ตอนที่ 4 ( บ้านกำนัน)
"หวาง...มัคขอหยุดสักวันมั่ยดั่ยหย๋อ มัคไม่ดั่ยหยุกเรียนเยยซักวัน" เสียงต่อรองที่ดังขึ้นในตอนที่น้าสาวคนสวยกำลังแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับหลานชายตัวน้อย เพื่อจะได้ไปโรงเรียนสักที โรงเรียนเข้า 8 โมง แต่กว่าที่ตัวแสบจะทำอะไรเสร็จก็ถึงโรงเรียนเกือบ 9 โมงทุกวัน
"ไม่ได้หยุดอะไร เพิ่งจะหยุดไปวันเสาร์อาทิตย์ แล้วเมื่อวานก็เพิ่งจะโรงเรียนวันเดียวเองนะ จะหยุดแล้วเหรอครับ"
"มัคเหน่ยอ่าหวาง" เด็กชายตัวน้อยพยายามต่อรอง อย่างไม่ยอมแพ้ แต่น้าสาวก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
"หวานก็เหนื่อย หวานยังเรียนให้จบเลย น้องมาร์คไปโรงเรียนนะครับ วันนี้หวานจะซื้อเค้กซูเปอร์แมนมาให้"
"จิงน๊า..มัคเอาอันหย่าย ๆ เยยนะ"
เมื่อถูกหลอกล่อด้วยเค้กก้อนใหญ่ เด็กชายตัวน้อยรีบยิ้มตกลงอย่างเร่งด่วน หทัยภัทรใช้เวลาไม่นานเท่าไรก็จัดการส่งหลานชายไปโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวรีบขับรถมอเตอร์ไซต์คันเก่าไปรับป้ามาลีที่บ้าน เพื่อนจะได้เร่งเดินทางเข้าเมืองไปเจรจาต่อรองกับพ่อกำนันต่อสักที
"น้ำหวานไม่ต้องกลัวนะลูก ป้าอยู่ด้วยนะลูก" ป้ามาลีกระชับมือของหทัยภัทรเอาไว้ เพื่อให้หลานสาวได้รู้สึกอุ่นใจ
"ป้ามาลีต้องอยู่กับหวานตลอดเวลานะคะ หวานกลัว "
"ไม่ต้องกลัวลูกป้าจะอยู่กับน้ำหวานตลอดเวลาเลย ไปกันลูก"
"ค่ะป้ามาลี"
หญิงสาวต่างวัยสองคนจับมือกันเดินเข้ามายังในบ้านหลังใหญ่ เธอพากันเดินตามทางที่รปภ.ชี้ให้พวกเธอเข้ามา ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป คนหนึ่งอยากมาเพื่อเจรจาปัญหาให้จบ แต่อีกคนมาเพื่อปกป้องหลาน ถึงแม้จะไม่ใช่หลานแท้ ๆ แต่มาลีก็รักหญิงสาวมาก เพราะเธอเองก็เห็นหญิงสาวมาตั้งแต่เด็ก ๆ
"มากันแล้วเหรอหนูน้ำหวาน แล้วนั่นใครกัน" พ่อกำนันเดินยิ้มออกมาทักทายกับหทัยภัทรทันที ที่รปภ.รายงานว่าหญิงสาวมาถึงแล้ว แต่เมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนมาด้วยพ่อกำนันก็หุบยิ้มลงทันที แต่ก็ยังคงไว้ฟอร์มอยู่เช่นเดิม
"สวัสดีค่ะพ่อกำนัน นี่ป้าหวานเองค่ะ"
"สวัสดีจ้ะพ่อกำนัน ฉันพาหลานมาคุยธุระเรื่องที่ของแม่น้ำค้างน่ะ พ่อกำนันจะว่าอย่างไรบ้างจ๊ะ"
"อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง นั่งก่อนสิ " กำนันเอกผายมือให้กับทั้งคู่ได้นั่งลง ก่อนจะเริ่มคุยกันอย่าจริงจัง
" ก็อย่างที่หนูรู้นั่นแหละ แม่ของหนูเอาโฉนดที่ดินมาจำนองกับฉันไว้ เมื่อตอนที่พี่สาวหนูท้องกลับมาน่ะ แต่ฉันก็เข้าใจนะว่าแม่หนูเสียไปแล้ว ตอนแรกที่แม่หนูป่วยฉันก็ใจดีไม่เก็บดอกดวง ทั้งที่ความจริงแล้ว จำนองแบบขายฝากแค่เดือนเดียวฉันก็สามารถยึดที่ของหนูได้แล้วนะ แต่นี่ฉันรอให้หนูนำเงินมาต่อหรือมาไถ่คืน หนูก็เงียบหาย เพราะฉะนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้ายเลย เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ใคร ๆ ก็อยากได้กันทั้งนั้นหนูว่าจริงไหม"
"แต่หนูไม่รู้เรื่องเลยนะคะ แม่เองก็ไม่เคยบอกหนูมาก่อน" หญิงสาวรีบแย้งออกไป
"อันนั้นมันเป็นปัญหาของหนูนะจ๊ะ ฉันก็ไม่รู้ด้วยเรื่องภายในครอบครัวน่ะ แต่ตอนนี้ปัญหาของฉันคือฉันอยากได้เงินคืน ถ้าไม่มีเงิน ฉันก็จำเป็นต้องยึดที่ของหนูแล้วล่ะจ๊ะ" กำนันเอกไม่ได้สนใจกับสิ่งที่หญิงสาวร้องเลยสักนิด
"พ่อกำนันคะ หนูขอต่อดอกไปก่อนได้ไหมคะ ถ้ายึดที่หนู แล้วหนูกับหลานจะไปอยู่กันที่ไหนล่ะคะ"
"เฮ้อ!! อย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยนะหนูน้ำหวาน"
"นะคะ พ่อกำนันแล้วหนูจะรีบหาเงินมาไถ่ที่ออก" หทัยภัทรพยายามอ้อนวอนอย่างเต็มที่หวังว่ากำนันจะเห็นใจ
"นะพ่อกำนันนะ ถือว่าสงสารเด็กมันเถอะ มันมีกันสองคนน้าหลานแล้วนะ" ป้ามาลีเองก็ช่วยกันพูดอีกแรง
"ฉันเข้าใจ แต่ก็อยากให้เข้าใจฉันกันด้วย เงินตั้งมากมาย หนูน้ำหวานเองก็ไม่ได้มีงานอะไรที่ไหน ฉันเกรงว่าหนูจะหาเงินมาให้ฉันไม่ได้นะสิ"
"หนูจะพยายามค่ะ ตอนนี้หนูไม่ได้ว่างงานนะคะ หนูรับงานแปลหนังสือ ยังไงก็ตามหนูก็สามารถหาเงินมาไถ่ออกได้แน่ ๆ "
กำนันเอก ดึงมือหญิงสาวไปกุมเอาไว้ พร้อมกับบอกความในใจออกมา ตั้งแต่วันแรกที่น้ำค้างและน้ำตาล เอาโฉนดที่ดินมาจำนองกับเขาไว้ในจำนวนหนึ่ง แต่เขาเสนอให้ทั้งคู่เอาเงินไปในจำนวนที่มากกว่าเดิม กำนันให้เหตุผลว่าสงสารที่น้ำตาลตั้งท้อง แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น กำนันเอกรู้ว่ายังไงสองแม่ลูกก็ไม่สามารถหาเงินมาไถ่คืนได้แน่ ๆ เหตุผลจริง ๆ เขาเพียงต้องการจะให้มารดาของหญิงสาวบังคับให้หญิงสาวมาแต่งงานกับตนเพียงเท่านั้น เพราะตนรู้สึกถูกใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเจอ ในเมื่อพลาดคนพี่ คนน้องก็ยังดี
"เอาอย่างนี้นะหนูหวาน ฉันน่ะก็อยู่เป็นโสดมาหลายปี เมียฉันก็ใจเสาะชิงหนีตายไปเสียก่อน ฉันน่ะเอ็นดูหนูมากเลยนะ ถ้าหนูยอมแต่งงานกับฉัน ฉันก็จะยกหนี้ให้ และฉันจะช่วยส่งเสียเลี้ยงดูหลานของหนูให้จบปริญญาเลยนะ"
"หะ..อะไรนะคะ" หทัยภัทรพยายามดึงมือออกแต่กำนันก็จับแน่นไม่ยอมปล่อย จับอย่างเดียวไม่พอ แถมยังเอานิ้วมาคลึง หทัยภัทรกระชากมือออกอย่างสุดจะทน
"ปล่อยมือหลานฉันเถอะค่ะ พ่อกำนัน เรื่องแต่งงานอะไรนั่น เราขอกลับไปปรึกษากันก่อนเถอะนะ มันปุบปับเกินไป เราคิดไม่ทันกันหรอก "
"ก็ได้เดี๋ยวจะหาว่าฉันรังแกเด็ก ถ้าอย่างนั้น ฉันให้เวลาหนูน้ำหวานสามเดือน ฉันต้องได้คำตอบ ในระหว่างนี้หนูน้ำหวานก็อยู่บ้านหลังนั้นไปก่อนจนกว่าจะครบกำหนดละกันนะ ฉันหวังว่าหนูจะฉลาดพอที่จะเลือกนะ"
เมื่อคุยธุระเสร็จทั้งคู่จึงรีบพากันกลับออกมาทันที เพราะทนอยู่ต่อไม่ไหว มาลีเองก็นั่งด่ากำนันเอกไปตลอดทาง ส่วนหทัยภัทรเองก็มึนงงจนพูดอะไรไม่ถูก แต่สิ่งเดียวที่รู้คือเธอจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อเด็ดขาด
"ขอบคุณนะคะป้ามาลีที่ไปเป็นเพื่อนหวาน" หญิงสาวบอกป้าของเธอด้วยความจริงใจ ถ้าป้าเธอไม่ไปด้วย ไม่รู้กำนันเอกจะทำอะไรเธอ แค่ตอนนั้นก็ดึงมือเธอไปจับ ดีนะที่ป้ามาลีช่วยเอาไว้กำนันจึงปล่อยมือเธอ
"น้ำหวาน ป้าพูดจริง ๆ นะ พาเจ้ามาร์คไปหาพ่อมันเถอะ ป้ารู้ว่าพ่อเจ้ามาร์คมันรวยแม่เราเคยพูดให้ฟัง ส่วนบ้านหลังนี้น่ะ ถ้ามันมีแต่ความทรงจำที่เจ็บปวด น้ำหวานก็ปล่อยมันไปเถอะนะลูก ไปหาที่อยู่ใหม่ หรือถ้าไม่รู้จะไปไหนก็มาอยู่กับป้าก่อนก็ได้"
"หวานขอคิดดูก่อนนะคะ "
"จ้า อย่ายอมไปเป็นเมียไอ้เ*******ูนั่นเลยนะ "
"หวานไม่ยอมหรอกค่ะ"
"ดีแล้วลูก ไปรับหลานเถอะ ได้เวลาแล้วนี่"