ”
สิ้นเสียงของแพรดาว ในห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงหลากหลาย บ้างก็หัวเราะชอบใจเพราะชอบดูการต่อสู้ของทั้งสอง บ้างก็กังวลที่รู้ว่าในอนาคตจะต้องเลือกให้คะแนนระหว่างทีมเอกับทีมบี เพื่อออกความเห็นว่าจะสนับสนุนกับแนวคิดของใคร
กันตพลที่ได้ยินแบบนั้นก็มองเธอไม่ละสายตา ทว่าเมื่อสัมผัสได้ว่าธนนท์กำลังจ้องจับผิดก็ก้มมองเอกสารในมือ ทำเอาธนนท์ต้องกลั้นขำ เมื่อเห็นเขาทำหน้าเหมือนปวดท้องขึ้นมาจริง ๆ
“ทีมเอของคุณเจต เลือกใช้พรีเซนเตอร์เป็นความพิเศษของสินค้า ทีมของแพรก็เช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่ทีมของแพรจะใช้ศิลปินระดับเอเชีย และกำลังเป็นศิลปินระดับโลกในการเพิ่มยอดขายให้บริษัทค่ะ”
เธอปรายตามองเจตรินเพื่อดูปฏิกิริยาของคู่แข่ง อีกฝ่ายเลือกใช้คู่จิ้นจากซีรีส์วายเรื่องดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงในต่างประเทศอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าคนที่ตัวเองเลือกไว้
“ยังไงครับ”
“เราจะทำในสิ่งที่บริษัทยังไม่เคยทำมาก่อนค่ะคุณกันต์”
“ขออนุญาตนะครับ” เจตรินยกมือ เมื่อได้รับอนุญาตจากกันตพลก็พูดต่อทันที “คุณแพรสับสนอะไรหรือเปล่าครับ เราต้องทำการตลาดให้เครื่องดื่มนะครับ ไม่ใช่ทำการตลาดให้บริษัท”
“ก็ไม่เห็นจะต่างกันนี่คะ เพราะยังไงสินค้าก็คือตัวแทนของบริษัทที่ออกไปพบผู้บริโภค” แพรดาวตอบทันควัน หมั่นไส้คู่แข่งในใจที่จับผิดทุกคำพูดเลย
“พูดต่อเลยครับคุณแพร” ผู้บริหารหนุ่มเลือกตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แม้จะดูเข้าข้างแพรดาวไปหน่อย แต่เข้าใจความหมายที่เธอจะสื่อ เลยไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นักกับคำถามของเจตริน
“ขอบคุณค่ะคุณกันต์ แต่สิ่งที่แพรจะพูด อาจฟังไม่เข้าหูเท่าไหร่ ขอโทษล่วงหน้านะคะ” แพรดาวบอกอย่างนอบน้อมเพราะต้องให้เกียรติคนจ่ายเงินเดือน และทั้งหมดที่ตั้งใจจะพูดนั้นเป็นเรื่องจริงจนไม่รู้จะพูดอ้อมค้อมแบบไหนดี
“ครับ พูดมาได้เลย”
“เครื่องดื่มที่เป็นสินค้าใหม่คือชาเขียว ชาไทย โกโก้ที่นำมาบรรจุขวด แพรคิดว่าไม่มีคนซื้อเยอะหรอกค่ะ มันเป็นเครื่องดื่มที่หาซื้อได้ทั่วไปทุกย่อมหญ้า ทุกหัวมุมถนน หรือแม้กลางถนนยังมีรถเข็นจอดขาย”
“แล้วเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แค่อยู่ในตู้แช่เย็นยังไงไม่สดชื่นเท่าใส่น้ำแข็ง และเราไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำสินค้าแบบนี้ขาย ถ้าดูในรายงานจะเห็นว่ามีคนเคยทำมาแล้วสี่เจ้า แต่มีเพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่ในตลาดได้”
เธอหยุดพูดเพื่อดูท่าทีผู้เข้าร่วมประชุม ต่างคนต่างก้มหน้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ ยกเว้นเจตรินที่ยิ้มอย่างสะใจเมื่อเห็นกันตพลมองแพรดาวไม่ละสายตา
“พูดต่อเลยครับคุณแพร ผมฟังอยู่”
“เพราะฉะนั้นเป้าหมายของเราคือการเบียดเขาให้ลงมาอยู่ที่สอง แล้วเราขึ้นไปอยู่ที่หนึ่งแทนค่ะ ตั้งแต่เปิดบริษัทมาสี่ปี คุณกันต์ยังไม่เคยจ้างพรีเซนเตอร์เลยนะคะ สินค้าก่อนหน้านี้ขายได้เพราะไม่ซ้ำใครและมีคุณภาพ”
“แต่จากรายงานผลประกอบการของปีที่แล้ว ยอดขายเริ่มอยู่นิ่งและมีแนวโน้มจะไม่เติบโต เลยต้องออกสินค้าที่เป็นเครื่องดื่มประจำวันของคนไทยมาขาย และจากเหตุผลที่แพรอธิบายไปก่อนหน้า มีแค่พรีเซนเตอร์เท่านั้นที่จะให้สินค้าเป็นที่รู้จักค่ะ”
“แล้วพรีเซนเตอร์ที่คุณแพรคิดว่าเหมาะสมคือใครครับ”
“วงเจพีเคค่ะ”
“เดี๋ยวนะ...” คราวนี้เจตรินพูดโดยไม่ยกมือขออนุญาตใคร เขามองหน้าแพรดาวแล้วแสดงออกอย่างไม่ปิดบังว่ากำลังเยาะเย้ยเธออยู่
“คุณแพรพูดผิดหรือผมหูไม่ดีครับ วงเจพีเคเนี่ยนะครับ”
“คุณเจตได้ยินถูกแล้ว ดีใจมากเลยนะคะที่คุณเจตรู้จัก เพราะคุณเจตช่วยยืนยันชื่อเสียงของพวกเขาให้คนในที่ประชุมได้รู้ ขอบคุณค่ะ” แพรดาวโปรยยิ้มหวาน แต่เท่านี้ไม่เพียงพอที่จะอธิบายมูลค่าทางการตลาดของศิลปินกลุ่มนี้ได้
“ท่านอื่นอาจจะยังไม่รู้จักวงเจพีเค แพรขอแนะนำให้รู้จักพวกเขาทั้งเจ็ดคนนะคะ” แพรดาวบอกด้วยแววตาเป็นประกาย ดีใจที่เมื่อเริ่มทำสงครามกับเจตริน งานของเธอก็มีความน่าสนใจเพิ่มเป็นเท่าตัว