bc

ตำนานนักผีเสื้อ

book_age18+
38
FOLLOW
1K
READ
adventure
HE
princess
blue collar
sweet
detective
secrets
kingdom building
like
intro-logo
Blurb

สัมผัสที่อ่อนโยนแต่ช่างวาบหวามริมริมฝีและปลายจมูกที่ดอมดมตั้งแต่ซอกคอจนถึงแผ่นหลัง นาบียังคงหลับตามิกล้าที่จะมองหน้าของพระองค์ ภายในใจของนางมีเพียงแค่เจ้าหน้าที่คนนั้นเพียงคนเดียวแต่บัดนี้นางคงจะมิได้เข้าใกล้เขาเป็นแน่แล้วเพราะหลังจากที่นางได้ถวายตัวให้ฝ่าบาทแล้วนางจะเป็นผู้หญิงของพระราชาเต็มตัว เพียงแค่คิดน้ำตาก็ไหลริน"ถ้าเจ้าไม่มองหน้าข้า..ข้าจะประหารเจ้า"นาบีจำยอมต้องลืมตาดูร่างใกญ่ที่กำลังทับอยู่บนเรือนร่าวที่เปลือยเปล่าของนาง"ท่าน....!"

chap-preview
Free preview
การพลัดพราก
ฮันนาบีเด็กน้อยอายุเพียงแค่สิบสองปีนางเกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ที่เป็นขุนนางระดับสูงที่คอยรับใช้พระราชาอย่างจงรักภักดีซื่อสัตว์มานานจากรุ่นสู่รุ่นตระกูลฮันยิ่งใหญ่และมีอำนาจมีคนนับหน้าถือตามากมายแต่ก็มีคนอิจฉามากมายเช่นกัน อีมยองมุนก็หนึ่งในขุนนางที่คอยจ้องจะยึดครองอำนาจของฮันยองวอน "ท่านเสนาบดีฮัน มีแค่วิธีเดียวที่วงค์ตระกูลของเราจะมิสั่นคลอนได้คือต้องให้ นาบี เข้าคัดเลือกเป็นนางสนมนะขอรับท่าน " "แต่ว่านานียังเล็กนักนะ ข้าว่ายังไม่ถึงเวลาและนาบีก็คงไม่ยอมเพราะบานบีไม่ชอบอยู่ในวัง" "แต่มีเพียงแค่นาบีนะขอรับที่จะช่วยวงค์ตระกูลของเราได้ ถ้านาบีได้เป็นนางสนม ก็จะไม่มีใครกล้าบังอาจมาทำอะไรวงค์ตระกูลของเรา" หลานชายของฮันยองวอนซึ่งเป็นขุนนางในวังได้มาปรึกษาฮันยองวอนเมื่อเขาบังเอิญไปได้ยินแผนการโค่นตระกูลฮันเข้าที่หอนางโลมแห่งหนึ่งในฮันยาง ฮันยองวอนคิดหนักไม่น้อยเขามีบุตรสองคนคนโตเป็นผู้ชายชื่อฮันทันบีอายุสิบแปดปีและพึ่งสอบเข้ารับราชการได้เป็นขุนนางในวังได้ไม่นานส่วนบุตรสาวอีกคนของเขาชื่อนาบีพึ่งจะอายุได้สิบสองขวบ เขาคิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไรกับบุตรสาวดีให้ยอมเข้าคัดเลือกนางสนม "ท่านพ่อ นาบีไม่ยอมนะเจ้าคะนาบีไม่เข้าวังแค่ท่านแม่คนเดียวนาบีก็แย่แล้วถ้าเข้าวังไปคงมีหลายคนที่ห้ามนู่นห้ามนี่จนนาบีไม่เป็นตัวของตัวเองแน่เลยเจ้าค่ะ" "ถ้านาบีได้เป็นสนมเป็นผู้หญิงของพระราชาจะไม่มีใครวาทำอะไรเราได้ขณะนี้มีหลายคนที่จ้องจะโค่นล้มอำนาจของพ่อไม่รู้ว่าพวกมันจะสรรหาวิธีใดมาทำร้ายวงค์ตระกูลของเราข้ากลัวว่าเจ้ากับแม่เจ้าจะไม่ปลอดภัยฝ่าบาทเท่านั้นที่จะช่วยพวกเราได้" คิมนาบีไม่ยอมท่าเดียว จนสุดท้ายฮันยองวอนก็ยอมแพ้ไม่อยากขัดใจบุตรสาวที่หัวรั้นของเขา ฮันยองวอนเฝ้าระวังคนปองร้ายหลายต่อหลายครั้งที่เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะมีคนรอบฆ่าเขา แต่ฮันยองวอนก็รอดมาได้ "มันดวงแข็งมากเลยท่านพลาดหลายครั้งแล้ว" "มันมิได้ดวงดีดวงแข็งแต่อย่างใดหรอกเพราะเจ้าทำงานพลาดอย่ามาอ้างดวงอะไรนั่นทำงานไม่ได้เรื่องไสหัวไป" อีมยองมุนผู้ที่อยู่เบื่องหลังการโค่นอำนาจฮันยองวอนโกรธจนลมออกหูที่ลูกน้องทำงานพลาดขว้างปาข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง "โป๊ก...โอ๊ย...ทะ..ทะ..ท่านอำมาตย์มาขอพบขอรับนายท่าน" "เชิญเขาเข้ามา" ท่านอำมาตย์ยุนเป็นคนทีคอยให้คำปรึกษาและอยู่ใกล้ชิดพระราชามากที่สุดแต่วันนี้เขามาหาอีมยองมุนเพื่อการใดไม่มีใครรู้ได้นอกจากเขาทั้งสองคนเท่านั้น ณ วังหลวงที่ท้องพระโรงซึ่งได้มีการประชุมเรื่องเลือกพระสนม "ฝ่าบาทพระยะค่ะทรงไตร่ตรองด้วยพะยะค่ะทรงเลื่อนการคัดเลือกพระสนมออกไปก่อนพะยะค่ะขณะนี้บ้านเมืองระส่ำระสายไม่สงบสุขถ้าหากยังคงดึงดันที่จะเลือกพระสนมราษกรจะครหาได้นะพระย่ะค่ะ ข่างลือนอกวังลือกันหนาหูว่าพระราชาหมกมุ่นในสตรีกระหม่อมมิอยากให้ใครมาดูแคลนพระองค์ได้พะย่ะค่ะ" การที่อำมาตย์ยุนและอีมยองมุนค้านหัวชนฝาเพราะพวกเขารู้ว่าฮันยองวอนคิดที่จะส่งบุ๖รสาวเข้าคัดเลือกด้วยฮันนาบีเป็นเด็กฉลาดใครๆก็รู้กันทั่วหากปล่อยให้ได้เข้ามาเป็นสนมอำนาจของฮันยองวอนจะมีมากจนอีมยองมุนไม่สามรถที่จะโค่นอำนาจเขาลงได้ "ท่านอำมาตย์ว่าอย่างไร?" "กระหม่อนเห็นด้วยกับท่านอีมยองมุนพระเจ้าค่ะ" "กระหม่อมก็เห็นด้วย" "กระหม่อมด้วย" ฝ่ายหนึ่งก็เข้าข้างอีมยองมุนแต่อีกฝ่ายก็เข้าข้างฮันยองวอนการเมืองแบ่งเป็นสองฝ่ายพระราชาต้องตัดสินใจ "การคัดเลือกยังคงดำเนินต่อไปแค่นั้นเรื่องนี้พระพันปีเสนอมาแล้วพระพันปีได้คัดเลือกไว้แล้วด้วยตนเองข้ามิอาจทัดทานท่านได้" อีมยองมุนโกรธมากหัวเสียกลับบ้านอำมาตย์ยุนรีบพาเหล่าขุนนางที่อยู่ฝ่ายอีมยองมุนประชุมลับทันที "ท่านอีถ้าเป็นเช่นนี้พวกเราตายแน่ท่านเสนาบดีฮันเหมือนจะรู้เรื่องส่วยที่เราเรียกเก็บจากประชาชนในที่หลวงที่ฝ่าบาทให้ราษฏรทำกินและค้าขายโดยไม่เก็บค่าเช่า" "รู้แล้วข้าก็กำลังวางแผนอยู่" ทั้งหมดประชุมกันด้วยความตึงเครียด "เอาตามนี้แล้วกันนี่เป็นหนทางเดียวที่พวกเราจะรอด" "แต่ว่ามันเสี่ยงเกินไปนะถ้าพลาดพวกเราหัวกุดกันหมดแน่" "ถ้าฝ่าบาทรู้เรื่องนี้ก็กุดไม่ต่างกันฮันยองวอนเสี้ยนหนามยิ่งต้องกำจัดตระกูลฮันให้สิ้นซากไม่ให้เหลือเลยซักคนเดียว" ค่ำคืนที่เหน็บหนาวหิมะตกปลอยๆอากาศเย็นยะเยือกวังเวงเหมือนเป็นลางบอกเหตุร้ายว่าจะต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเป็นแน่ "ท่านขันทีชเว ข้าขอชาสักเหยือกได้ไหม?" "แต่ว่าพระองค์ได้เวลาบรรทมแล้วนะพระยะค่ะ" "ข้านอนไม่หลับหรอกข้าจะอ่านจดหมายร้องเรียนอีกสักหน่อย" "ได้พระยะค่ะ นางในไปชงชามาถวายฝ่าบาทหน่อยเร็วๆ" นางในคนสนิทที่คอยดูแลพระราชาหายไปได้แป๊บเดียวก็ถือเหยือกที่มีชาชงใหม่ๆร้อนๆมาถวาย แต่เมื่อพระราชาทรงเสวยไปได้เพียงสองจอกก็มีอาการทุรนทุรายเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างวิ่งกันโกลาหลอลมม่าน "หมอหลวง..หมอหลวงเร็วๆฝ่าบาทถูกลอบปลงพระชนเร็วๆ" หมอหลวงมาไม่ทันพระราชาได้สิ้นใจไปแล้วพิษชนิดนี้ร้ายแรงมากหมอหลวงตรวจดูน้ำชาแต่ก็ไม่มีพิษแต่อย่างใดหมอหลวงตรวจดูที่ถ้วยชาจึงได้รู้ว่าที่แท้าถ้วยชาอาบยาพิษไว้นั่นเองใครกันมาแอบทายาพิษไว้ทาไว้ตอนไหนไม่มีใครรู้เพราะถ้วยชาข้าวของเครื่องใช้ได้แยกเป็นสัดเป็นส่วนไม่สามารถใช้รวมกันได้ถ้วยชานี่ก็เช่นกันเป็นของส่วนพระองค์ไม่มีใครกล้าที่จะหยิบไปใช้ได้ เสียงร้องไห้ดังระงมไปทุกที่เมื่อได้ยินเสียงป่าวประกาศจากในวังว่า "พระราชาทรงสวรรค์คตแล้ว..." กองคดีความ กองสืบสวน สืบค้นหาสาเหตุว่าผู้ใดที่กล้าวางยาปรงพระชนพระราชา เมื่อมีสายรายงานว่ามียาพิษชนิดเดียวกันได้ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านของท่านเสนาบดีฮันยองวอน เหล่าบรรดากองสืบสวนและทหารองคลักษณ์ได้รุดไปยังบ้านเสนาบดี "นี่ไงเจอแล้ว...จับตัวไปให้หมด....นำตัวไปสอบสวน" ฮันยองวอนและคนในตระกูลถูกจับไปจนหมด ฮันทันบีกำลังไปเที่ยวเล่นกันฮันนาบีอยู่ในตลาดกลับมาก็พลบค่ำแล้ว เมื่อทั้งคู่กลับมาบ้านก็เห็นสภาพภายในบ้านถูกรื้อข้าวของกระจัดกระจาย สองพี่น้องไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่ทันบีจะไปตามหาท่านพ่อและครอบครัวอยู่นั้นก็มีทาสรับใช้คนสนิทได้นำจกหมายมาให้ฮันทันบีในเนื้อความจดหมายได้เขียนไว้ว่า "ทันบีบุตรชายเพียงคนเดียวของข้าเจ้าจงพานาบีหนีไป เจ้าจงไปหาคิมจูอึนท่านผู้นี้เป็นสหายของพ่อเองเขาจะช่วยเจ้ากับน้องเจ้าได้อย่าให้ให้เจ้าหน้าที่จับได้เด็ดขาดเมื่อหนีได้แล้วเจ้าจงอย่ากลับมาที่นี่อีก เจ้ากับนาบีจะไม่ปลอดภัยข้าถูกใส่ร้ายว่าลอบปลงพระชนพระราชา ข้ากับคนในครอบครัวทั้งตระกูลคงมิรอดถึงวันพรุ่งแน่ตระกูลเราเหลือเจ้าแค่เพียงคนเดียวแล้วจงทำตามที่ข้าสั่งเป็นครั้งสุดท้าย " น้ำตาร่วงหล่นไหลริน นองหน้า ฮันทันบีมิรอช้ารีบพาฮันนาบีน้องสาวหนีแต่โดยดี "ไม่ข้าไม่ไปท่านพี่..ข้าจะไปหาท่านพ่อกับท่านแม่ " ทันบียื้อยุดฉุดกระชากน้องสาวที่ร้องไห้แทบขาดใจ "เจ้าฟังพี่นาบีนี่คือสิ่งเดียวที่พวกเราจะตอบแทนบุญคุณท่านพ่อและท่านแม่ได้คือเราต้องมีชีวิตรอดเจ้ากับข้าต้องรอดแล้ววันหนึ่งพี่จะกลับมาทวงความยุติธรรมให้กับวงค์ตระกูลของเราเจ้าไว้ใจพี่หนีกันก่อนไปตั้งหลักก่อนนี่คือคำสั่งของท่านพ่อ เจ้าจะขัดคำสั่งท่านพ่อหรือ?" นาบีได้แต่ก้มหน้าร้องไห้แทบขาดใจภายในใจเด็กสาวเก็บความคลั่งแค้นไว้ ฮันทันบีได้พาทาสรับใช้คนสนิทมาด้วยเพราะถ้าทางการจับได้ทาสผู้นี้ก็ต้องโทษเช่นกัน ทั้งสามคนมาถึงท่าน้ำมีเรือของใครไม่รู้จอดเทียบท่าอยู่ฮันทันบีได้ให้นาบีและทาสผู้นั้นลงเรือไปก่อนยังไม่ทันที่ทันบีจะได้ลงเรือก็มีเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งมาพอดีทันบีเห็นท่าจะไม่ดีแน่จึงหยิบกระดาษจดหมายที่ท่านพ่อได้เขียนไว้มอบให้นาบีแล้วก็ ส่งสัญญาณให้ทาสรับใช้รีบพายเรือไปให้เร็วที่สุด "ท่านพี่..ท่านพี่...ท่านทิ้งข้าทำไม...ท่านพี่" ฮันนาบี ร้องเรียกพี่ชายน้ำตานองหน้า ภาพที่เห็นถึงแม่เรือจะเล่นออกมาไกลแล้ว ฮันทันบีเสียสละชีวิตเพื่อช่วยน้องสาวเขาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ฮันทันบีถูดฟันเข้าที่หน้าอกจนตกน้ำหายไปต่อหน้าต่อตานาบี "ท่านพี่..ท่านพี่" "คุณหนูอยู่เฉยๆนะขอรับเดี๋ยวจะตกน้ำ " "ข้าจะกลับไปรับท่านพี่เจ้าต้องกลับเรือเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่ง" "ถ้าท่านสิ้นชีวิตอีกคนท่านเสนาบดีกับนายหญิงจะนอนตายตาไม่หลับนะขอรับเชื่อข้าเถอะนะขอรับเหลือคุณหนูเพียงคนเดียวแล้วนะขอรับ" ฮันนาบีได้แต่ร้องไห้ไม่สามารถทำอะไรได้จนกระทั่งเรือได้มาจอดเทียบท่าทั้งคู่เดินลัดเลาะชายป่าไปยังบ้านของคิมจูอึน สหายของเสนาบดีฮันยองวอนนาบีเคยมาแล้วหลายตรั้งนางจึงจำทางได้ ทั้งคู่ใช้เวลาเดินทางสองวันสองคืนมิได้มีอะไรตกถึงท้องเลย ทาสผู้ซื่อสัตย์ได้แต่หาผลไม้ป่ามาให้นายของตัวพอประทังชีวิต และแล้วทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงบ้านของสหายรักของเสนาบดีท่านพ่อของนาบี "นั่นนาบีเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ท่านเสนาบดีล่ะไม่ได้มาด้วยหรือทำไมสภาพเจ้าเป็นเช่นนี้" "ท่านพ่อ..ท่านแม่..ท่านพี่..ไม่มีผู้ใดรอดเลย...ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฮันนาบีเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คิมจูอึนฟัง "ข้าก็พอจะรู้อยู่บ้างว่ามีคนไม่หวังดีกับพ่อของเจ้าแต่ไม่คิดว่ามันจะคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้กล้าปลงพระชนชีพฝ่าบาทแล้วป้ายความผิดให้ท่านเสนาเชียวหรือ เลวบัตซบสิ้นดี เจ้าอยู่กับข้าที่นี่อย่าได้ออกไปไหนเด็ดขาด เพราะเจ้าจะเป็นอันตรายได้" "ข้าอยากแก้แค้นให้ท่านพ่อ" "เจ้าตัวเล็กแค่นี้จะไปทำอะไรได้แล้วยังเป็นผู้หญิงด้วย" "ท่านสอนข้าใช้ดาบได้หรือไม่" "ไม่ได้หรอกคนที่มีความแค้นถือดาบไม่ได้เมื่อไรที่เจ้าวางความแค้นได้แล้วข้าจะสอนให้" สิ่งที่คิมจูอึนได้พูดกับนาบีนั้นนางไม่ได้เข้าใจเลยสักนิดแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปนาบีก็เริ่มจะเข้าใจนางเริ่มวางความแค้นนั้นลง แต่ในใจก็ยังสัมผัสที่อ่อนโยนแต่ช่างวาบหวามริมริมฝีและปลายจมูกที่ดอมดมตั้งแต่ซอกคอจนถึงแผ่นหลัง นาบียังคงหลับตามิกล้าที่จะมองหน้าของพระองค์ ภายในใจของนางมีเพียงแค่เจ้าหน้าที่คนนั้นเพียงคนเดียวแต่บัดนี้นางคงจะมิได้เข้าใกล้เขาเป็นแน่แล้วเพราะหลังจากที่นางได้ถวายตัวให้ฝ่าบาทแล้วนางจะเป็นผู้หญิงของพระราชาเต็มตัว เพียงแค่คิดน้ำตาก็ไหลริน"ถ้าเจ้าไม่มองหน้าข้า..ข้าจะประหารเจ้า"นาบีจำยอมต้องลืมตาดูร่างใกญ่ที่กำลังทับอยู่บนเรือนร่าวที่เปลือยเปล่าของนาง"ท่าน....!"ย้อนกลับไปและไปครั้งนี้นาบีตั้งใจจะเข้าไปคัดเลือกเป็นนางในให้จงได้เพื่อที่จะสืบคนหาความจริง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
7.9K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.1K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.2K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook